รีวิวฉบับที่ 1645 … สวัสดีค่ะ วันนี้พาไปชมโครงการ The Excel ลาซาล17 อีกหนึ่งโครงการจาก All Inspire ในซอยสุขุมวิท 105 (ลาซาล) เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 4 อาคาร มาใน Concept “โลกสวยมีอยู่อยู่จริง” เพราะเค้าจัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้ขนาดใหญ่ มีสระว่ายน้ำยาว 50 เมตร ทุกอาคารสามารถมองเห็นพื้นที่สวนและสระส่วนกลางได้  ใครที่เลือกห้องอยู่ทางทิศเหนือก็จะมองเห็นสนามกอล์ฟราชนาวี บางนาด้วย โดยโครงการตั้งอยู่ในซอยลาซาล 17 ห่างจาก BTS สถานีแบริ่ง 1.2 กิโลเมตร ในราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท

Fact @ 2 August 2018

  • THE EXCEL Lasalle 17  (ดิ เอ็กเซล ลาซาล 17)
  • บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางนา
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวนรวมทั้งหมด 581 ยูนิต
  • อาคาร A 133 ยูนิต, อาคาร B 140, ยูนิต อาคาร C 133 ยูนิต, อาคาร D 175 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 25 ยูนิตที่อาคาร D
  • ที่จอดรถประมาณ 46% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ที่ดินประมาณ 4-3-62 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  มีนาคม 2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มิถุนายน 2563
  • Studio 25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น)
  • 1 Bedroom 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น)
  • 1 Bedroom Plus 34.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 44 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 69,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด รอข้อมูลจากทางโครงการ
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : รอข้อมูลจากทางโครงการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 02-029-9999

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.66231, 100.60978

แผนที่จากทางโครงการค่ะ จะเห็นว่าโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่ง 1.2 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปยังถนนศรีนครินทร์ ถนนบางนาตราด และทางด่วนได้สะดวก

 

ซอยลาซาล หรือ ซอยสุขุมวิท105 ถือเป็นทำเลสุขุมวิทช่วงปลายๆที่มีทั้งชุมชนดั้งเดิม โครงการแนวราบ และคอนโดมิเนียมที่พัฒนาตามแนวรถไฟฟ้า ที่มีราคาพอจับต้องได้ ตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ในซอยลาซาล17 ห่างจาก BTS แบริ่งประมาณ 1.2 กิโลเมตร ถ้าใครขี้เกียจเดินทางโครงก็มี Shuttle Bus วิ่งรับส่งรถไฟฟ้าให้ นอกจากนั้นในซอยยังมีวินมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว วิ่งรับส่งตลอดทั้งซอย ถ้าออกมาถนนใหญ่ก็เรียกแท็กซี่ รถเมล์ หรือ ไปขึ้นรถตู้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางได้  การเดินทางโดยไม่ใช้รถจึงถือว่าสะดวกดี สำหรับใครมองหาคอนโดที่ใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองโดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย โครงการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ จะหนาแน่นช่วงต้นซอยติดกับถนนสุขุมวิท ซึ่งจะมีทั้ง ร้านค้า ร้านอาหาร Hypermarket หรือตลาดสด โดยซอยลาซาล17 เองก็จะมี Family Mart อยู่หน้าปากซอยเลย  ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าในซอยนี้มีร้านสะดวกซื้อเยอะมาก นับจากถนนใหญ่เข้ามายังที่ตั้งโครงการเลยก็จะผ่านTesco Lotus Express , 7-eleven , Family Mart , CP Fresh Mart  ทำให้ง่ายต่อการซื้อหาของกินและของใช้  ซื้อได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนั้นในละแวกใกล้เคียงรัศมี 3 กิโลเมตร ก็มีสาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่างๆครบครัน ทั้ง ห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียลสำโรง , เซ็นทรัลบางนา,  Seacon Square , Paradise Park และ Mega Bangna ส่วนในอนาคตพื้นที่บริเวณตรงข้ามไบเทคบางนาจะมีโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ที่ชื่อว่า Bangkok Mall หรือไม่ต้องจับตาดูกันอีกทีค่ะ  นอกจากนั้นยังมีสนามกอล์ฟ โรงพยาบาล  Centerpoint Studio รวมไปถึงโรงเรียนนานาชาติ โรงแรม โรงพยาบาล สถานีตำรวจ ทำให้ย่านนี้มีความครบครันและอุดมสมบูรณ์ทีเดียว

การเดินทางโดยใช้รถ จากโครงการสามารถใช้เส้นทางเข้าเมืองได้จากทางถนนสุขุมวิท ตรงไปยาวๆเลยก็จะเข้า เอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศกได้ แต่จะมีการจราจรหนาแน่นตลอดทั้งวัน เราสามารถเลี่ยงการใช้เส้นทางด้วยทางด่วนสามารถขึ้นทางด่วนได้หลายเส้นทาง ทั้งทางด่วนบางนา ทางด่วนสุขุมวิท62 และทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก สำหรับอีกฝั่งหนึ่งของซอยหรือฝั่งท้ายซอยจะไปเชื่อมกับถนนศรีนครินทร์ เส้นนี้ใช้วิ่งไปขึ้นเหนือไปบางนา หรือ ลงใต้ไปสมุทรปราการได้ อีกทั้งเส้นนี้ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอีกด้วย ในซอยลาซาลนั้นมีซอยลัดให้เลือกใช้นะ ถ้าไม่อยากวิ่งออกถนนใหญ่ สามารถเชื่อมไปยังซอยแบริ่ง (สุขุมวิท 107) หรือ ถนนบางนาได้เลย

ใครที่อยากใช้ทางด่วน จะมีจุดขึ้นทางด่วนบางนา จะอยู่ที่แยกบางนาห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กิโลเมตร ทางด่วนสุขุมวิทห่างจากโครงการประมาณ 5.6 กิโลเมตร และทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษกห่างจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร

การเดินทางในวันนี้เราใช้รถไฟฟ้า BTS มาลงยังสถานีแบริ่ง ใช้ทางออกที่ 1 เพื่อเดินมาเข้าซอยลาซาล (ซอยสุขุมวิท 105) เดินตรงมาเรื่อยๆเพื่อชมสภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ของโครงการ มาเลี้ยวเข้าซอยลาซาล17 รวมระยะทางแล้วประมาณ 1.2 กิโลเมตรก็จะถึงกับโครงการค่ะ ใครขี้เกียจเดินก็เรียกพี่วินได้นะ มีอยู่ที่หน้าซอยลาซาลเลย หรือขาออกจากโครงการไป BTS ก็เรียกจากหน้าซอยลาซาล17 ได้เลย ว่าแล้วอย่ารอช้า ไปเดินเล่นชมทำเลกันค่ะ

มาดูตัวอย่างกันเดินทางจากรถไฟฟ้า BTS ไปยังโครงการกันค่ะ เริ่มจากนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีแบริ่งก่อน สถานีแบริ่งเป็นส่วนต่อขยายนะคะถ้าใครเดินทางแบบเป็นเที่ยวจะต้องเสียเพิ่ม 10 หรือ 15 บาท(แล้วแต่ประเภทบัตร)เพิ่มเติม

เมื่อแตะบัตรออกแล้ว ให้เราออกไปยังฝั่งทางออกที่ 1  เพื่อเดินลงไปยังซอยแบริ่ง ทางด้านล่างจะมองเห็นสนามฟุตบอลของโรงเรียนนานาชาติ St.Andrews เป็นจุดสังเกตค่ะ

เดินลงมาด้านล่างไปทางซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล)

โดยความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ค่อนข้างดีมาก หาของกินง่าย อีกฝั่งของ BTS ก็สามารถเดินไปยัง APT แบริ่งมอลล์ เพื่อซื้อของกินหรือชอปปิ้งได้

