รีวิวฉบับที่ 1109 สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปชมโครงการ SAVVI พหลโยธิน – อารีย์ คอนโดตัวใหม่จาก The Urban Property ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มต้นจากพัทยามาสู่โครงการในกรุงเทพฯ โดยโครงการนี้เป็นคอนโด Low Rise 66 ยูนิต ตั้งอยู่ในซอย พหลโยธิน 2 ซอยใหญ่ที่ใช้ลัดไปออกถนนวิภาวดีได้ ใกล้ BTS อารีย์ และ La Villa เค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหนตามมาชมกันค่ะ
Fact @ 15 June 2016
- Savvi Condominium (แซฟวี่ คอนโดมิเนียม)
- บริษัท เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยพหลโยธิน 2 เขตพญาไท
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 66 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 11 ยูนิต ที่ชั้น 3 – 7
- ที่จอดรถประมาณ 41 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 62%
- ที่ดินประมาณ 0-2-1.4 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : ตุลาคม 2559
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ตุลาคม 2560
- Studio 23.48 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
- 1 Bedroom 29.14 – 34.54 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 45.34 – 69.08 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.00 ล้านบาท
- Duplex 50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.00 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท (ห้องโปรโมชั่น)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 125,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 123,509 – 145,000 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 094-528-5444
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.778541, 100.546645
ที่ตั้งของโครงการ SAVVI พหลโยธิน – อารีย์ ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 2 รถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ BTS สถานีอารีย์
ทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยพหลโยธิน 2 ใครที่ใช้เส้นทางโซนนี้บ่อยๆจะคุ้นเคยกันดีว่าเป็นซอยที่เป็นทางยกระดับเชื่อมถนน พหลโยธินกับถนนวิภาวดีรังสิตเข้าด้วยกัน โดยจะมาออกบริเวณโรงพยาบาลทหารผ่านศึกบนถนนวิภาวดี ซึ่งซอยนี้เป็นเส้นทางที่มีรถวิ่งผ่านตลอดทำให้ค่อนข้างจะคึกคัก สำหรับตัวโครงการจะอยู่ในซอยย่อยอีกทีระยะทางจากหน้าปากซอยถึงโครงการประมาณ 460 เมตร ในซอยนี้เส้นทางจะเป็นเหมือนใยแมงมุมเชื่อมกันตั้งแต่ซอย 2-4-6-8 ทะลุไปถึงอินทามระ ไปออกถนนสุทธิสารได้เลย ในซอยอารีย์ฝั่งเลขคู่นี้ สภาพแวดล้อมและบรรยากาศจะเป็นโซนที่อยู่อาศัย ค่อนข้างเงียบสงบกว่า ต่างกับพหลโยธินฝั่งเลขคี่อย่างซอยราชครูและซอยอารีย์ ที่จะมีร้านอาหาร ร้านค้า ร้านนั่งชิลต่างๆ
ถ้ามองรวมๆทำเลนี้ การเดินทางถือว่าสะดวกทั้งในส่วนของระบบขนส่งสมัยใหม่อย่างรถไฟฟ้าสถานี BTS อารีย์ที่อยู่บนถนนใหญ่พหลโยธินและการใช้รถส่วนตัวเดินทางเพราะมีถนนใหญ่ขนาบข้างหลายเส้น ไม่ว่าจะเป็นถนนพหลโยธิน , ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นโทลล์เวย์เข้าเมืองไปทางดินแดง-อโศก หรือว่าจะออกนอกเมืองไปยังแถบรังสิต , ถนนพระราม6 สามารถใช้ซอยราชครูตรงไปเรื่อยๆข้ามคลองประปาพอดี ความสำคัญคือเป็นที่ตั้งของทางขึ้น-ลงทางด่วนทั้งฝั่งเข้าเมืองที่ฝั่งคลองประปา และฝั่งออกนอกเมืองที่ข้างๆโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และสามารถไปฝั่งธนได้จากถนนเทอดดำริที่ขนานกับเส้นทางรถไฟบนดิน ที่ไปได้ทั้งวังพญาไท เกาะรัตนโกสินทร์และข้ามสะพานไปฝั่งธน
ส่วนการเดินทางแบบไม่ใช่รถยนต์ส่วนตัว ก็จะมีรถไฟฟ้าสถานี BTS อารีย์ซึ่งระยะทางจากตัวโครงการถึง BTS ทางออก 2 ประมาณ 970 เมตร ภายในซอยสามารถเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ได้สะดวก หรือ จะออกมาเรียกแท็กซี่บริเวณหน้าปากซอยได้ โดยทางโครงการก็จะมี Shuttle Service บริการรับส่งระหว่างโครงการกับ BTS อารีย์
มาถึงจุดเด่นของความเป็นทำเลย่านพหล – อารีย์ คือมีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่สูงมาก ทั้งในส่วนของสิ่งปลูกสร้างในชีวิตประจำวันอย่างโรงพยาบาลเอกชนอย่างวิชัยยุทธตรงพระรามหก โรงพยาบาลเปาโลที่อยู่แถวสะพานควาย และโรงพยาบาลพญาไท2 แถวสนามเป้า โรงเรียนมัธยมสามเสนวิทยาลัย โรงเรียนประถมฝั่งตรงข้ามซอยโครงการอย่างโรงเรียนสวนบัว นอกจากนั้นก็จะมีสถานที่ราชการ กระทรวงการคลัง กรมประชาสัมพันธ์ ตึกออฟฟิสอย่างธนาคารออมสิน ททบ5 SM tower อาคารทิปโก้ และอาคารสำนักงานใหม่อย่าง Pearl Bangkok ที่อยู่ข้างตึก Exim Bang ใกล้กับสถานี BTS อารีย์
นอกจากนั้นปัจจุบันในทำเลอารีย์ ถ้ามาเดินเล่นเดือนละครั้งจะเห็นว่าพื้นที่จะมีร้านอาหาร ร้านขายของ หรือคาเฟ่ต่างๆ รวมถึง Event รายอาทิตย์เปิดใหม่และปิดตัวลงเยอะมาก เพราะส่วนใหญ่ราคาเช่าจะสูงมากโดยเฉพาะฝั่งซอยพหลโยธิน 7 หรือซอยอารีย์ที่เดินง่ายกว่า ส่วนซอยราชครูตรงข้ามกับกระทรวงการคลังจะน้อยหน่อย Community Mall ขนาดใหญ่หน่อย เช่น La Villa ที่มี Supermarket อยู่ชั้นล่าง ด้านบนเป็นร้านอาหารและบริการต่างๆ , Aree Garden ที่มี Hobs เป็นร้านเรียกลูกค้า และที่เปิดใหม่ใกล้แยกสะพานควายอย่าง Aqua นอกจากนั้นก็จะมีร้านเดี่ยวๆอยู่ตามชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ในซอย
มาดูแผนที่ซูมค่ะ ตัวโครงการอยู่ในซอยย่อยของซอยพหลโยธิน2 ระยะห่างจากหน้าปากซอยประมาณ 460 เมตร ภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยค่ะ หน้าปากซอยจะมี 7-11 ร้านค้าและร้านอาหารเล็กๆ สำหรับโครงการเพื่อนบ้านในละแวกๆใกล้ๆก็จะมี The Tempo พหลโยธิน , D’Rouvre , Prom Condo และ D’memoria มีโรงเรียนธำรงวิทย์ และ สมาคมครูภาษาฝรั่งเศสฯ ส่วนฝั่งตรงข้ามจะมีร้าน Bicycle เป็นทั้งร้านจักรยาน คาเฟ่ ร้านเครื่องหนังและร้านอาหาร
การเดินทางในวันนี้จะเริ่มจาก BTS สถานีอารีย์บริเวณ La Villa เดินตามถนนพหลโยธินมาเลี้ยวเข้าซอยพหลโยธิน 2 จะเจอกับสำนักงานขายโครงการก่อน แล้วเดินต่อมาเลี้ยวเข้าซอยที่มี 7-11 ตรงเข้าซอยไปพอสมควร โครงการจะอยู่ตรงข้ามร้าน Bicycle
เริ่มจาก BTS อารีย์ ถ้าเราอยากแวะ La Villa ก็ลงทางออก 4 แต่ถ้าลงทางออก 2 จะใกล้กับซอย พหลโยธิน 2 มากกว่า
บริเวณฝั่งตรงข้ามลา วิลล่า เยื้องๆไปหน่อยจะเป็นซอยพหลโยธิน 7 หรือ ซอยอารีย์ จุดสังเกตุคือสะพานลอยรูปสามเหลี่ยม
พอมาจากทางออก 4 ก็จะเจอกับ ลา วิลล่า Community Mall คู่ใจของคนย่านนี้ ด้านในจะมีทั้ง Supermarket ร้านค้า ร้านอาหาร สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ ฯลฯ ซึ่งจุดนี้ก็จะเป็นที่ที่คนในละแวกนี้มาใช้บริการกันบ่อย โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศใกล้เคียง
ฝั่งตรงข้าม ลา วิลล่า เป็นตึกแถวเรียงรายกัน มีร้านอาหาร ร้านขายของอยู่เต็มสองฝั่งข้างทาง สามารถแวะซื้อ แวะชิมก่อนกลับบ้านได้
ถัดมาฝั่งตรงข้ามจะเห็น อาคาร Exim ฺBank เป็นตึกออฟฟิสสูง ข้างๆกันก็จะเป็นออฟฟิสกำลังก่อสร้างมีชื่อว่า Pearl Bangkok
เดินมาเรื่อยๆผ่าน SME Bank , Noble Space จนมาถึงธนาคาร TMB
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นซอยพหลโยธิน 5 หรือ ซอยราชครู ซอยสั้นๆที่เชื่อมต่อไปยังซอยอารีย์ 1 ได้ และนอกจากนี้ยังมีทางที่จะไปออกถนนพระราม 6 ได้ด้วย ในซอยมีร้านอาหารเยอะอยู่
เดินถัดมาจะเจอกับบริษัท เบคไทย กรุงเทพอุปกรณ์เคมีภัณฑ์ จำกัด ข้างๆเป็นซอยพหลโยธิน 4 จากโครงการเราใช้เส้นทางลัดมาออกซอยนี้ได้
ก่อนถึงซอย พหลโยธิน 2 จะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์เรียงรายกันอยู่ ข้างล่างมีเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร
เดินมาอีกหน่อยก็จะถึงซอย พหลโยธิน 2 ซอยนี้จะใช้เป็นทางลัดหนีรถติดไปออกถนน วิภาวดีรังสิตได้ หน้าปากซอยมีร้านกาแฟ Rolling Cup อยู่
ฝั่งตรงข้าม ซอย พหลโยธิน 2 เป็นโครงการ Siamese ราชครู
ซอย พหลโยธิน 2 เป็นซอยใหญ่ที่ลัดไปออกวิภาวดีได้ เดินเข้ามาหน่อยก็จะเจอสำนักงานขาย แต่ตัวโครงการจะต้องเดินเข้าซอยตรง 7-11 ไปอีก
สำนักงานขายของโครงการค่ะ เดี๋ยวเราจะเดินไปดูที่ตั้งโครงการก่อน ค่อยพากลับมาชมห้องตัวอย่างกัน
เดินมาจนถึง 7-11 เราจะเลี้ยวเข้าไปในซอยนี้ ฝั่งตรงข้ามก่อนถึงทางยกระดับจะเป็นสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ พล.ม.2 รอ
เข้ามาในซอยเป็นถนนรถสวนกันได้ 2 เลน บริเวณช่วงหน้าซอยจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟเล็กๆอยู่บ้าง ถัดเข้าไปส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยค่ะ
เดินเข้ามาหน่อยจะเจอกับโครงการ The Tempo พหลโยธิน เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น
ถัดเข้ามาทางฝั่งขวาเป็น สมาคมครูภาษาฝรังเศสฯ ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นโรงเรียนธำรงวิทย์
ถัดเข้ามาอีกจะเจอคอนโด D’Rouvre กำลังก่อสร้างอยู่ เราจะเดินต่อไป
เข้ามาจนเห็น Clinicare ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆไปหน่อยก็จะเป็นที่ตั้งของโครงการค่ะ