ตั้งแต่ทางเข้าซอยด้านซ้ายมือก็มี 7-eleven สะดวกต่อการซื้อของก่อนนั่งวินเข้าไปในโครงการค่ะ หรือถ้าใครเดินก็จะเจอทั้ง 7-eleven, Family Mart, Lotus Express, CP Fresh Mart อยู่ระหว่างทางก่อนถึงลาซาล 17 ถือว่าหาของกินของใช้สะดวกมาก

เมื่อมองกลับไปเราจะเห็นป้ายซอยลาซาล สำหรับคนที่มาทางเส้นสุขุมวิท ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยลาซาลก่อนถึงสถานี BTS แบริ่ง

เมื่อเข้าซอยจะเห็นว่ามีโรงเรียนนานาชาติ St.Andrews ทางขวามือ และ 7-eleven ด้านซ้ายมือค่ะ เดินตรงไปอีกหน่อยจะมีวินมอไซค์อยู่ด้านหน้าเลยค่ะซึ่งค่าโดยสารไปซอย 17 เพียง 10 บาทเท่านั้น

เดินเลยวินมอไซค์มาแล้วจะเจอจุดสังเกตก่อนถึง Sale Gallery ด้านขวาคือสตูดิโอ Centerpoint Entertainment และด้านซ้ายเป็นลานจอดรถ บริการสำหรับคนที่ต้องการจอดรถด้านหน้าซอยแล้วโดยสาร BTS หรือเดินทางต่อโดยไม่ใช้รถด้วยค่ะ

สตูดิโอ Centerpoint Entertainment ก่อนถึง Sale Gallery

Sale Gallery ของโครงการ The Excel ลาซาล 17 อยู่ที่ซอยลาซาล 1  ส่วนโครงการตั้งอยู่ที่ซอย 17 ค่ะ

เมื่อเดินผ่านซอย 1 แล้วนะคะ เราก็เดินตรงมาเรื่องๆ ระหว่าง 2 ข้างทางส่วนใหญ่จะเป็นอาคารแถวสูง 3-4 ชั้นส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัย จะมีเป็นร้านด้านล่างบ้าง เช่นร้านตัดผม ร้านขายขนม ร้านอาหาร ร้านขายของจิปาถะ เป็นต้น ตรงซอย 10 จะมีตลาดนัดอยู่ซึ่งเปิดตลอดทั้งวันบางร้าน ออกมาหาของกินสะดวกค่ะ

หลังจากผ่านตลาดลาซาล 10 ไปแล้วก็จะเห็นว่ามีร้าน Hypermarket และร้านสะดวกซื้อไม่ว่าจะเป็น 7-eleven, Family Mart, Lotus Express และ CP Fresh Mart สะดวกต่อการจับจ่ายใช้สอยตามความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ

ภาพรวมสถานที่หาของกินแถวโครงการ อย่างที่บอกว่ามีครบเลยอยู่ใกล้ๆกันอีกต่างหาก

เมื่อมาถึงซอย 17 แล้ว จะเห็นว่ามี Family Mart อยู่ด้านหน้าซอยนอกจากนั้นยังมีวินมอไซค์ตรงนี้ด้วยค่ะ นั่งไปปากซอยลาซาล 10 บาท โครงการจะอยู่ด้านในต้องเดินเข้าซอยไปก่อนค่ะ

เมื่อเดินมาประมาณ 180 เมตร จะเห็นทางแยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยย่อย มีป้ายโครงการติดเพื่อบอกทางอยู่ค่ะ ทางเดินภายในซอยจะผ่านที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ มีร้านอาหารบางเล็กน้อย มีร้านส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว และตามสั่ง แต่หลังจากเข้าซอยย่อยแล้วก็จะไม่มีร้านอาหารแล้วค่ะ จะมีเป็นเพียงร้านแผงลอยและรถเข็นด้านใน

เดินเข้าซอยตรงไปเรื่อยๆจนสุดซอยประมาณ 120 เมตร จะถึงที่ตั้งของโครงการค่ะ ระหว่างทางไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรเท่าไหร่ อาจจะเปลี่ยวในเวลากลางคืน

ระหว่างทางก่อนเข้าถึงโครงการจะเป็นโรงงานและโกดัง ตอนเย็นๆค่ำๆอาจจะเงียบๆหน่อย ถ้าใครไม่อยากเดินทางโครงการเค้ามีรถรับ-ส่งไปที่รถไฟฟ้าให้เพื่ออำนวยความสะดวกให้นะ

ถึงที่ตั้งขอโครงการแล้วค่ะ มีร้านค้าแผงลอยและรถเข็นมาขายของกินกันบริเวณนี้ โดยที่ตั้งโครงการจะอยู่ใกล้กับโรงงานทำให้มีพนักงานเดินซื้อของร้านค้าในเวลาช่วงพักกลางวันอยู่เยอะค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยนะคะ ไม่ค่อยมีอะไรมาบดบังวิว จะมีทางทิศใต้ที่เป็นอาคารสำนักงานสูง 4 ชั้น ส่วนทางทิศเหนือจะได้วิวของสนามกอล์ฟ ราชนาวี บางนาด้วยค่ะ โดยที่ดินมีแต่ละด้านติดกับ

  • ทิศเหนือ ติดกับ สนามกอล์ฟราชนาวี บางนา
  • ทิศตะวันออก ติดกับ โรงงานสูง 2 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ อาคารสำนักงาน 4 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น

ด้านหลังโครงการทางทิศเหนือจะเห็นเป็นพื้นที่สีเขียว ของสนามกอล์ฟราชนาวี บางนาค่ะ

ด้านขวาฝั่งทิศตะวันออกจะติดกับโรงงานซึ่งสูงประมาณ 2 ชั้น

ทิศตะวันตกติดกับชุมชน ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

ทิศใต้ ติดกับอาคารสำนักงานสูง 4 ชั้น อาจทำให้บังทัศนียภาพของคนที่อยู่ในอาคารบางส่วนค่ะ

ร้านค้าบริเวณทิศใต้ที่ติดกับอาคารสำนักงานสูง 4 ชั้น ส่วนใหญ่จะขายของกินค่ะ ถนนซอยนี้เป็นถนนส่วนบุคคลมีรถผ่านเข้าออกเพียงมอไซค์ของชาวบ้านแถวนั้นเท่านั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • BTS แบริ่ง – 1.2 กิโลเมตร
  • Summer Lasalle – 1.2 กิโลเมตร
  • Dadfa Lasalle – 1.4 กิโลเมตร
  • Lasalle Avenue – 2.5 กิโลเมตร
  • Bangkok Mall – 3.8 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลศิครินทร์ – 4.7 กิโลเมตร
  • Makro – 5.0 กิโลเมตร
  • Big C – 5.1 กิโลเมตร
  • Central Bangna – 5.6 กิโลเมตร
  • BTS เอกมัย – 8.8 กิโลเมตร
  • BTS ทองหล่อ – 9.6 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ The Excel ลาซาล17  เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 4 อาคาร 581 ยูนิต โดยมีแนวคิดการออกแบบ คือ ‘โลกสวยมีอยู่อยู่จริง’ ให้ลูกบ้านได้ชื่นชมบรรยากาศธรรมชาติ กับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำยาว 50 เมตร มีม่านน้ำตกสร้างบรรยากาศกลางสระว่ายน้ำ ทุกอาคารสามารถมองเห็นพื้นที่สวนส่วนกลาง และมีวิวด้านทิศเหนือมองเห็นสนามกอล์ฟราชนาวี บางนา