ที่ตั้งของโครงการมีพื้นที่ประมาณ 0-2-1.4 ไร่ เดิมเป็นบ้าน 3 ชั้น อยู่ในระหว่างการรื้อถอนเตรียมทำโครงการค่ะ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ของโครงการ SAVVI พหลโยธิน – อารีย์ จะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 – 3 ชั้น จะมีคอนโด Low Rise และอาคารพาณิชย์แทรกอยู่บ้าง บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบต่างกับทางฝั่งพหลโยธินเลขคี่ที่จะคึกคักมากกว่า โครงการอยู่ในซอยพพลโยธิน 2 ฝั่งตรงข้ามร้าน Bicycle โดยมีแต่ละด้านของที่ดินติดกับ
- ทิศเหนือ – ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
- ทิศตะวันออก – ติดกับถนนซอย พหลโยธิน 2 ฝั่งตรงข้ามเป็นร้าน Bicycle และ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
- ทิศใต้ – ติดกับอาคารสูง 3 ชั้น ถัดไปเป็นบ้านพักอาศัย
- ทิศตะวันตก – ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
ทิศเหนือ ฝั่งที่ติดกันเลยจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น บ้านในซอยนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 – 3 ชั้น มีบางหลังเอาชั้นล่างมาทำเป็นร้านค้าบ้าง บริษัทบ้าง
ทิศตะวันออก ติดกับถนนซอย พหลโยธิน 2 ฝั่งตรงข้ามเป็นร้าน Bicycle หน้าร้านมีรถมาจอดเยอะอยู่ ถัดไปเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
บรรยากาศภายในร้านค่ะ ร้านนี้เป็นทั้งร้านจักรยาน คาเฟ่ ร้านเครื่องหนังและร้านอาหาร
ทิศใต้ ติดกับอาคารสูง 3 ชั้น ถัดไปเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 – 3 ชั้น ส่วนทิศตะวันตกหรือหลังโครงการก็เป็นบ้านพักอาศัยเช่นกัน
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ พล.ม.2 รอ. ~ 500 เมตร
- อาคาร Exim bank ~ 950 เมตร
- โรงเรียนสวนบัว ~ 1 กิโลเมตร
- Villa Ari ~ 1.1 กิโลเมตร
- SM Tower ~ 1.1 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- ททบ.5 ~ 1.1 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- โรงพยาบาลพญาไท 2 ~ 1.3 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- ธนาคารออมสิน สาขาใหญ่ ~ 2 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- กรมประชาสัมพันธ์ ~ 2.1 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- Aree Garden ~ 2.3 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- กระทรวงการคลัง ~ 2.5 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ~ 2.6 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
- โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ~ 2.8 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
โครงการ SAVVI พหลโยธิน – อารีย์ เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 66 ยูนิต ตัวอาคารตกแต่งโดยใช้โทนสีขาว มีการใช้เส้นและระนาบสลับกันเป็นลวดลายทำให้ดูมีลูกเล่น ทางเข้าอยู่ติดกับซอย พหลโยธิน 2 โดยชั้น 1 จะเป็นชั้นจอดรถทั้งหมด มีทั้งจอดแบบเข้าซอง และ AUTO PARKING จอดรถได้ประมาณ 41 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 62% จากชั้น 1 จะมีบันไดให้ขึ้นมาชั้น 2 หรือจะขึ้นลิฟต์ก็ได้โดยอาคารนี้จะมีลิฟต์อยู่ทั้งหมด 2 ตัวเป็นลิฟต์โดยสารทั้งคู่ พอขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับ Lobby , Co-Working Space และสำนักงานนนิติบุคคล ชั้นนี้จะเริ่มมีส่วนของห้องพักอยู่ด้วย ส่วนชั้น 3 – 8 เป็นห้องพักอาศัย โดยชั้น 8 จะมีทั้งส่วนของห้องพัก และ Facilities อย่าง ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และ สวนดาดฟ้า
ภาพจำลองบรรยากาศด้านหน้าโครงการ ชั้นล่างเป็นที่จอดรถมีทั้งจอดแบบเข้าซองและแบบระบบอัตโนมัติ ทางฝั่งขวาจะเห็นบันไดขึ้นชั้น 2 ซึ่งขึ้นมาก็จะเจอ Lobby ของโครงการ ผนังฝั่งด้านหน้าจะเป็นกระจกทั้งแนว
ทางฝั่งซ้ายของตัวอาคารทั้งแถบจะเป็นห้องแบบ Duplex ขนาดประมาณ 50 ตารางเมตร
มาดูที่โมเดลกันเพื่อให้เห็นภาพรวมทั้งอาคารนะคะ รูปร่างหน้าตาภายนอกโครงการ เป็นอาคาร Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร ตกแต่งอาคารในสไตล์โมเดิร์น ที่จอดรถจะอยู่ชั้น 1 ขึ้นมาชั้น 2 จะมี Facilities คือ Lobby และ Co-Working Space ชั้นนี้จะเริ่มมีห้องพักไปจนถึงชั้น 8 ทางฝั่งซ้ายของอาคารจะเป็นห้อง Duplex ทั้งแนว ติดกันเป็นห้อง Studio ส่วนห้อง 2 ห้องนอนจะมีอย่มุมขวาของอาคาร และบริเวณชั้น 8 นอกนั้นเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ชั้น 8 จะเป็นชั้นที่มี Facilities คือ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และ สวนดาดฟ้า