อาคารทั้งหมด 4 อาคารแบ่งเป็น อาคาร A, B, C และ D โดยทุกอาคารหันหน้าเข้าหากัน มีส่วนกลางอยู่ตรงกลางทางเข้า-ออก อยู่ทางด้านทิศตะวันออกซึ่งเป็นทางเข้าออกทางเดียวทำให้ควบคุมความปลอดภัยได้ง่าย โดยอาคาร C ด้านหลังจะเห็นวิวที่ดีที่สุดทางทิศเหนือคือ วิวสนามกอล์ฟราชนาวี บางนา ด้านหลังของอาคาร A และ B จะเห็นวิวชุมชน เป็นอาคารบ้านเรือนสูง 1-2 ชั้น ซึ่งถ้าผู้พักอาศัยอยู่ชั้น 4 ขึ้นไป ก็จะไม่มีกลุ่มอาคารมาบดบังสายตา ด้านหลังตึก A ฝั่งทิศใต้ติดกับอาคารสูงประมาณ 4 ชั้น ซึ่งทำให้ไม่ได้รับมุมมองที่ดี และด้านสุดท้าย ด้านหลังอาคาร D ติดกับโรงงานสูง 2 ชั้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบด้านเสียงเล็กน้อย แต่โครงการได้ทำรั้วและแนวต้นไม้กั้นเพื่อลดมลพิษทางเสียงลง และช่วยเพื่มมุมมองสีเขียวให้สบายตา แต่ก็ได้เพียงบางชั้นเท่านั้นนะคะ

ทางเข้า-ออกด้านหน้าโครงการอยู่ทางทิศตะวันออก ซึ่งอาคาร A และอาคาร D จะใกล้ทางเข้า-ออกที่สุด สำหรับคนที่เดินทางด้วยการเดินนั้นจะสะดวกกว่าอาคาร B และ C ค่ะ แต่ก็อาจจะต้องแลกกับมีผู้คนสัญจรเข้า-ออกอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ไม่ส่วนตัวเท่าอาคารด้านหลังค่ะ

ตรงกลางของอาคารนั้นทางโครงการออกแบบให้เป็นพื้นที่ Facilities สำหรับลูกบ้านทุกคนได้มาพักผ่อนและเสพกับบรรยากาศธรรมชาติ เช่นมานั่งเล่นที่ Reading Garden หรือจะว่ายน้ำออกกำลังกายในสระว่ายน้ำยาว 50 เมตรลอดใต้อาคาร ซึ่งอาคาร A และ B จะใกล้ส่วน Facilities มากที่สุด สำหรับคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางแนะนำให้อยู่อาคาร A หรือ B แต่ถ้าชอบความสงบแนะนำให้ อยู่อาคาร C หรือ D มากกว่าค่ะ

ส่วน Facilities ทั้งหมดของโครงการจะอยู่ด้านล่างเป็นส่วนใหญ่ จะมี Fitness และ Co-Working Space ที่อยู่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร B ซึ่งการเข้าถึงห้อง Fitness และ Co-Working Space นั้น จะต้องเข้าจากชั้นล่างเท่านั้น รวมถึงลูกบ้านที่อยู่อาคาร B ด้วยที่จะใช้งานก็จะต้องลงมาที่ชั้น 1 ก่อนแล้วค่อยขึ้นไปยังชั้น 2 ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ที่ทางโครงการกำหนดไว้เป็นแบบนี้ก็เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยอาคาร B ด้วยนั่นเองค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Reading Garden หน้าอาคาร A มานั่งอ่านหนังสือหรือพักผ่อนบริเวณนี้ก็จะเห็นสระว่ายน้ำ และม่านน้ำตกบริเวณใต้อาคารที่สระว่ายน้ำลอดผ่าน ให้บรรยากาศผ่อนคลาย

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Garden และสระว่ายน้ำ บริเวณหน้าตึก A ซึ่งลูกบ้านจะสามารถว่ายน้ำในสระยาว 50 เมตรได้อย่างเต็มที่ และมองเห็นบรรยากาศของส่วนกลางชั้น 1 คือ Lobby และ Fitness กับ Co-Working ชั้น 2 อีกด้วย

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณจุด Drop Off หน้า Lobby ของโครงการซึ่งอยู่บริเวณชั้นล่างของอาคาร B

ภาพจำลองบรรยากาศภายในบริเวณ Lobby เป็นโถงสูง 2 ชั้นสามารถเดินขึ้นไปยังด้านบน ซึ่งเป็นส่วน Co-Working Space ได้

Facilities ด้านหลังของโครงการจะมีสระว่ายน้ำที่ยาวเชื่อมต่อมาจากด้านหน้า โดยมีที่นั่งริมสระว่ายน้ำเพื่มขึ้นมา มีสวนสำหรับมาเดินเล่น หรือนั่งชมจากภายในห้อง โดยผู้ที่อยู่อาคาร B, C และ D สามารถเห็นได้ นอกจากนั้นด้านบนดาดฟ้าของอาคาร B และ C ยังมีสวน Rooftop Pavilion สามารถขึ้นมาใช้งานเดินเล่นชมวิวสนามกอล์ฟราชนาวีได้ (อาคารC) และ Rooftop ด้านบนอาคาร C ยังมี Panoramic Star View Rooftop สำหรับดูดาวในตอนกลางคืนอีกด้วย เหมาะสำหรับการพักผ่อนใครที่อยู่ห้องเบื่อๆก็ออกมาเดินดูดาวได้ค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศ สระว่ายน้ำส่วนกลางยาว 50 เมตร ที่ลอดผ่านใต้อาคาร B

ภาพจำลองบรรยากาศ ม่านน้ำตกระหว่างพื้นที่ Lobby และส่วนกลางใต้อาคาร B เพิ่มบรรยากาศและเสียงน้ำตกให้รู็สึกผ่อนคลาย

ภาพจำลองบรรยากาศ สวนและสระว่ายน้ำบริเวณหน้าอาคาร B มีเก้าอี้นั่งอาบแดดข้างสระว่ายน้ำ สำหรับมานั่งเล่นพักผ่อน

ภาพจำลองบรรยากาศภายในส่วน Co-Working Space นั่งทำงานได้หลายรูปแบบ จะมานั่งเป็นกลุ่ม นั่งทำงานคนเดียวหรือมานั่งอ่านหนังสือเล่นก็มีหลายมุมให้เลือกตามความชอบของแต่ละคนค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Fitness มีเครื่องออกกำลังกายหลากหลาย สามารถมองเห็นวิวสวนขณะออกกำลังกายได้

บริเวณสวน Rooftop Pavilion จะมีอยู่ที่ดาดฟ้าอาคาร B และ C สามารถเดินเชื่อมกันได้ เมื่ออยู่บริเวณดาดฟ้าอาคาร C จะมองเห็นวิวสนามกอล์ฟราชนาวี และในเวลากลางคืนสวนด้านบนของอาคาร C มีพื้นที่ Panoramic Star View Rooftop ซึ่งโครงการได้มีการติดตั้งกล้องดูดาวให้ด้วยค่ะ

Rooftop Pavilion ด้านบนทั้ง 2 อาคารสามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศ บริเวณ Rooftop Pavilion บนดาดฟ้าอาคาร C ที่มองเห็นวิวสนามกอล์ฟราชนาวี บางนา

ภาพจำลองบรรยากาศ บริเวณ Panoramic Star View Rooftop ในเวลากลางคืน ที่ทางโครงการติดตั้งกล้องสำหรับดูดาวให้ลูกบ้านได้ขึ้นมาชมบรรยากาศยามค่ำคืน

มาดูผังของโครงการกันบ้างนะคะ ทางเข้า-ออกของโครงการจะอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกจุดเดียวเพื่อให้ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย ในชั้น 1 จะเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถทั้งหมด 259 คัน คิดเป็น 46.6 % การวางผังของโครงการจัดให้แต่ละอาคารล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลาง  พื้นที่ส่วนกลางชั้นล่างจะมีสระว่ายน้ำยาว 50 เมตร สวนสำหรับนั่งเล่น และส่วน Lobby ริมสระว่ายน้ำ ซึ่งอาคาร A และ D จะค่อนข้างใกล้กับทางเข้าออก ส่วนอาคาร A และ B จะสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้สะดวก ส่วนอาคาร C นั้นเป็นส่วนตัวสุดสามารถขึ้นไปสวนดาดฟ้าเพื่อชมวิวสนามกอล์ฟได้ โดยแต่ละอาคารจะมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ไม่มี Service Lift อัตราส่วนห้องต่อลิฟท์รวมทั้งโครงการ 72.6 :  1 ซึ่งถือว่ามีจำนวนลิฟต์ที่เพียงงพอและจะรอไม่นาน โดยมีอัตราส่วนลิฟต์แยกอาคารดังนี้  อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 66.5 : 1 อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 70 : 1 อัตราส่วนลิฟท์ตึก C 66.5 : 1 และอัตราส่วนลิฟท์ตึก D 87.5 : 1 เยอะที่สุดแต่ยังอยู่ในจำนวนที่เพียงพอไม่หนาแน่น

 

ชั้นที่ 2 จะมีส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง Fitness และ Co-Working Space อยู่ที่อาคาร B ถ้าลูกบ้านที่อยู่อาคารอื่นอยากเข้ามาใช้งานก็สามารถเดินมาขึ้นจากอาคาร ฺB ชั้น 1 ได้ค่ะ ทางโครงการจะแยกทางขึ้น-ลงของส่วนกลางกับส่วนพักอาศัยไม่ให้ปนกันเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านที่อยู่อาคาร B ส่วนตัวลูกบ้านอาคาร B เองถ้าอยากเข้าใช้งานส่วนกลางก็ต้องลงมาที่ชั้น 1 ก่อนแล้วค่อยขึ้นทางขึ้นของส่วนกลางค่ะ ส่วนพื้นที่ชั้น 2 ของอาคารอื่นจะวางห้องพักอาศัยไว้เหมือนกันทุกชั้นโดยส่วนใหญ่โถงลิฟต์จะอยู่ประมาณกึ่งกลางของพื้นที่ทำให้ไม่มีฝั่งใดฝั่งหนึ่งเดินไกลยกเว้นที่อาคาร C โถงลิฟต์จะอยู่ค่อนไปทางทิศตะวันตก ทำให้ 2 ห้องด้านบนมีความเป็นส่วนตัวที่สุดเนื่องจากไม่มีคนอื่นเดินผ่านหน้าห้อง แต่ห้องที่อยู่ทางทิศตะวันออกต้องเดินไกลหน่อย

ห้องพักอาศัยที่มีเยอะที่สุดในโครงการ เป็นห้องประเภท 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. (สีเทาอ่อน) และ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตร.ม.(สีน้ำตาล) ลองลงมา โดยห้องพักอาศัศที่ได้วิวสวย เช่นส่วนตรงกลางและฝั่งวิวสนามกอล์ฟราชนาวี จะเป็นห้อง 1 Bedroom Plus และห้อง 2 Bedroom เป็นส่วนใหญ่ซึ่งราคาห้องก็จะสูงกว่าห้อง 1 Bedroom ปกติส่วนห้อง Studio ซึ่งเป็นห้องที่ขนาดเล็กที่สุดอยู่ที่ 25 ตร.ม. (สีเทาเข้ม) จะอยู่ในที่พื้นที่ที่เห็นวิวได้น้อยหรือบริเวณใกล้กับโถงลิฟต์ เวลามีคนมาใช้งานอาจมีเสียงบ้างแต่ราคาห้องก็จะถูกที่สุดค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางบนชั้นดาดฟ้าจะอยู่ที่อาคาร B และ C โดยเป็นส่วน Rooftop Pavilion ให้ลูกบ้านได้ออกมาเดินสูดอากาศชมวิว และดูดาวได้ในเวลากลางคืนตรงส่วน Panoramic Star View Rooftop ซึ่งทางโครงการได้มีกล้องดูดาวไว้ให้ด้วยค่ะ Rooftop ทั้ง 2 อาคารสามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ การเข้าถึงพื้นที่ดาดฟ้าต้องเดินขึ้นบันไดมาจากชั้น 8 นะคะในส่วนนี้ไม่มีลิฟต์ให้ คนที่อายุเยอะเดินไม่ค่อยไหวอาจจะขึ้นมาเดินเล่นด้านบนลำบากค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 50 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • Rooftop Pavilion
  • C0-Working Space
  • Reading Garden
  • Relaxing Area
  • Panoramic Star View Rooftop
  • Shuttle Service to BTS แบริ่ง
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 72.6 :  1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 66.5 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 70 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก C 66.5 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก D 87.5 : 1
  • Service Lift – ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 259 คันคิดเป็น 46.6% รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

มาดูห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 30 ตารางเมตร​กันค่ะ ในห้องนี้ เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นครัวที่กั้นห้องแยกเป็นครัวปิด และห้องนอนที่กั้นเป็นสัดส่วนดี ครัวเป็นแบบปิด เราสามารถทำอาหารทานในห้องได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่น อีกทั้งครัวยังเชื่อมกับระเบียงทำให้เวลาทำกับข้าวสามารถเปิดประตูที่ระเบียงเพื่อระบายอากาศได้ มีพื้นที่​สำหรับ​รับประทาน​อาหารอยู่ใน​ครัวเลย เวลาทานอาหารก็เป็นสัดส่วนดี ห้องน้ำจะอยู่ส่วนห้องนั่งเล่น เวลามีคนมาที่ห้องแล้วขอใช้ห้องน้ำจะสามารถเข้าได้เลย ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนให้เสียความเป็นส่วนตัวโดยห้องน้ำกั้นเป็นสัดส่วนดี แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกสะดวกต่อการใช้งาน ส่วนห้องนอนจะมีหน้าต่างบานใหญ่ทำให้เห็นวิวได้กว้างและเปิดระบายอากาศได้ จัดว่าเป็นห้องที่ฟังก์ชันการใช้งานต่างๆครบค่ะ

Furniture ที่นี่ให้เป็นแบบ Fully Furnished แบบเดียวกับที่ในห้องตัวอย่างให้เลยค่ะ (ยกเว้นพร็อบ) เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดจาก SB Furniture

เมื่อเข้าห้องมาอันดับแรกที่เจอคือห้องนั่งเล่น และเห็นส่วนของห้องครัว เป็นครัวปิดกั้นด้วยผนังกระจกบานกรอบอลูมิเนียมสีดำเปิด 2 ตอน ประตูกระจกทำให้ห้องดูโล่งและคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นสามารถมองเห็นวิวที่ระเบียงได้ด้วย การที่เปิดเข้ามาแล้วเจอห้องนั่งเล่นก่อนมีข้อดีคือมีความเป็นส่วนตัวเมื่อชวนเพื่อนมานั่งเล่นก็ไม่ต้องผ่านส่วนอื่นก่อนค่ะ

ห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีที่ 3.20 เมตร วางทีวีขนาด 42-46 นิ้วได้ค่ะ สิ่งที่เราจะได้ในห้องนี้คือ โต๊ะ, ชั้นวางทีวี, ตู้รองเท้าด้านข้าง และโซฟา พื้นเป็นพื้นกระเบื้องยางลายไม้ทั้งหมด ยกเว้นส่วนห้องน้ำ ครัว และระเบียง

โซฟาที่ได้นะคะเป็นโซฟา 2 ที่นั่ง มีที่วางแขนฝั่งเดียว ทำให้นอนพิงฝั่งหนึ่งและยืดขาไปอีกฝั่งได้โดยไม่ต้องติดที่วางแขน

ชั้นวางทีวีที่ได้มีระยะรวมตู้รองเท้าประมาณ 1.60 เมตร หน้าบานลามิเนตลายไม้ ซึ่งตู้รองเท้าอยู่ด้านข้างประตูทำให้ง่ายต่อการถอด-เก็บรองเท้าก่อนเข้า-ออกจากห้องโดยไม่ต้องวางเกะกะหรือต้องหาตู้มาใส่เอง