ด้านหน้าโครงการทางเข้าออกมีทางเดียว ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ ชั้นบนเป็น Lobby
อีกฝั่งของอาคารทางด้านมุมขวาจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนแบบ Type C 45 ตร.ม. ตั้งแต่ชั้น 3 – 7 ส่วนห้องอื่นทางฝั่งขวาเป็นแบบ 1 ห้องนอน
สำหรับ Facilities จากฟิตเนสชั้น 8 เดินขึ้นบันไดมาจะเจอกับสระว่ายน้ำและพื้นที่นั่งพักผ่อน เดินขึ้นไปจะเป็นทางไปสวนดาดฟ้า ซึ่งการยก Facilities เอาไปไว้ชั้นบนมีข้อดีคือทำให้ชั้นที่เป็นส่วนห้องพักมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
พอเดินขึ้นบันไดจากชั้นจอดรถมาจะเข้ามาในส่วนของ Lobby ซึ่งจะมีมุม Co-Working Space และสำนักงานนิติบุคคลอยู่ด้วย ถ้าจะเข้าส่วนของห้องพักก็ต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านประตูเข้าไปอีกทีหนึ่งค่ะ
บรรยากาศภายใน Lobby และ Co-Working Space ในพื้นที่ส่วนกลางจะมีฟรี High Speed Internet ให้ใช้กันด้วยค่ะ
Facilities อีกส่วนหนึ่งจะอยู่ที่ชั้น 8 คือฟิตเนส วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 4 เครื่อง ทางฝั่งขวาจะมีทางไปห้องน้ำ ส่วนด้านหลังมุมมองที่เราดูอยู่จะมีประตูของบันไดหนีไฟ เพื่อเปิดขึ้นไปใช้ Facilities ที่ชั้นดาดฟ้า
พอขึ้นบันไดมาจะเจอกับพื้นที่นั่งพักผ่อนข้างสระน้ำ ถ้าขึ้นบันไดไปอีกจะเป็นสวนดาดฟ้า
สระว่ายน้ำเป็นสระ Infinity Edge Pool ระบบเกลือ ว่ายและชมวิวไปด้วยได้ มีขนาด 4 x 13 เมตร ลึก 1.20 เมตร มีแต่สระผู้ใหญ่ ด้านข้างสระเป็นที่นั่งพักผ่อน
มาดูต่อกันที่แปลนโครงการค่ะ ชั้นล่างเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดแบ่งเป็น ที่จอดแบบเข้าซอง และ ที่จอดแบบอัตโนมัติซึ่งขุดลึกลงไปด้านล่างประมาณ 3 ชั้น ทำให้จอดรถเพิ่มขึ้นได้พอสมควร จอดแบบซ้อนคันได้ประมาณ 41 คันคิดเป็น 62% มีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ให้อีกประมาณ 8 ช่องจอด ทางมุมขวาบนเป็นบันไดขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งเป็นส่วนของ Lobby แต่ถ้าไม่อยากขึ้นบันไดผ่านทาง Lobby ก็สามารถขึ้นลิฟต์ที่ชั้นล่างได้เลยโดยจะเป็นลิฟต์ล็อคชั้น บริเวณรอบๆอาคารมีการจัดเป็นสวนหย่อมโดยรอบ
พอขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับ Lobby , Co-Working Space และสำนักงานนิติบุคคล ชั้นนี้จะเริ่มมีส่วนห้องพักอาศัยด้วย โดยถ้ามาจาก Lobby จะต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไป คนที่อยู่ชั้นนี้ค่อนข้างสะดวกในการเข้าไปใช้ Facilities แต่ก็อาจจะคึกคักหน่อย มีห้องพักทั้งหมด 9 ห้องต่อชั้น ช่วงตรงกลางฝั่งทิศเหนือและใต้เป็น 1 ห้องนอน Type B1 29.14 – 34.54 ตร.ม. ส่วนทางฝั่งทิศตะวันออกหน้าโครงการเป็นห้อง Duplex จะไม่มีห้องไหนหันรับแดดร้อนตอนบ่ายทางทิศตะวันตกเลย อาคารนี้มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 33 ห้องต่อลิฟต์หนึ่งตัว มีบันไดหนีไฟอยู่ 2 จุด
ชั้น 3 – 7 การวางผังคล้ายๆกับชั้น 2 ต่างกันตรงที่มีห้อง 2 ห้องนอน Type C 45.34 ตร.ม. และ ห้อง Studio Type A 23.48 ตร.ม. เพิ่มมาทางทิศตะวันออก ทำให้มีห้องพักอาศัยเป็น 11 ห้องต่อชั้น
ชั้น 8 มีห้องพักอาศัยเพียง 5 ห้องคือห้อง 1 ห้องนอน Type B-1 29.14 ตร.ม.อยู่ทางฝั่งทิศใต้ และ 2 ห้องนอน Type E 68.07 – 69.28 ตร.ม. ทางฝั่งทิศเหนือ ชั้นนี้จะมี Facilities คือ ฟิตเนส วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 4 เครื่องพร้อมห้องน้ำ ถ้าจะขึ้นไปใช้ Facilities ชั้นบนจะต้องเดินผ่านฟิตเนสขึ้นบันไดหนีไฟไปจะเป็นส่วนของ พื้นที่นั่งพักผ่อน และ สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 4 x 13 เมตร ลึก 1.2 เมตร และถ้าเดินวนขึ้นไปที่ดาดฟ้าจะเป็นสวนดาดฟ้า และ พื้นที่นั่งพักผ่อน
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- LOBBY WITH HIGH SPEED INTERNET
- CO-WORKING SPACE
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 4 x 13 เมตร เป็นสระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 4 เครื่อง
- ROOF TOP
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 33 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 41 คันคิดเป็น 62% ไม่รวมจอดซ้อนคัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 70%
- AUTO PARKING SYSTEM
- SHUTTLE SERVICE
- ระบบ CCTV / Access Card