ด้านบนเหนือตู้คือตู้ควบคุมไฟฟ้าภายในห้องค่ะ และบานพับของตู้จะใช้เป็นข้อต่ออลูมิเนียบแบบในรูป 4 จุด ทำให้แข็งแรงทนทานสำหรับการใช้งานทุกวัน

ถัดจากทีวีด้านข้างจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งห้อง 1 Bedroom นี้จะมีห้องน้ำเดียวอยู่ที่ส่วนห้องนั่งเล่น เข้าสะดวก เมื่อมีคนมาที่ห้องแล้วจะเข้าห้องน้ำก็สามารถเข้าได้เลยไม่ต้องผ่านห้องนอนก่อน

ห้องน้ำจะแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ยกขอบกั้นประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30×30 เซนติเมตรสีเทาเข้มแบบผิวด้าน ทำให้เวลาอาบน้ำหรือน้ำขังแล้วไม่ลื่นค่ะ ส่วนผนังของห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 เซนติเมตรลายหินอ่อนสีขาวผิวมัน กระจกอ่างล้างหน้าได้เป็นกระจกบานใหญ่เลยค่ะ  ส่วนอ่างล้างหน้าเป็นเซรามิค ก็อกน้ำยี่ห้อ GROHE สุขภัณฑ์ American Standard ฉากกั้นห้องน้ำเป็นกระจกเปลือย Tempered Glass แบบที่เห็นในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องปกติประมาณ 5 เซนติเมตรเพื่อเวลามีน้ำเปียกหรือล้างห้องน้ำจะได้ไม่ไปโดนพื้นด้านนอก

อ่างล้างหน้าได้เหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ วัสดุเป็นเซรามิคสีขาว ลิ้นชักบานลามิเนตลายไม้สามารถดึงลิ้นชักออกมาใส่ของได้

ฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจก Tempered Glass เปลือยมีตัวกนกระแทกให้ที่ผนังด้านใน ราวจับเป็นสเตนเลส แขวนผ้าขนหนูได้

แยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจนด้วยขอบกั้น 5 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคผิวด้าน 30×30 เซนติเมตร

ฝักบัวรองรับระบบเครื่องทำน้ำอุ่น สามารถติดเพิ่มได้บริเวณด้านขวา ของที่แขวนฝักบัว ด้านซ้ายทางโครงการทำช่องสำหรับวางสบู่แชมพูมาให้ซึ่งถ้าใครมีเครื่องอาบน้ำเยอะ แนะนำให้ทำชั้นมาใส่เพิ่มจะได้วางของได้มากขึ้น เนื่องจากเขาทำช่องไว้ให้ยาวถึงฝ้าเพดานเลยค่ะ

เราไปดูครัวกันบ้างนะคะ ครัวเป็นครัวปิดติดกับพื้นที่ระเบียงสามารถทำอาหารได้แบบไม่จริงจังมากเนื่องจากทางโครงการไม่ได้ติดเครื่องดูดควันไว้ให้ แต่ผู้พักอาศัยก็สามารถติดเพิ่มเองได้ ซึ่งถ้าไม่ติดเพอ่มก็ได้โดยการเปิดประตูที่ระเบียงเพื่อระบายอากาศแทน

สิ่งที่จะได้ในครัวนะคะ จะได้เคาน์เตอร์ครัว Top ด้วยลามิเนต High Pressure สีดำ ไม่มีเตาให้แต่ถ้าอยากติดเพิ่มเติมแนะนำเป็นเตาไฟฟ้าเสียบปลั้กจะสะดวกต่อการทำแล้วเก็บมากกว่าเนื่องจากพื้นที่ Top ครัวมีไม่มาก เตรียมอาหารหลายอย่างอาจจะไม่พอค่ะ บานตู้เป็นลามิเนตลายไม้ มีช่องวางไมโครเวฟ ชั้นวางของด้านบน และชุดรับประทานอาหารมาให้ด้วยค่ะ

พื้นที่ด้านข้างของเคาน์เตอร์สำหรับวางตู้เย็นได้ขนาดกว้างxยาว ที่ 70×80 เซนติเมตร

ตู้ด้านล่างของเคาน์เตอร์ให้มาแบบนี้เลยค่ะ มีที่วางช้อนส้อม และตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน อาจจะเก็บได้ไม่เยอะเท่าไหร่ ถ้าคนที่ต้องการเก็บของเยอะแนะนำให้ติด Built-In เพิ่มที่ด้านบนแทน

อ่างล้างจานได้เหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ เป็นอ่างล้างจานสเตนเลสสี่เหลี่ยมขอบมนนี่ห้อ MEX

ชุดรับระทานอาหารที่ได้ จะเป็นโต๊ะทานข้าวสี่เหลี่ยม ขาอลูมิเนียมสีดำพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว (เหมือนกับห้องตัวอย่าง) ซึ่งจัดวางแล้วพอดีกับส่วนครัว

ประตูระหว่างครัวไประเบียงเป็นประตูกระจก บานอลูมิเนียมสีดำเปิด 2 ตอน ทำให้เห็นวิวได้กว้างและเปิดออกไปใช้งานที่ระเบียงได้สะดวก

ระเบียงขนาด 2.20×0.88 เมตร จะมี Condensing Unit ตั้งหันออกข้างที่ระเบียง การหันแบบนี้จะทำให้มีพื้นที่ระเบียงเยอะขึ้นแต่จะทำให้ลมร้อนออกมาที่ระเบียงแนะนำให้ซื้อแผงเปลี่ยนทิศทางลมตามร้านค้าเกี่ยวกับของแต่งบ้านทั่วไป มาติดค่ะ ด้านใต้จะมีที่พอสำหรับวางเครื่องซักผ้าซึ่งทางโครงการเดินท่อและมีปลั้กไฟไว้ให้แล้ว

พื้นระเบียงและส่วนครัวสูงเท่ากัน แต่ยกขอบขึ้นประมาณ 10 เซนติเมตรเพื่อเวลาฝนตกน้ำขังที่ระเบียงจะได้ไม่ไหลเข้ามาให้ห้อง

ราวกันตกของระเบียงให้เป็นกระจกใสพร้อมราวจับอลูมิเนียมซึ่งทำให้เมื่อมองวิวแล้วไม่มีลูกกรงมาแกะกะสายตา ถือว่าดีมากเลยค่ะในคอนโดราคาประมาณนี้

เรามาดูห้องนอนกันบ้างค่ะ ห้องนอนจะถูกแบ่งเป็นสัดส่วน ทำให้มีความเป็นส่วนตัว ด้านบนเหนือประตูทางโครงการติดตั้งแอร์ของห้องนั่งเล่นไว้ให้บริเวณนี้

แอรที่ได้ทั้งในและด้านนอกห้องนอนเป็นแอร์ เบอร์ 5 ประหยัดพลังงาน PASSIO

เมื่อเข้ามายังห้องนอนจะเห็นวิวได้ชัดเจนจากกระจกบานใหญ่ ทำให้ได้แสงธรรมชาติมากและเปิดระบายอากาศได้ดี สิ่งที่จะได้ในห้องนอนคือโต๊ะเครื่องแป้ง ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าค่ะ 

พื้นที่ด้านข้างของเตียงจะเหลือที่ประมาณ 50 เซนติเมตร ซึ่งสามารถเดินเข้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งขวาก็สามารถยืนแต่งตัวได้ เนื่องจากตู้เสื้อผ้าที่ให้เป็นบานเลื่อนทำให้ประหยัดพื้นที่