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมคือห้อง 1 ห้องนอน 29.14 ตร.ม. และ 1 ห้องนอน 33.78 ตร.ม. โดยโครงการนี้จะแถมเฟอร์นิเจอร์ให้แบบ Fully Furnished พร้อม Digital Door Lock , แอร์ Mitsubishi และระบบ Home Automation ควบคุมการปิดไฟในห้องได้ 2 จุด ห้องนอนกับห้องนั่งเล่น และเปิด – ปิดแอร์ได้ 1 ตัว
เริ่มจากห้องตัวอย่างห้องแรกกัน คือแบบ 1 ห้องนอน 29.14 ตร.ม. ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับส่วนของห้องนั่งเล่นก่อน สามารถวางโซฟาได้ 2 ที่นั่ง ถัดไปเป็นห้องครัวแบบครัวปิดกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนซึ่งจะช่วยกันกลิ่นและควันเวลาประกอบอาหารได้พอสมควร ถัดจากห้องครัวไปเป็นพื้นที่ระเบียง มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าและคอมเพรสเซอร์แอร์ อีกฝั่งของห้องนี้เป็นห้องนอน ที่มีพื้นที่สำหรับสำหรับวางตู้เสื้อผ้า ห้องมีขนาดกว้างพอสมควร ถึงไม่มีระเบียงแต่มีช่องหน้าต่างรับแสงเข้ามาในห้อง ห้องน้ำอยู่ในห้องนอน เวลามีแขกมาขอเข้าห้องน้ำจะต้องเดินผ่านเข้าห้องนอน อาจทำให้เสียความเป็นส่วนตัวได้บ้าง แต่ถ้ามองในแง่ของคนที่อยู่ในห้องประจำแล้ว การใช้งานถือว่าค่อนข้างสะดวก ถ้าเราอยู่ในห้องนอนก็สามารถลุกมาเข้าห้องน้ำได้เลย โดยในห้องน้ำจะมีแยกเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียกกั้นด้วยกระจกนิรภัย
ประตูทางเข้าห้องเป็นบาน HDF ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ มีติดตั้ง Digital Door Lock มาให้
Digital Door Lock ยี่ห้อ Colt หรือเทียบเท่า เป็นแบบที่ใช้ได้ 3 ระบบทั้ง คีย์การ์ด กุญแจ และตั้งรหัสผ่าน
ระหว่างพื้นโถงทางเดินและพื้นห้อง มีปูหินสีขาวเพื่อเก็บงานรอยต่อ
บริเวณหน้าประตูมีตัวกันกระแทกมาให้ เวลาเปิดประตูมาจะไม่ไปโดนชั้นวางทีวี
เข้ามาในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดไปเป็นครัวปิดกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน เนื่องจากเป็นประตูกระจกจึงทำให้มีแสงเข้ามาถึงภายในห้องนั่งเล่น ช่วยให้ห้องดูโปร่ง อีกฝั่งของห้องเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว ฝ้าเพดานของห้องนี้สูง 2.40 เมตร พื้นเป็นกระเบื้องยางลายไม้
มุมมองย้อนกลับไปทางฝั่งประตู มุมนั่งเล่นวางโซฟาได้ 2 ที่นั่ง ระยะดูทีวีประมาณ 1.90 เมตร ซึ่งเหมาะกับการวางทีวีขนาด 40″ – 46″
ผนังฝั่งตรงข้ามโซฟามีแอร์ติดมาให้เป็นของ Mitsubishi
ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัวกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน พอเลื่อนเก็บเข้าด้านข้างแล้ว จะมีระยะให้เดินผ่านกว้างพอสมควร
มือจับประตูตามมาตรฐาน
ประตูบานเลื่อนเป็นแบบ 3 ตอนเลื่อนเก็บเข้ามุมแบบนี้
ครัวเป็นครัวปิดเวลา ทำอาหารต้ม ผัด แกง ทอด พอเลื่อนประตูมาปิดก็จะช่วยกันกลิ่นและควันไม่ให้ลอยออกไปห้องอื่นๆ และยังเปิดประตูตรงระเบียงเพื่อระบายอากาศได้
เคาน์เตอร์ครัวเป็นของ SB มี Soft Close มาให้ ขนาดเคาน์เตอร์ยาว 1.15 เมตร พอเหมาะกับการใช้งานในคอนโดห้อง 1 ห้องนอน วัสดุเป็นโครงไม้ปิดผิวด้วยเมลามีน มีเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน ช่องใส่ไมโครเวฟแถมมาให้ครบ
Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว มีแผ่นหินปิดตัวอ่างล้างจานมาให้เผื่อเวลาอยากจะใช้พื้นที่ก็ยกมาปิดสามารถให้วางของ หั่นผักได้ พอจะใช้อ่างล้างจานก็ยกเปิดออก อ่างล้างจานที่ให้เป็นของ Mex
อีกฝั่งเป็น ช่องใส่ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันแบบที่ต่อท่อดูดควันออกไปด้านนอกห้อง
เตาไฟฟ้าเป็นแบบเซรามิค 2 หัวของ Mex จะใช้อุ่นอาหารเล็กๆน้อยๆ หรือ ทำอาหารทานกันในห้องก็ได้
ในครัววางชุดโต๊ะ เก้าอี้เล็กๆได้อีกหนึ่งชุด ถ้าอยากได้ที่นั่งมากกว่านี้ก็หามาเสริมได้
ต่อเนื่องจากครัวเป็นระเบียง กั้นด้วยประตูบานเลื่อน กรอบบานอะลูมิเนียมสีเทาอีกชั้นหนึ่ง
ระเบียงค่อนข้างกว้างมีขนาด 0.94 x 2.20 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค รอบๆเป็นทรายล้าง
ตรงระเบียงมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และ ในห้องจริงก็จะมีคอมเพรสเซอร์แอร์แขวนอยู่ด้านบนด้วย
ถัดมาเป็นห้องนอน ที่มีห้องน้ำในตัว ประตูทางเข้าอยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัว วัสดุเป็นไม้เทียมปิดผิวลามิเนตแต่ห้องตัวอย่างยังไม่ได้ติดประตูให้เราดู
ห้องนอนห้องนี้ไม่มีระเบียงแต่มีหน้าต่างแบบเข้ามุมเปิดรับแสงเข้ามาในห้อง นอกจากเอาไว้ดูวิวแล้ว ยังช่วยให้ห้องไม่มืดอีกด้วย