ส่วนปลายเตียงเหลือที่เดิน 50 เซนติเมตร ยกเว้นส่วนที่วางโต๊ะเครื่องแป้งเมื่อวางไว้ตรงนี้ทำให้พื้นที่เดินแคบลงไปเดินไม่ค่อยสะดวก ใครที่อยากได้พื้นที่กว้างแนะนำให้นำโต๊ะนี้ไปวางเป็นโต๊ะทำงานให้ห้องนั่งเล่นจะดีกว่าค่ะ หรือถ้าใครอยากติดทีวีด้วย แนะนำให้เป็นทีวีแบบติดผนัง เพื่อจะได้ไม่เสียพื้นที่ในการตั้งโต๊ะวางทีวีค่ะ

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้ติดเป็น Built-In อยู่ทางด้านข้างเดียวกับประตู เป็นบานเลื่อนลามิเนตลายไม้ 2 บาน ประหยัดพื้นที่ตอนเปิดหยิบของใช้งานสะดวกค่ะ

ตู้เสื้อผ้าด้านซ้ายจะเป็นพื้นที่สำหรับใส่เสื้อผ้ายาวๆเช่นกางเกงหรือชุดเดรส ด้านบนสามารถเก็บหมอนผ้าห่มได้ ด้านขวาสำหรับเก็บเสื้อและมีลิ้นชักเก็บของเพิ่มให้ด้วยค่ะ

ลิ้นชักเก็บของก็เหมาะเก็บผ้าชิ้นเล็ก ชุดชั้นในเพื่อให้มิดชิดเป็นต้น ภาพด้านล่างเป็น Detail ชองบานเลื่อนของตู้เสื้อผ้า เป็นร่องเล็กๆทำความสะอาดง่ายค่ะ บางคอนโดจะเป็นลานเลื่อนจากพื้นเลยซึ่งร่องจะใหญ่และมีเศษผงเข้าไปติดง่ายแต่ทำความสะอาดยาก

ห้องนอนจะมีแอร์ติดให้ทางปลายเตียง เยื้องไปทางด้านริมหน้าต่าง ไม่โดนตัวคนที่นอนอยู่แบบเต็มๆ ทำให้นอนสบาย

โต๊ะเครื่องแป้งที่ได้สามารถเปิดออกมาเพื่อเก็บของเป็นลิ้นชักและส่องกระจกได้ค่ะ แต่ใครที่อยากนำออกไปเป็นโต๊ะทำงานด้านนอก ก็แนะนำให้ซื้อกระจกตั้งมาเพิ่มในห้องนอน ตอนแต่งตัวก้ได้นะคะ เพราะว่าตู้เสื้อผ้าที่มีอยู่ในห้องนอนไม่มีกระจกให้

ปลั้กและสวิตซ์ไฟเป็นกรอบ PVC สีขาว กดเปิด-ปิด ค่ะ และเต้ารับ 3 ตา ทุกจุด

 

มาต่อกันที่ห้องอีกแบบกันดีกว่าค่ะ ห้องนี้เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตารางเมตร ซึ่งใหญ่กว่าห้อง 1 Bedroom ปกติเพียง 4.5 ตารางเมตร แต่ได้พื้นที่ห้อง Multi-Function เพิ่มขึ้นมา ซึ่งห้องนี้สามารถทำเป็นห้องนอนเล็กอีก 1 ห้องนอนโดยใส่ป็นเตียงเดี่ยวได้ค่ะ แต่ในส่วนการใช้งานอื่นๆปรับเปลี่ยนไป เมื่อเปิดประตูเข้าห้องแล้วจะเจอกับส่วนครัวก่อน ซึ่งห้องนี้จะได้ครัวเปิดรูปตัว L การเป็นครัวเปิดก็ทำให้ไม่สามารถทำอาหารที่มีกลิ่นแรงได้นัก เนื่องจากจะทำให้มีกลิ่นกระจายไปทั่วห้อง มีโต๊ะรับประทานอาหารถัดจากส่วนครัว ซึ่งพื้นที่ค่อนข้างแคบ ถ้าใครอยากกั้นเป็นครัวปิดก็สามารถทำได้ แต่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนการวางตำแหน่งโต๊ะทานข้าวใหม่ให้เก้าอี้ไปอยู่ฝั่งโซฟา หรือหาโต๊ะที่เล็กกว่าเดิมหน่อยค่ะ หรือถ้าใครที่อยากได้พื้นที่เพิ่มมากขึ้น แนะนำให้ย้ายส่วนห้องนั่งเล่นไปอยู่ในห้องอเนกประสงค์และให้พื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นส่วนรับประทานอาหาร กั้นเป็นครัวปิดตรงทางเข้า จะทำให้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น

Furniture ที่ได้ก็เหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ จะแตกต่างจากห้อง 1 Bedroom บางรายการ เช่นตู้รองเท้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ครัว L-Shape และโต๊ะรับประทานอาหารแบบพับเก็บได้ ซึ่งเป็นของ SB Furniture ทั้งหมดค่ะ

เริ่มจากเมื่อเข้าห้องมาจะเห็นส่วนครัวอยู่ทางซ้ายมือ โต๊ะรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น ห้องอเนกประสงค์ไปยังระเบียง เนื่องจากห้องที่ยาวขึ้นทำให้ดูกว้างขึ้นมาก ทั้งๆที่ขนาดเพิ่มจากห้อง 1 Bedroom เพียง 4.5 ตารางเมตร ด้านขวามือจะเป็นส่วนของตู้รองเท้า ห้องน้ำและห้องนอนค่ะ

เมื่อมองกลับไปที่ประตูจะเห็นมุมมองเป็นแบบนี้ค่ะ ครัวเว้นส่วนพื้นที่วางตู้เย็นไว้ให้ขนาด 70×80 เซนติเมตร เค้าเตอร์ครัว L-Shape Top เป็นลามิเนต High Pressure สีดำ บานตู้เป็นลามิเนตลายไม้ทั้งหมด สิ่งที่จะได้คือ ชั้นวางของเหนือครัว เคาน์เตอร์ครัว อ่างล้างจาน (ไม่มีเตาไฟฟ้า) ชุดโต๊ะรับประทานอาหารและตู้รองเท้า 

ตู้รองเท้าจะอยู่ทางด้านขวามือเมื่อเข้าประตู นอกจากจะใส่รองเท้าแล้วยังเก็บของอย่างอื่นได้ค่ะ เช่น ร่ม ปกติตู้เล็กจะใส่ร่มได้ไม่พอ และพื้นที่ด้านข้างจะสามารถเอาเคาน์เตอร์หรือชั้นวางของมาไว้ได้ ในห้องตัวอย่างนี้จัดเป็นตะกร้าผ้าค่ะ

ตู้ควบคุมไฟจะอยู่ด้านบนเหนือตู้เสื้อผ้า ในส่วนใกล้ประตูเช่นเดียวกับห้อง 1 Bedroom ค่ะ

ภาพรวมของส่วนครัวที่ได้ จะเห็นว่าพื้นที่เมื่องนั่งรับประทานอาหารอยู่ทางฝั่งครัว ก็จะไม่สะดวกต่อการล้างจานหรือล้างมือ เพราะพื้นที่จากโต้ะกินข้าวไปยังครัวมีประมาณ 1 เมตรเท่านั้นค่ะ แต่ถ้าใครจะกั้นห้องเป็นครัวปิด ก็สามารถนำเก้าอี้ฝั่งครัวมาวางด้านข้างแทนได้

พื้นระหว่างทางเข้าที่เป็นพื้นที่ครัวและ พื้นห้องรับแขกจะเป็นคนละวัสดุกัน ส่วนครัวพื้นปูกระเบื้อเซรามิคสีเทา ง่ายต่อการทำความสะอาดและป้องกันเวลาเกิดน้ำรั่วหรือน้ำหกเวลาทำครัวด้วยค่ะ ฝั่งห้องนั่งเล่นเป็นพื้นกระเบื้องยางลายไม้มีความทนทานสูง

ครัวของห้อง 1 Bedroom Plus นี้ สามารถเก็บของได้มากกว่าครัวห้อง 1 Bedroom ปกติ แต่อาจจะติดเรื่องระยะการเปิดไปนิด เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างแคบ

อีกฝั่งหนึ่งเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ด้านบนเป็นที่เก็บช้อน-ส้อม ด้านล่างเป็นจุดวางไมโครเวฟ ซึ่งห้องนี้ก็ไม่มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้านะคะ ต้องวางอยู่ที่ระเบียงเช่นกัน นอกจากว่าจะทำห้องเอกประสงค์เป็นห้องสำหรับซักรีดค่ะ

ชุดโต๊ะรับประทานอาหารจะไม่เหมือนกับห้อง 1 Bedroom ห้องนี้จะได้โต๊ะใหญ่กว่าและสามารถพับเก็บได้ แต่ไม่มีที่สำหรับเก็บเก้าอี้ให้ค่ะ แต่สามารถนำไปใช้งานในสวนอื่นได้ เช่นนั่งทำงาน เป็นต้น

ในส่วนถัดไปจะเป็นส่วนนั่งเล่น สิ่งที่จะได้คือ โซฟา และโต๊ะวางทีวีค่ะ

ห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับห้อง Multi-Function กันด้วยกระจกกรอบอลูมิเนียม 3 ตอน เปิดได้กว้างและเห็นวิวจากระเบียงแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เยอะค่ะ แต่ถ้าทำห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอนแล้วอาจจะต้องกั้นม่านเพื่อความเป็นส่วนตัว ก็อาจจะบังวิวห้องนั่งเล่นได้ค่ะ ต้องคอยเปิด-ปิดทุกวัน โดยห้องนั่งเล่นนี้มีระยะดูทีวีที่ 2.30 เมตร วางทีวีที่เหมาะสมอยู่ที่ 26-32 นิ้ว

โต๊ะวางทีวี กว้างขึ้นจากห้อง 1 Bedroom สามารถเก็บของได้มากขึ้นค่ะ ส่วนชั้นด้านบนก็ได้เหมือนกับห้องตัวอย่าง โดยเหมาะกับเอาไว้วางของสะสม หนังสือ หรือตั้งโชว์ของต่างๆ

ประตูระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องอเนกประสงค์ เป็นประตูกระจกใสบานกรอบอลูมิเนียมสีดำ ประตูระหว่างห้องอเนกประสงค์กับระเบียงเป็นกระจกใส 2 ตอนทำให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาได้ถึงห้องนั่งเล่นเลยค่ะ ในห้องนี้ทางโครงการจะให้แอร์มาทั้งหมด 2 ตัว ที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน ไม่มีให้ที่ห้องอเนกประสงค์นะคะ สำหรับคนที่อยากทำเป็นห้องนอนต้องติดเพิ่มเองค่ะ

ห้องอเนกประสงค์ในห้องตัวอย่างนี้ทำเป็นห้องเล่นโยคะ แต่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนเพิ่มได้อย่างที่บอกค่ะ พื้นที่ห้อง 2.3×1.8 วางเตียงเดี่ยวได้โดยหันหัวเตียงไปทางด้านซ้ายหรือขวาก็ได้ค่ะ จะได้เป็น 2 ห้องนอนในราคาห้อง 1 Bedroom Plus หรือจะเป็นห้องทำงานสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ทำงานก็ได้

ติดกับห้องอเนกประสงค์จะเป็นพื้นที่ระเบียง กั้นด้วยกระจกบานใหญ่เปิด 2 ตอนรับแสงธรรมชาติได้มาก

ซึ่งพื้นห้องอเนกประสงค์และพื้นระเบียงจะอยู่ที่ระดับเท่ากัน โครงการออกแบบให้กั้นน้ำเข้าโดยทำแนวขอบกั้นสูงประมาณ 12 เซนติเมตร แทนการลดระดับระเบียง ข้อดีคือเวลาฝนสาดเข้ามาน้ำฝนจะเข้าได้ยากกว่าเนื่องจากขอบถูกยกสูง แต่ก็ต้องระมัดระวังเวลาเดินอาจจะสะดุดได้ ระเบียงห้อง 1 Bedroom Plus จะกว้างกว่าห้อง 1 Bedroom มีขนาดอยู่ที่ 2.6×1.0 เมตร

ห้องนี้ได้กระจกที่ระเบียงเข้ามุมด้วย ทำให้ดูโปร่งเห็นมุมมองได้กว้างขึ้น มากกว่าห้อง 1 Bedroom ปกติค่ะ

แต่ในส่วนของ Condensing Unit วางหันหน้าเข้าด้านข้างก็แนะนำว่าให้ซื้อแผงเปลี่ยนทิศทางลมแอร์มาติดตั้งเพิ่มค่ะ และระเบียงได้ติดตั้งท่อกับปลั้กไว้เผื่อลูกบ้านวางเครื่องซักผ้าด้วยค่ะ

กลับมาดูด้านในห้องกันบ้าง ต่อไปจะพาไปดูห้องนอนค่ะ ซึ่งประตูห้องนอนจะอยู่ด้านตรงข้ามกับประตูห้อง อยู่ใกล้กับส่วนห้องน้ำ เวลากลางคืนอยากลุกมาเข้าห้องน้ำก็ไม่ไกลค่ะ

ห้องนอนของห้อง 1 Bedroom Plus ได้กระจกบ้านใหญ่ เปิดระบายอากาศได้แบบบานเลื่อน รับแสงธรรมชาติและชมวิวได้กว้าง ซึ่งห้องนี้จะจัดลงตัวกว่าห้อง 1 Bedroom เล็กน้อย เนื่องจากมีพื้นที่รอบข้างเหลือเยอะกว่าค่ะ

ด้านซ้ายของเตียงนอนกว้าง 105 เซนติเมตรสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ ทำให้ไม่ต้องวางขวางทางเดิน ส่วนด้านขวาบริเวณหน้าตู้เสื้อผ้ามีพื้นที่เยอะขึ้นทำให้สะดวกมากกว่าในการแต่งตัว

ปลานเตียงเหลือพื้นที่ 55 เซนติเมตร ถ้าอยากติดตั้งทีวี แนะนำให้เป็นทีวีแบบติดผนังจะกินพื้นที่น้อยกว่าวางโต๊ะทีวี เดินสะดวกกว่าด้วยค่ะ

ภายนอกห้องนอนด้านบนมีหลังคากันสาดยื่นออกมาบังแดดและฝนให้กับห้องนอน ช่วยให้ห้องนอนไม่รับแสงแดดเต็มๆ ช่วยประหยัดพลังงานในการทำความเย็น

ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะเหมือนกับของห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ

ในส่วนของห้องน้ำของห้อง 1 Bedroom Plus นั้น จะอยู่บริเวณเสาของอาคารพอดี ทำให้ไม่สามารถติดเป็นกระจกยาวบานใหญ่ได้ จึงได้เป็นกระจกตั้งแบบในรูปแทนค่ะ และสุขภัณฑ์ก็ติดตั้งในช่องที่เว้าเข้าไปแทน ช่องนี้กว่าประมาณ 80 เซนติเมตรซึ่งมากพอที่จะทำให้นั่งสบายไม่อึกอัดค่ะ

นอกจากส่วนที่เว้าเข้าไปและกระจกอ่างล้างหน้าแล้ว นอกนั้นในห้องน้ำ ทุกอย่างเหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ยกขอบกั้นประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30×30 เซนติเมตรสีเทาเข้มแบบผิวด้าน ผนังของห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 เซนติเมตรลายหินอ่อนสีขาวผิวมัน อ่างล้างหน้าเซรามิค ก็อกน้ำยี่ห้อ GROHE สุขภัณฑ์ American Standard และฉากกั้นห้องน้ำเป็นกระจกเปลือย Tempered Glass

พื้นที่ระยะนั่งสุขภัณฑ์ สามารถนั่งได้แบบไม่อึดอัดค่ะ สายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระโครงการก็ติดมาให้ด้วย