กระจกแบบเต็มแผง เข้ามุมช่วยเปิดรับแสงเข้ามาในห้อง
ทั้งหมดเป็นบาน FIX มีบานในสุดเป็นบานกระทุ้ง เปิดแง้มออกได้แบบนี้
ห้องนี้วางเตียงได้แบบ King Size แล้ว ทางด้านซ้ายของเตียงซึ่งอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้ามีระยะกว้างพอสมควร ส่วนทางด้านขวามีระยะ 80 cm. พอที่จะวางโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ
ส่วนปลายเตียงมีระยะจากเตียงถึงผนังประมาณ 90 cm. ซึ่งพอวางโต๊ะหรือตู้ที่มีความกว้างไม่มากได้ ถ้าอยากวางทีวีแล้วประหยัดพื้นที่ก็ให้แขวนเอาค่ะ
อีกฝั่งของเตียงเป็นทางไปห้องน้ำ หน้าห้องน้ำมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า พออาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวต่อได้เลย
ภายในห้องน้ำมีทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก กั้นด้วยกระจกกั้นอาบน้ำ พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm. ผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหิน กระจกห้องน้ำได้เต็มแผงแบบนี้เลยแต่จะไม่มี LED ด้านหลังให้
ก่อนเข้าห้องน้ำมีธรณียกสูงขึ้นมาเล็กน้อย วัสดุเป็นหินสีดำ
โถสุขภัณฑ์เป็นของ Mogen ที่วางทิชชู่อยู่ด้านข้างหยิบใช้งานสะดวก
อ่างล้างหน้ายี่ห้อ Aquaflex ด้านล่างเป็นเคาน์เตอร์เลื่อนออกมาเก็บของได้ ด้านบนอ่างมีพื้นที่สำหรับวางของเล็กๆน้อยๆพวกสบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน
ที่ผนังด้านข้างมีปลั๊กติดหน้ากากกันน้ำสำหรับเสียบใช้ไดร์เป่าผมอีกด้วย
พื้นที่อาบน้ำมีทั้งแบบฝักบัวและRain Shower ยี่ห้อ Rasland โดยทางโครงการมีเดินระบบน้ำร้อนมาให้
ฝักบัวจับพอดีมือค่ะ
พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.08 x 0.85 cm. ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ผิวด้านกันลื่น
สวิทซ์และปลั๊กเป็นของ Panasonic ผิวเป็นสีเทาดูสวยดีค่ะ
อีกห้องหนึ่งคือ ห้อง 1 ห้องนอน Type B2 33.78 ตร.ม. ห้องนี้จะได้ครัวแบบครัวเปิด พอเปิดประตูเข้ามาก็เจอเลย เหมาะกับเตรียมอาหารอาหารเบาๆ ไม่เน้นผัดอาหารที่มีกลิ่น การที่ครัวอยู่ด้านหน้าดีตรงที่ถ้ายกของมาหนักๆก็เอามาวางพักไว้ตรงนี้ได้ ตรงเคาน์เตอร์มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะอาหารได้ 2 ที่นั่ง ฝั่งตรงข้ามห้องครัวเป็นห้องน้ำ เข้าห้องน้ำได้จากทั้งทางห้องครัวและห้องนอน ทำให้มีความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น ถัดจากครัวจะเป็นห้องนั่งเล่นวางโซฟาได้ 2 ที่นั่ง ห้องนี้จะติดกับพื้นที่ระเบียง ส่วนห้องนอนจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งกั้นด้วยประตูเลื่อนบานทึบ เลื่อนเก็บเข้ามุมได้ ห้องนอนมีขนาดค่อนข้างกว้าง ก่อนทางเข้าห้องน้ำจะมีมุมทำเป็น Walk – in Closet เล็กๆทั้ง 2 ฝั่งได้
เข้ามาในห้องจะเจอกับเคาน์เตอร์ครัวซึ่งมีมุมทานอาหารเล็กๆด้วย ถัดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับระเบียง อีกฝั่งเป็นห้องนอนเลื่อนกั้นเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ด้วยประตูบานเลื่อน ห้องน้ำอยู่ตรงข้ามห้องครัวสามารถเข้าได้ทั้งจากทางห้องครัวและห้องนอน
เคาน์เตอร์ครัวมีขนาดยาว 1.45 เมตร วัสดุเป็นโครงไม้ปิดผิวด้วยเมลามีน มีช่องสำหรับวางตู้เย็น มีอ่างล้างจาน เครื่องดูดควัน และเตาไฟฟ้าให้
ชุดโต๊ะเก้าอี้วางเข้ามุมต่อจากเคาน์เตอร์พอดี ได้โต๊ะที่ค่อนข้างกว้างแต่เก้าอี้จะเกินมาในส่วนของเคาน์เตอร์ครัวซึ่งอาจเกะกะเวลาเราทำอาหารได้ ถ้าเราทำครัวอยู่ก็เลื่อนไปเก็บอีกมุมหนึ่งก่อนค่ะ
อ่างล้านจานของ Mex เป็นแบบที่ยกหินมาปิดทับเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยเช่นเดียวกับห้องที่ผ่านมา แต่ห้องนี้จะได้ Top เป็นหินสังเคราห์สีดำ
มีช่องใส่ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันมาให้ครบ วางอยู่ในแนวเดียวกัน ทำให้สะดวกในการใช้งาน
เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Mex
ฝั่งตรงข้ามครัวเป็นห้องน้ำ ซึ่งเข้าได้จากทางห้องนอนเช่นกัน
ก่อนเข้าห้องน้ำมียกธรณีหินสีดำขึ้นมาเล็กน้อย พอกันน้ำไหลซึมออกเวลาอาบน้ำได้
ภายในห้องน้ำบรรยากาศคล้ายๆกับห้องก่อนหน้า แต่จะมีกระเบื้องที่ได้แตกต่างกันออกไป มีแยกส่วนแห้งส่วนเปียกกั้นด้วยกระจกอาบน้ำ
สุขภัณฑ์ของ เป็น Mogen ที่ทิชชู่วางไว้ด้านข้าง ทำให้ใช้งานสะดวกขึ้น
อ่างล้างหน้าเป็นของ Aquafilex เปิดออกมาเก็บของด้านล่างได้ เหมือนกับห้องที่ผ่านมา
ฝักบัวที่เดินงานระบบเอาไว้เรียบร้อย