ห้องอาบน้ำกั้นด้วยกระจกบานเปลือย ทำให้ดูกว้างเปิดเข้าด้านในให้น้ำไม่ไหลออกข้างนอก และมีจุกกันกระแทกให้ที่ผนังค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @  1 August 2018

  • Studio 25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท หรือ 55,600 บาท/ตารางเมตร (ราคาโปรโมชั่น)
  • 1 Bedroom 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท หรือ 59,667 บาท/ตารางเมตร(ราคาโปรโมชั่น)
  • 1 Bedroom Plus 34.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 44 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Shuttle Bus ไปกลับ BTS แบริ่ง
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน ชำระล่วงหน้า 1 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล

โครงการ The Excel ลาซาล17 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ซอย17 ด้านซ้ายมือจากปากซอย ห่างจากรถไฟฟ้า BTS แบริ่งประมาณ 1.2 กิโลเมตร สามารถเดินทางเข้าซอยได้ด้วยรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งมีป้ายอยู่ทั้งด้านหน้าลาซาลและซอยลาซาล17 หรือโดยสารจาก Shuttle Bus ของโครงการ สามารถเชื่อมกับถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ หรือจะเข้าเมืองผ่านทางถนนสุขุมวิทก็ได้เช่นกันแต่การจราจรจะหนาแน่นตลอดทั้งวัน ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ จะหนาแน่นช่วงต้นซอยติดกับถนนสุขุมวิท ซึ่งจะมีทั้ง ร้านค้า Hypermarket ตลาดที่เปิดตลอดทั้งวัน ด้านหน้าซอย17 เองจะมี Family Mart อยู่ตรงมุมถนน รวมถึงระหว่างเดินทางไปยังที่ตั้งโครงการก็มี Tesco Lotus Express, 7-eleven, Family Mart และ CP Fresh Mart ทำให้ง่ายต่อการซื้ออาหารการกิน

การเดินทางโดยใช้รถ

สามารถเดินทางได้สะดวก มีทางไปออกถนนหลายสายทั้ง บางนา-ตราด, ศรีนครินทร์, สุขุมวิท ถ้าใครต้องการใช้เส้นทางด่วนก็สามารถขึ้นทางด่วนได้หลายเส้นทาง ทั้งทางด่วนบางนา ทางด่วนสุขุมวิท62 และทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งห่างจากโครงการไม่เกิน 6 กิโลเมตร ที่จอดรถของโครงก่ารประมาณ 259 คันคิดเป็น 46.6% อาจจะไม่เยอะมากนัก แต่ถ้าผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ใช้รถสาธารณะ ที่จอดรถน่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ

ถึงโครงการจะอยู่ในซอยย่อย แต่ด้านหน้าปากซอย 17 ก็ยังมีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการ สามารถนั่งไปยัง BTS ได้ในราคา 10 บาท และนั่งกลับโครงการจากวินหน้าปากซอย 10 บาทได้เช่นกัน และโครงการก็ยังมีรถ Shuttle Bus รับส่งถึง BTS แบริ่ง ทำให้ไม่ได้ลำบากในการเดินทางเท่าไหร่ ยกเว้นช่วงกลางคืนที่รถ Shuttle Bus ไม่ได้บริการแล้ว คงต้องระมัดระวังในการเดินทางเล็กน้อยค่ะ

วัสดุ

โครงการให้ Furniture แบบ Fully Furnished มีค่อนข้างเยอะและวัสดุที่ใช้ในโครงการคุ้มค่า ทั้งชั้นวางทีวี, ตู้รองเท้า, ชุดครัว Top ลามิเนต High Pressure แต่ไม่ได้ให้ Hob&Hood นะคะ, ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร, โซฟา, แอร์, ฐานเตียงและโต๊ะเครื่องแป้ง, ตู้เสื้อผ้า ,สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ American Standard กระเบื้องพื้นระเบียง ครัว และห้องน้ำเป็นเซรามิค 30×30 เซนติเมตร ผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 เซนติเมตร พื้นห้องกระเบื้องยาง และชุดเฟอร์ทั้งหมดหน้าบานลามิเนตลายไม้

การออกแบบ

การออกแบบโครงการทั้งหมดให้อาคารหันหน้าเข้าหากันตรงกลางเป็นส่วน Facility ทำให้ทุกอาคารสามารถเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำได้ ถือว่าดีเลย นอกจากนั้นพื้นที่ส่วนกลางยังมีทั้งข้างล่างและบน Rooftop ให้ลูกบ้านได้ใช้งานและชมวิวได้แม่ไม่ได้อยู่ในห้องที่มีวิวดี สระว่ายน้ำที่ได้ลอดผ่านอาคารและมีม่านน้ำตกช่วยเสริมบรรยากาศ ทำให้เป็นพื้นที่ที่สวยงามและน่าผ่อนคลาย และการออกแบบห้องค่อนข้างเป็นสัดส่วนดีทั้ง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ห้อง  1 Bedroom ได้ครัวปิด พื้นที่ใช้สอยลงตัวในพื้นที่ที่ไม่มาก ห้อง 1 Bedroom Plus สามารถทำห้องที่เราต้องการเองได้ เช่นทำห้องทำงาน หรือห้องนอน ในขณะที่ส่วนอื่นยังเป็นสัดส่วนและค่อนข้างลงตัว

สาธารณูปโภค

Facility ที่ได้ในโครงการนี้ค่อนข้างมากกว่าที่อื่นในระแวกเดียวกัน ทั้งสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคที่ยาว 50 เมตร, Fitness , Co-Working Space, Reading Garden, Rooftop Pavilion, Panoramic Star View Rooftop และ Lobby เพดานสูงที่เห็นบรรยากาศสระว่ายน้ำ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และอัตราส่วนลิฟต์ รวมทั้งโครงการ 72.6 :  1 ซึ่งถือว่ามีจำนวนลิฟต์ที่เพียงพอและจะรอไม่นาน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคา AVG 64,000 – 75,000บาท/ตร.ม.,  1 August 2018

  • ทำเล 7.5/10 – ตั้งอยู่ในซอยลาซาล เป็นแหล่งชุมชนและมีร้านสะดวกซื้อครบครัน การเดินทางสะดวกเข้าเมืองได้ง่าย แต่เข้าซอยย่อยไปอีก
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางสะดวก เชื่อมต่อถนนหลายเส้น ใกล้กับทางด่วน ที่จอดรถ 46%
  • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – เดินไกลหน่อยแต่มีมีวินมอไซค์อยู่ที่หน้าซอย และรถรับส่ง Shuttle Bus ของโครงการคอยบริการ
  • วัสดุ 7.75/10 – ได้ Furniture ครบแบบ Fully Furnished วัสดุให้ดีตามมาตรฐาน
  • แบบ 7.75/10 – โครงการออกแบบวางผังได้ค่อนข้างดี การจัดห้องลงตัวและเป็นสัดส่วน
  • สาธารณูปโภค 8.25/10 – ส่วนกลางให้มาเยอะสำหรับคอนโด Low Rise มีสระโอลิมปิกยาว 50 เมตร ตกแต่งสวยน่าใช้งาน

  • MAIN CLASS
  • 7.53 / 10.00

BOTTOM LINE

The Excel ลาซาล 17  เป็นโครงการที่เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดย่านลาซาล-แบริ่ง-บางนา ที่อยู่ในซอยเข้ามาหน่อยเพื่อให้ได้ห้องในราคาที่ไม่สูงมากนัก พร้อมเฟอร์นิเจอร์มาครบไม่ต้องแต่งเพิ่ม แต่ก็ยังเดินทางสะดวกมีของกินหาง่าย และมี Facility ส่วนกลางที่ดี มีงบประมาณประมาณ 1.39 – 3 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 12,000 – 21,000 บาทต่อเดือน