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.07 x 0.94 เมตร ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีออกครีมๆ ขนาด 60 x 60 cm. ในห้องจริงจะมีธรณียกขึ้นมากันน้ำด้วย แต่ห้องตัวอย่างไม่ได้ทำโชว์ไว้ค่ะ
ห้องน้ำห้องนี้จะเข้าได้ 2 ทางคือทางฝั่งห้องครัว และ ห้องนอน
ถัดจากครัวมาจะเจอกับห้องนั่งเล่น ซึ่งวางโซฟาได้ 2 ที่นั่ง ระยะดูทีวีประมาณ 1.60 เมตร เหมาะกับทีวีขนาด 32″ – 40″ ด้านหลังโซฟาเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบทึบ
ถัดจากห้องนั่งเล่นไปเป็นพื้นที่ระเบียงกั้นด้วยประตูกระจก กรอบบานอะลูมิเนียมสีเทา
พื้นที่ระเบียงกว้าง 2.60 x 0.70 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา รอบๆเป็นทรายล้าง
มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ส่วนด้านบนในห้องจริงจะเป็นตำแหน่งของคอมเพรสเซอร์แอร์
จากพื้นห้องลงมาที่ระเบียงจะมีลดระดับลงมาเล็กน้อย พอกันน้ำกันฝนได้
มุมมองย้อนกลับไปที่หน้าห้อง ทางฝั่งขวาจะเป็นทางไปห้องนอน
ห้องนอนอยู่ต่อเนื่องกับห้องนั่งเล่น สามารถเปิดให้ห้องกว้างขึ้นได้ถ้าต้องการ แต่ถ้าเราต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถเลื่อนประตูบานทึบมากั้นได้
ประตูเลื่อนเป็นแบบ 3 ตอน ค่อนข้างเเข็งแรง แขวนยึดกับรางเลื่อนด้านบน ไม่มีรางข้างล่าง
ภายในห้องนอนทางฝั่งขวาจะเป็นบานหน้าต่างสูงตั้งแต่พื้นจรดฝ้า ส่วนทางด้านซ้ายเป็นทางไปห้องน้ำ ฝ้าเพดานในห้องจริงที่ได้จะเป็นแบบฝ้าเรียบนะคะ
ระยะระหว่างเตียงกับโซฟาห่างกันประมาณ 70 cm. แต่ถ้าเลื่อนประตูปิดมาก็จะมีระยะเหลือน้อยกว่านี้ค่ะ
ทางด้านซ้ายของเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ 1 ชุด ด้านบนโต๊ะเครื่องแป้งเป็นตำแหน่งติดตั้งแอร์
ส่วนทางฝั่งขวามีระยะเหลือเยอะพอสมควรเลยค่ะ วางโต๊ข้างเตียงหรือโคมไฟตกแต่งได้สบายๆ
ในห้องนอนไม่มีระเบียงแต่มีหน้าต่างบานใหญ่ ทั้งหมดเป็นบาน FIX ยกเว้นอยู่ 1 บานคือบานซ้ายบนเป็นบานกระทุ้ง
อีกฝั่งหนึ่งเป็นทางไปห้องน้ำซึ่งหน้าห้องมีมุมทำเป็น Walk – in Closet 2 ฝั่ง ถ้าอยู่กัน 2 คนก็แยกตู้เสื้อผ้ากันได้ของใครของมันโดยห้องน้ำสามารถเข้าได้จากทั้งห้องนอนและบริเวณหน้าห้องครัว
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15 June 2016
- 1 Bedroom ชั้น 6 ห้อง 602 เนื้อที่ 29.14 ตร.ม. ราคา 3.99 ล้านบาท หรือ 136,925 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 209 เนื้อที่ 34.54 ตร.ม. ราคา 4.31 ล้านบาท หรือ 125,000 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom ชั้น 4 ห้อง 409 เนื้อที่ 34.54 ตร.ม. ราคา 4.52 ล้านบาท หรือ 131,000 บาท/ตร.ม.
- Duplex ชั้น 2 ห้อง 201 เนื้อที่ 50.14 ตร.ม. ราคา 7.00 ล้านบาท หรือ 139,609 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.20 – 2.40 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- เงินจอง + เงินทำสัญญา 5%
- เงินจอง 50,000 บาท
- ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 14 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 60 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ที่ตั้งของโครงการ SAVVI พหลโยธิน – อารีย์ อยู่ในซอย พหลโยธิน 2 ซึ่งเป็นซอยฝั่งเลขคู่ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในย่านพหล – อารีย์ แต่สภาพแวดล้อมและบรรยากาศจะเป็นโซนที่อยู่อาศัย ที่ค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัว ต่างกับพหลโยธินฝั่งเลขคี่อย่างซอยราชครูและซอยอารีย์ ที่จะค่อนข้างคึกคัก มีร้านอาหาร ร้านค้า และร้านนั่งชิลต่างๆอยู่เต็มพื้นที่ แต่ก็สามารถเดินทางไปใช้ความอุดมสมบูรณ์ต่างๆที่ฝั่งนู้นได้สะดวก พื้นที่โดยรอบเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยสถานที่ราชการอย่างกระทรวงต่างๆ รวมถึงสถานที่ของทหาร อาคารสำนักงานใหญ่ และเป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัยบ้านหลังใหญ่เก่าแก่ของคนในพื้นที่ มีร้านอาหารขึ้นชื่อหลายร้าน และมี Community mall อย่าง La villa ที่เป็นห้างคู่ใจของคนย่านนี้ ตลาดที่อยู่อาศัยในย่านนี้มีการแข่งขันที่อยู่ และ มีการปรับราคาไปเรื่อยๆ ในฝั่งที่เป็นเลขคี่จะมีโครงการมากกว่าและราคาก็จะสูงกว่าด้วย
การเดินทางโดยใช้รถค่อนข้างสะดวกเพราะซอย พหลโยธิน 2 เป็นทางที่เชื่อมไปออกวิภาวดีได้ และ ภายในซอยยังมีซอยลัดเชื่อมกันเป็นใยแมงมุม ลัดออกได้หลายทางแต่อาจจะต้องชำนาญพื้นที่หน่อยถึงจะไม่หลง มีซอยมาออกข้าง La villa ได้เลย ส่วนถนนหลายหลัก สามารถใช้เส้นทางไปออกได้ทั้ง ถนนพหลโยธิน , ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นโทลล์เวย์เข้าเมืองไปทางดินแดง-อโศก หรือว่าจะออกนอกเมืองไปยังแถบรังสิต , ถนนพระราม6 มีทางด่วนในระยะใกล้เคียง สำหรับที่จอดรถโครงการนี้จะจอดได้ค่อนข้างเยอะถึง 62 %เพราะมีระบบที่จอดรถอัตโนมัติ ทำให้เวลาเอารถมาใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดมากนัก
ส่วนการเดินทางแบบไม่ใช่รถยนต์ส่วนตัว โครงการนี้อยู่ในซอยเพราะฉะนั้นจะเดินค่อนข้างไกลหน่อย สามารถเรียกแท็กซี่ได้บริเวณหน้าปากซอย หรือ รอเรียกพี่วินที่วิ่งผ่านไปมาได้ และโครงการก็จะมี Shuttle Service บริการรับส่งระหว่างโครงการกับ BTS อารีย์ โดยมีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือสถานี BTS อารีย์ แต่ไม่ใกล้ซะทีเดียว วัดระยะทางจากตัวโครงการถึง BTS ทางออก 2 ประมาณ 970 เมตร
วัสดุของโครงการให้ตามมาตรฐาน ภายในมีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบชุดตามรูปแบบการขายอย่าง Fully Furnished พร้อมแอร์ครบทุกห้อง แต่ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นกระเบื้องยางลายไม้ ซึ่งมีข้อดีคือกันรอยขีดข่วนและค่อนข้างคงทน แต่ความสวยงามอาจจะไม่เท่าพื้นไม้ลามิเนต ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร ห้องน้ำให้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหิน เคาท์เตอร์ครัวของ SB ให้ครบทั้ง Hob Hood และอ่างล้านจาน สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของ Mogen อ่างล้างมือของ Aquaflex มี Home Automation และ Digital Doorlock มาให้ ภายในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้าที่เป็นประตูบานเปิดแบบดึงออก มีการแบ่งพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนกั้นด้วยบานประตูเลื่อน 3 ตอนขนาดใหญ่ มีรางบนไม่มีรางล่าง
การออกแบบทำออกมาได้ค่อนข้างไปทางดี ทั้งๆที่เป็นโครงการขนาดเล็ก แต่มีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้ดูไม่อึดอัดได้ ตัวอาคารตกแต่งทันสมัย มีแยก Facilities ออกมาต่างหาก มีบางห้องที่จะอยู่ต่อนข้างใกล้กับพื้นที่ส่วนกลาง อาจทำให้เสียความเป็นส่วนตัวได้ ชอบตรงที่จัดผังให้ไม่มีห้องทิศไหนอยู่ทิศตะวันตกเลย ในห้องพักวางผังมาค่อนข้างดีทำให้ห้องดูกว้าง มีกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนทำให้พื้นที่มีความต่อเนื่องกัน
สาธารณูปโภคจัดพื้นที่มาให้พอสมควร จากชั้น 1 จะมีบันไดให้ขึ้นมาชั้น 2 หรือจะขึ้นลิฟต์ก็ได้โดยอาคารนี้จะมีลิฟต์อยู่ทั้งหมด 2 ตัวเป็นลิฟต์โดยสารทั้งคู่ อัตราส่วนลิฟต์ 33 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว พอขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับ Lobby , Co-Working Space และสำนักงานนนิติบุคคล ชั้นนี้จะเริ่มมีส่วนของห้องพักอยู่ด้วย ส่วน 8 จะมีทั้งส่วนของห้องพักเช่นกัน และ Facilities อีกจุด ประกอบด้วยฟิตเนสเล็กๆวางเครื่องออกกำลังกายได้ 4 ชุด , สระว่ายน้ำระบบเกลือ , ที่นั่งพักผ่อน และ สวนดาดฟ้า
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 125,000 บาท/ตร.ม., 15 June 2016
- ทำเล 7.5/10 – อยู่ในย่านอารีย์ก็จริง แต่อยู่ฝั่งซอยเลขคู่ที่มีความอุดมสมบูรณ์น้อยกว่าฝั่งเลขคี่
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ค่อนข้างสะดวก มีเส้นทางลัดหลายทาง และจัดที่จอดรถให้เยอะพอสมควร มีที่จอดรถอัตโนมัติ
- ไม่ใช้รถ 7/10 – โครงการมี Shuttle Bus ให้ และ สามารถเรียกแท็กซี่และพี่วินได้แต่ต้องเดินออกมาพอสมควรเพราะอยู่ในซอยลึก ห่างจาก BTS อารีย์ประมาณ 970 เมตร
- วัสดุ 7.5/10 – ให้ตามมาตรฐาน เฟอร์ให้แบบ Fully Furnished มีHome Automation
- แบบ 7.75/10 – ออกแบบมาได้ดีทั้งตัวอาคารและห้องพัก จัดพื้นที่ใช้สอยได้ลงตัว
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – มีให้ครบทั้ง Lobby ฟิตเนส สระว่ายน้ำ แต่ขนาดอาจจะเล็กไปนิดเนื่องด้วยขนาดพื้นที่มีจำกัด
- HIGH CLASS
- 7.50 / 10.00
BOTTOM LINE
SAVVI พหลโยธิน – อารีย์ เหมาะกับคนในพื้นที่ที่อยากมีคอนโดในทำเลเดิม คนที่ทำงานในละแวกใกล้เคียง หรือคนมองหาคอนโดในทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงในระยะเดินประมาณ 1 กิโลเมตร ยอมอยู่ในซอยหน่อยแต่ก็เดินไปใช้รถไฟฟ้าได้สะดวก ใช้รถส่วนตัวบ้าง ชอบโครงการที่มีความเป็นส่วนตัว จำนวนยูนิตน้อย มีงบประมาณระดับ 3.99 – 7.00 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 28,000 – 49,000 บาท/เดือน
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )
