รีวิวโครงการ
รีวิวตึกเสร็จ Modiz Rhyme Ramkhamhaeng คอนโด High Rise ติดถนนใหญ่ ตรงข้ามม.รามคำแหง ใกล้ MRT เพียง 80 เมตร จาก AssetWise [รีวิวฉบับที่ 2584]
14 สิงหาคม 2023
รีวิวฉบับที่ 2097 … ทาง AssetWise เปิดตัวโครงการใหม่ในย่านรามคำแหง Modiz Rhyme รามคำแหง ที่ได้ทำเลใจกลางรามคำแหง(ตรงข้ามม.ราม) ใกล้ MRT รามคำแหงเพียง 80 m. แถมยังอยู่ฝั่งเดียวกับ Town in Town ที่ส่วนใหญ่เป็นบ้านแนวราบ ซึ่งตัวนี้ถือเป็นตึกสูงใหม่เหมาะกับคนในย่านที่อยากขยับขยายออกมาอยู่เองในทำเลเดิม ภายในมีโซนร้านค้า 9 ยูนิต Facilities ครบครันที่ชั้นบน ตัวห้องมีทั้งแบบ Simplex กับ Vertical Suite (Loft) พร้อม Layout ให้เลือกหลากหลาย ในราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
ข้อมูลโครงการ
30 June 2020
- Modiz Rhyme Ramkhamhaeng (โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง)
- บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ตรงข้าม ม.รามคำแหง ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ
- ที่ดินประมาณ 2-3-0 ไร่
- คอนโด High Rise 30 ชั้น 546 ยูนิต และร้านค้า 9 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 26 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 285 คัน คิดเป็น 51.3% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
- เริ่มก่อสร้าง :
25632564 (23/07/63) - คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2566
- Simplex: 9th-27th floor
- 1 Bedroom ขนาด 23.38-23.68 ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.20-26.55 ตร.ม.
- 1 Bedroom Extra ขนาด 29.92 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาด 34.67-34.82 ตร.ม.
- Vertical Suite: 8th, 28th floor
- 1 Bedroom Exclusive VS ขนาด 23.28-42.71 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus VS ขนาด 34.88-46.99 ตร.ม.
- ฝ้าเพดาน (Floor To Ceiling)
- ห้อง Simplex สูง 2.7 เมตร
- ห้อง Vertical Suite สูง 4.8 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท (โปรโมชัน)
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 95,000 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-168-0000
ชมห้องตัวอย่างได้แล้ว !! เปิดจองรอบ PRE-SALE 1 ส.ค.นี้ ราคาเริ่ม 1.89 ล้าน*ส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท*
(เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.759344, 100.617369
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ Modiz Rhyme รามคำแหง ค่ะ
ถนนรามคำแหงถือเป็นอีกย่านนึงที่มีคนอยู่อาศัยที่ทำเลนี้ค่อนข้างเยอะเลย เนื่องจากเป็นทำเลที่ขยับออกมาจากตัวเมืองนิดเดียว เข้า-ออกเมืองได้ง่าย รายล้อมด้วยถนนสำคัญๆอย่างลาดพร้าว(รัชดา-ห้วยขวาง), ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา, ถนนพระราม9, ถนนพัฒนาการ เป็นต้น ซึ่งต้องบอกว่าที่อยู่อาศัยในย่านนี้ ส่วนใหญ่เป็นบ้านแนวราบที่อยู่กันหนาแน่นเลย ทำให้การรวบรวมแปลงที่ดินขนาดใหญ่หาได้ค่อนข้างยากมากๆ (แต่ทาง AssetWise ก็ทำได้นะ ^^)
แถมโครงการ Modiz Rhyme รามคำแหง ยังได้ทำเลตรงข้ามกับ ม.รามคำแหง(ฝั่งมุ่งหน้าแยกลำสาลี) ระหว่าง ซ.รามคำแหง 43/1 และ 53 ที่เชื่อมเข้ากับโซน Town in Town, เลียบด่วนรามอินทรา และลาดพร้าว ที่สามารถหลีกเลี่ยงรถติดจากถนนรามคำแหงที่ขึ้นชื่อว่า “รถติดมาก” ซึ่งการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะช่วยลดปัญหาการจราจรได้เยอะเลย ซึ่งโครงการของเราจะสร้างเสร็จปี 2566 พอดี โดยโครงการใกล้ MRT รามคำแหง เพียง 80 m. เท่านั้น
ขอเกริ่นก่อนว่าก่อนหน้านี้ย่านรามคำแหงมีความอุดมสมบูรณ์มากอยู่แล้ว เพราะมีทั้งแหล่งงาน สถานศึกษา และศูนย์การค้าทั้งประเภท Department store, Hyper market, Super market หรือตลาดสด ตลาดนัดมีหมด เรียกว่าเดินไปไหนก็หาของกินได้ง่ายไม่มีวันเบื่อ และเริ่มมีการปรับปรุงห้าง และรูปแบบที่อยู่อาศัยให้ดูทันสมัยมากขึ้น ยกตัวอย่างห้างเก่าแก่อย่าง The Mall รามคำแหง 2 ก็ถูกทุบทิ้งเตรียมสร้างใหม่ รวมไปถึงหลังจากปี 2018 เป็นต้นมามีโครงการเปิดใหม่ในย่านนี้มากขึ้นเรื่อยๆสำหรับความอุดมสมบูรณ์เราจะแบ่งเป็น 3 ช่วงต้น(แยกรามคำแหง-วัดเทพลีลา) ช่วงกลาง(หน้าม.รามคำแหง) ช่วงปลาย(Indoor หัวหมาก-แยกลำสาลี)
เริ่มที่ช่วงต้นที่เป็นโซนของ The Mall ราม 1, 2, 3 ที่อยู่ใกล้ๆกันเลย โดยปัจจุบันมีการทุบทิ้ง The Mall รามคำแหง 2 แล้วปรับเปลี่ยนเป็นโครงการ Mixed-used เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของย่านนี้ และก็ยังมี Foodland, Big C ให้ช้อปปิ้งข้าวของก่อนเข้าบ้าน และถ้าใครหิวๆแล้วขี้เกียจลงจากรถก่อนถึงโครงการมี KFC Drive Thru ให้วนซื้อไก่ทอดกรอบๆไปกินที่ห้องด้วยนะ / ช่วงกลางเป็นโซนของสถานศึกษา(ม.รามคำแหง + สาธิตรามฯ)และพื้นที่ของการกีฬามากกว่า ดังนั้นจะไม่มีห้างขนาดใหญ่ แต่จะมีร้านค้า ร้านอาหารเต็ม 2 ข้างทาง รวมไปถึงมีตลาดนัดที่เปิดให้ช้อปกันเพลินๆในช่วงเย็น / ช่วงปลายความคึกคักจะไปเกาะอยู่แถว รพ.รามคำแหง ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร 2 ข้างทาง รวมไปถึงมีทางลัดที่เชื่อมเข้า The Mall บางกะปิ, ตะวันนา, Makro หรือฝั่งตรงข้ามก็มี Happy Land, Tesco Lotus และตลาดบางกะปิอีกด้วย
ในแง่ของการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เราสามารถพูดได้ว่าถนนรามคำแหง มีตัวเลือกการเดินทางที่ค่อนข้างจัดเต็มเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น รถเมล์ รถตู้ เรือด่วน สองแถว มอเตอร์ไซค์ ที่มีให้เลือกใช้หลากหลาย แต่วันนี้มีตัวเลือกเพิ่มคือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่คาดว่าจะเปิดใช้งานปี 2566 (ถ้าไม่มีอะไรล่าช้านะ..) ซึ่งจะสร้างเสร็จพร้อมโครงการเลย โดยตัวโครงการอยู่บริเวณ สถานีรามคำแหง ระหว่างทางออก 1 ( ห่าง 150 m.) กับ ทางออก 4 (ห่าง 80 m.) ที่นั่งไปสายสีน้ำเงิน (MRT ศูนย์วัฒนธรรม) 4 สถานี หรือจะไปสายสีเหลือง (สถานีแยกลำสาลี) 3 สถานี ส่วนท่าเรือก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการห่างไป 500 m. “ท่าเรือม.รามคำแหง” (ซ.รามคำแหง 51/2) ที่นั่งไปขึ้น Airport Rail Link สถานีรามคำแหงได้นะ
การเดินทางในวันนี้ เราเริ่มจากช่วงต้นถนนรามคำแหง บริเวณ KFC Drive Thru ตรงมาตามทาง ขับผ่าน The Mall รามคำแหง 3 , Hua Mark Town Center, Major Hollywood จนถึงแยกวัดเทพลีลา หรือซ.รามคำแหง 39 ที่เชื่อมไปเลียบทางด่วนรามอินทรา หรือ Town in Town ได้ ตรงต่อไปจนถึงซ.รามคำแหง 43/1 ถัดไปอีก 30 m. โครงการของเราอยู่ฝั่งซ้ายมือ ระยะทางทั้งหมด 1.5 km.
ถ้าเรามาจากสี่แยกรามคำแหง เมื่อขับเข้ามาบนถนนรามคำแหงแล้ว ร้านค้าแรกที่จะเจอคือ Foodland ที่อยู่ติดกับ KFC แบบ Drive Thru ที่ขับเข้าไปซื้อได้เลย
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
โครงการ Modiz Rhyme รามคำแหง ตั้งอยู่ตรงข้าม ม.รามคำแหง(ฝั่งเลขคี่) ช่วงกลางถนนรามคำแหงที่ไม่มีคอนโด High Rise ให้เห็นเลย จะมีก็เป็นคอนโด Low Rise หรืออพาร์ทเม้นท์บ้างประปราย นอกนั้นจะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ ซึ่งเป็นผลดีกับโครงการของเราที่ไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหนก็ได้วิวโล่งๆ โดยตัวอาคารจะวางขนานกับถนน ที่ห้องพักอาศัยหันออกทางทิศตะวันออกและตะวันตก เน้น Take View 2 ฝั่งเป็นหลัก แถมห้องพักเริ่มที่ชั้น 8 ไปแล้ว ไม่ว่าจะซื้อชั้นไหนก็มองไม่เห็นเพื่อนบ้านโดยตรงนะ
- ทิศเหนือ : เป็นพื้นที่ของทาง AssetWise ที่รอการพัฒนาในอนาคต
- ทิศตะวันออก : ติดกับชุมชนแนวราบ มองเห็น ม.รามคำแหง และวิวราชมังคลากีฬาสถาน ที่ชอบจัดคอนเสิร์ตบ่อยๆ
- ทิศใต้ : ติดกับถนนรามคำแหง
- ทิศตะวันตก : ติดกับชุมชนแนวราบ มองเห็นวัดเทพลีลาขนาดใหญ่
ด้านหน้าโครงการติดถนนรามคำแหงและมีทางยกระดับ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นม.รามคำแหงที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
เริ่มจากทางด้านขวา(หันหน้าออกจากโครงการ) บรรยากาศเป็นตึกแถวเรียงราย ที่ชั้นล่างปรับเป็นร้านเสื้อผ้า ร้านทอง ร้านชานมไข่มุก ร้านตัดผม ซึ่งเป็นบรรยากาศร้าน Local ที่ราคาไม่แพงมากก
ถัดไปเป็น ซ.รามคำแหง 43/1 ที่ตรงเข้าไปเป็น รร.บดินเดชา 1 และเข้าไปโซน Town in Town ที่ในช่วงเลิกเรียน เราจะเห็นเด็กนักเรียนเดินมาเรียกรถกันเต็มเลย
เดินไปอีกหน่อยเป็นทางลง MRT สถานีรามคำแหง(ทางออก 4) ห่างจากโครงการ 80 m. ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างนะคะ
ข้างๆกันมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 ที่เดินมาซื้อของกินได้แบบชิลล์ๆเลย
นอกจากนี้ บริเวณหน้าเซเว่นมีวินมอเตอร์ไซค์ ที่มีอัตราค่าโดยสารตั้งแต่ 20-70 บาท ตามรูปเลยค่ะ
เดินกลับมาที่ด้านหน้า Sales Gallery อีกครั้ง เผื่อเดินไปดูบรรยากาศอีกฝั่งกันดูบ้าง
ด้านข้างอีกฝั่งมีร้านน้ำ ร้านอาหาร นิดหน่อย ที่ด้านหลังเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้น
เดินต่อมาอีกหน่อยมีร้านอาหารข้าวแกง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านเสื้อผ้า ร้านกาแฟAmazon ร้านหนังสือ และอีกหลากหลายร้านเลยค่ะ
เดินมาถึงหน้าปากซ.รามคำแหง 51/2 ด้านหน้ามีทางลง MRTสถานีรามคำแหง (ทางออก 1) ห่างจากโครงการ 150 m. หรือถ้าเดินเข้าซอยไปในสุดเป็น “ท่าเรือม.รามคำแหง”
Sales Gallery ของโครงการ Modiz Rhyme รามคำแหง เด่นสะดุดตาดี
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- MRTสถานีรามคำแหง ~ 80 m.
- ม.รามคำแหง ~ 290 m.
- ท่าเรือ ม.รามคำแหง ~ 500 m.
- ท่าเรือวัดเทพลีลา ~ 1.1 km.
- The Mall รามคำแหง ~ 1.2 km.
- Foodland รามคำแหง ~ 1.6 km.
- รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ~ 1.8 km.
- รร.อุดมศึกษา ~ 2.0 km.
- รพ.รามคำแหง ~ 2.1 km.
- The Mall บางกะปิ ~ 3.8 km.
- รพ.เวชธานี ~ 3.9 km.
- ทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา ~ 4 km.
- The nine พระราม 9 ~ 4.5 km.
- สถาบัน NIDA ~ 5.1 km.
- รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ~ 6.1 km.
- Central พระราม 9 ~ 6.4 km.
รายละเอียดโครงการ
มาดูภาพรวมโครงการ Modiz Rhyme รามคำแหง คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น ที่เป็นคอนโด High Rise แห่งที่ 3 ของทาง AssetWise เพราะส่วนใหญ่เราจะเห็นเจ้านี้ทำแต่คอนโด Low Rise มากกว่า โดยภายในโครงการมีทั้งหมด 546 ยูนิต ที่ถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับโครงการในละแวก ซึ่งได้ความเป็นส่วนตัวดี หน้าตาอาคารเน้นความเรียบง่าย หรูหรา มีการดีไซน์ Podium ด้วยเส้นสายที่ให้ความรู้สึก Movement และ Active ตัวโครงการมาพร้อมแนวความคิด “Synchronize Your Living เชื่อมต่อทุกจังหวะชีวิต..ที่เป็นคุณ” เริ่มจากทำเลที่รายล้อมด้วยการขนส่งระบบสาธารณะทุกรูปแบบ รถไฟฟ้า รถเมล์ รถตู้ เรือด่วน สองแถว มอเตอร์ไซค์ ถัดมาคือการเปลี่ยนคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นทั้งเทคโนโลยีในโครงการและห้องพักอาศัย ใส่ใจสุขภาพ (มีระบบ O2 บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง/พื้นที่ปลูกผัก Organic/เครื่องกรองน้ำภายในห้อง) พร้อมยกพื้นที่ส่วนกลางขึ้นไปชั้นบน ทำให้ชมวิวมุมสูงของโครงการได้ด้วย
ภายใน Sale Gallery มีโมเดลจำลองให้ดู โครงการเป็นตึก High Rise 1 อาคาร ที่บริเวณชั้น G แบ่งทางเข้าออกเป็น 2 ส่วน โซนด้านหน้าเป็นร้านค้าที่คนภายนอกสามารถเข้ามาใช้งานได้ ส่วนด้านในเป็นล็อบบี้ของลูกบ้านที่แยกการใช้งานชัดเจน ได้ความเป็นส่วนตัวแน่นอน และเรายังเดินไปใช้งานได้ง่ายอีกด้วย ถัดขึ้นมาชั้น Podium เป็นพื้นที่จอดรถของลูกบ้านที่ใช้งานง่าย ส่วนห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 8-28 ที่ไม่ปะทะกับเพื่อนบ้านโดยตรง แบบห้องพักชั้น 8 กับ 28 จะเป็นห้องแบบ Vertical Suite (Loft) ฝ้าเพดานสูง 4.8 m. ส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นแบบห้อง Simplex สำหรับ Main Facilities ยกไปไว้ชั้นบน ข้อดีคือแม้เราจะซื้อห้องชั้นไม่สูงมากนัก แต่ก็สามารถขึ้นไปมองวิวมุมสูงของโครงการได้นะ
มาดู Master Plan กันค่ะ สำหรับชั้น G เราจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซนสีฟ้าสำหรับ Visitor และโซนสีแดงสำหรับลูกบ้าน ที่แยกกันใช้งานชัดเจนเลย ทั้งที่จอดรถที่เอาไปจอดใต้ดิน และทางเข้า-ออกที่ถูกคั่นด้วยถนน ซึ่งเวลาคนภายนอกมาใช้บริการร้านค้า จะได้ไม่ต้องเข้าไปรบกวนลูกบ้านในโครงการ ได้ความเป็นส่วนตัวดี สำหรับลูกบ้านมีที่จอดรถบนอาคาร พร้อมล็อบบี้ด้านในทั้งแบบ Indoor และ Semi-Outdoor ให้เลือกใช้งานได้ทั้ง 2 แบบ ส่วนน่าสนใจคือการออกแบบ Sunken Seat ที่เอาไว้นั่งรับลมชิลล์ๆ มองวิวพื้นที่สีเขียวไปด้วย
ทางเข้าโครงการติดถนนใหญ่ มีทางเดินเท้าแยกจากทางเส้นทางรถยนต์ แต่เนื่องจากต้องเดินผ่านจุด Drop off ก่อน ต้องเดินดูรถกันดีๆนะ
เข้ามาด้านหน้าเป็นโซนร้านค้าที่คนภายนอกเข้ามาใช้งานได้ โดยออกแบบมาเป็น 2 ชั้นที่ขนาดใหญ่พอสมควร ภายในมีร้านค้า 9 ยูนิต
ภาพบรรยากาศจำลองพื้นที่โซนร้านค้าด้านหน้า ที่ปล่อยขายให้กับร้านค้าชั้นนำ ซึ่งจะมีร้านอะไรมารอลุ้นกันนะคะ ^^
ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่ Drop off ของลูกบ้าน ล็อบบี้มีทั้งโซน Indoor และ Semi-Outdoor ให้เลือกใช้งาน เพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้เต็มที่ และที่เป็น Hilight เลยคือ Sunken Seat ที่เอาไว้นั่งพักผ่อนรับลมชิลล์ๆ พร้อมมองพื้นที่สีเขียวไปด้วย
ภายในล็อบบี้ลูกบ้าน ตกแต่งด้วยลวดลายหินอ่อน ความสูงแบบ Double Volume พร้อมเดินไฟ LED สวยงาม ดูหรูหราเหมือนคอนโดแพงๆ พร้อมทั้งติดตั้งเครื่อง O2 ช่วยให้อากาศสดชื่น
พื้นที่ล็อบบี้มีโซน Semi-Outdoor เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดีเลย และเลือกวางกระจกสูงเต็มผนัง ช่วยให้บรรยากาศภายในโล่งมากขึ้น
ถัดขึ้นมาชั้น 8 เป็นชั้นแรกของห้องพักอาศัย ที่มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นส่วนหย่อมเล็กน้อย ที่เอาไว้ปลูกผัก Organic ได้ ส่วนการจัดการจะเป็นอย่างไร? ต้องสอบถามทางโครงการอีกทีนะคะ มาดูที่ตัวห้องพักกันดูบ้างสำหรับชั้นนี้จะเป็นห้องรูปแบบ Vertical Suite (Loft) ฝ้าเพดานสูง 4.8 m. สำหรับห้องที่น่าสนใจจะมีอยู่หลายตำแหน่ง คือ
- โซนสีแดง : ห้องพักหันออกไปบริเวณสวนหย่อม บรรยากาศร่มรื่นดี แถมมีผนังต้นไม้ช่วยบังสายตาจากคนภายนอกได้ด้วย
- โซนสีเหลือง : ห้องพักหันออกทิศตะวันตก ได้พื้นที่ระเบียงกว้างกว่าเดิม และที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือตำแหน่งห้องเบอร์ 07 ที่ Layout แปลกหน่อย แต่ข้อดีเราจะได้หน้าต่างเพิ่ม เพื่อระบายอากาศภายในห้องค่ะ
- โซนสีฟ้า : เป็นห้องมุมพิเศษที่ได้ระเบียงเป็นรูปตัว L ที่ออกไปดูวิวได้ 2 ฝั่ง ส่วนขนาดของจริงไม่แน่ใจว่าจะใหญ่แบบวางโต๊ะ หรือเก้าอี้ได้ไหมนะ
พื้นที่สวนหย่อม หรือ Shade Garden ที่ทาง AssetWise ตั้งใจออกแบบให้เป็นพื้นที่กิจกรรมที่ลูกบ้านสามารถเข้ามาปลูกผัก และเก็บไปรับประทานได้จริงๆค่ะ
ถัดขึ้นมาที่ชั้น 29 เป็น Main Facilities ของโครงการถูกยกเอามาไว้ด้านบน มองเห็นวิวโล่งๆ ของย่านรามคำแหง ที่ไม่มีตึกสูงรอบข้างบังวิว ส่วนฟังก์ชันการใช้งานมีหลากหลายทีเดียว ตามแบบฉบับของทาง AssetWise
เริ่มที่โซนด้านในมี Kiz Club, Recreation Space (ห้อง Game room), Sky Lounge ส่วนไฮไลท์คือพื้นที่ Savory Cooking Lab ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ Long Table Dinning Room ที่ได้ความสูงแบบ Double Volume สูงประมาณ 11 m. ทำให้บรรยากาศดูหรูหรามากขึ้น เหมือนมี Penthouse หรูส่วนตัวเป็นของตัวเอง ที่จองพื้นที่จัดปาร์ตี้ได้ ส่วนโซนด้านนอกเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 27 x 5. m. ที่ว่ายน้ำจริงจังได้กำลังดี โดยมีทั้งส่วนในร่มและกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่นๆรอบสระว่ายน้ำทั้ง Jacuzzi, Sky Hot Pool (บ่อน้ำร้อน) และสระเด็ก ที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว บรรยากาศร่มรื่นดี
พื้นที่ Hilight ของชั้น 29 บริเวณ Savory Cooking Lab + Long Table Dinning Room ภายในตกแต่งด้วยพื้นและผนังลายหินอ่อน พร้อมความสูง Double Volume 11 m. ทำให้บรรยากาศดูโล่งดี
ห้อง Savory Cooking Lab มีอุปกรณ์ให้ใช้งานครบครัน ทั้งเตาอบ เตาไฟฟ้า เตาไมโครเวฟ และมี Smart Mirror ไว้ให้ดู Youtube ขณะทำอาหารไปด้วยนะ
พื้นที่ Heaven Lounge ตกแต่งด้วยลายหินอ่อน พร้อมชุดโซฟาที่ดูหรูหรา พร้อมกระจกสูงเต็มผนัง เหมาะมานั่ง Take View เพลินๆ หรือคุยงานบริเวณนี้ได้
ห้อง Kiz Club ตกแต่งมาได้น่ารักดี สีสันสดใส รวมถึงวัสดุที่เลือกใช้ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กด้วยนะคะ และที่น่าสนใจคือผนังที่มีปุ่มๆด้านข้าง ซึ่งทางโครงการเรียกว่าพื้นที่ Creative Discovery Mosaic ไว้ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสำหรับเด็กๆค่ะ
สำหรับห้อง Recreation Space (Game Room) ภายในวางโต๊ะพูลมาให้ ชวนเพื่อนๆมาเล่นผ่อนคลายได้นะ
สระว่ายน้ำมีทั้งโซนในร่มและกลางแจ้งให้เลือกใช้งาน และรายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว พร้อมลดระดับพื้นให้นั่งเล่นได้สบายมากขึ้น
สระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 27 x 5 m. (ไม่แบ่งพื้นที่สระเด็ก) ที่เหมาะสำหรับว่ายจริงจัง ให้เหงื่อออกได้เลย
Hilight ที่แตกต่างกว่าที่อื่นคือมี Sky Hot Pool มาให้ด้วย เหมาะสำหรับใครที่ชอบปวดเมื่อยตามตัว มานั่งผ่อนคลายพร้อมมองดูวิวมุมสูงของโครงการไปด้วย
สำหรับใครที่ออกกำลังอยู่ ก็สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำได้
ถัดขึ้นมาชั้น 30 มีห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ภายในมีอุปกรณ์ครบครันทั้ง Weight Traning และเครื่อง Cardio เป็นมาตรฐาน และมีห้อง Cinematic Room (Theatre) ซึ่งน่าจะเป็นอีกห้องที่นิยมสำหรับคนที่ชอบดูหนัง ในบรรยากาศคนน้อยๆดูเป็นส่วนตัวดี นอกจากนี้ยังมีโซน Co-Working Common ให้มานั่งคุยงาน หรือทำงานจริงจังได้เลย
ห้องออกกำลังกายมีทั้งเครื่อง Cardio และ Weight Traning ที่ดูแล้วได้อุปกรณ์หลากหลายดี พื้นปูด้วยพรมช่วยลดการกระแทกในการเล่นกีฬา ส่วนเสาเป็นจอ LED ที่มีแสงไฟเคลื่อนไหวตลอด สร้างอารมณ์ให้รู้สึก Movement ตลอดเวลาระหว่างการออกกำลังกาย ซึ่งอาจจะช่วยให้เราออกกำลังกายได้มากขึ้นนะ
Co-working Common ภายในจัดที่นั่งมาให้หลากหลายรูปแบบ ทั้งชุดเก้าอี้นั่งทำงานจริงจัง หรือเก้าอี้นอนอ่านหนังสือชิลล์ๆ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ทั้งเครื่องถ่ายเอกสาร และ Free WIFI เตรียมไว้ให้บริการอีกด้วยนะ
Cinematic Room เป็นห้องปิดทึบ เก็บเสียง ออกแบบผนังให้ซ้อนเป็นชั้น เหมือนอยู่ในโรงหนังเล่น ส่วนจอทีวีสามารถเชื่อมต่อ Netflix เหมาะพาเพื่อนมาดูหนังหรือซีรีส์สนุกๆ หรือจะเปลี่ยนเป็นช่องทีวีไว้ดูบอลด้วยกันก็ได้นะ ซึ่งห้องรองรับได้มากถึง 10 คน ซึ่งขนาดกำลังดีเลย
บริเวณ Roof Top มีส่วนที่เป็น Slope จากชั้น 30 ไปชั้นดาดฟ้า ที่พื้นปูด้วยหญ้าทั้งหมด เวลาเดินก็รู้สึกนุ่มสบายเท้าดีนะ เหมาะเดินออกกำลังกายเล็กน้อยๆ บริเวณบาร์หันออกถนนใหญ่มองวิวแบบ 180องศา ขึ้นไปด้านบน มีลานกิจกรรมกลางแจ้ง โซนนั่งเล่น และจัดปาร์ตี้เล็กๆได้
จำลองบรรยากาศพื้นที่ Main Facilities ชั้น Roof Top ที่จัดพื้นที่สีเขียวมาให้เยอะดีนะ
ส่วนตัวชอบ Slope ที่เดินจากชั้น 30 ไปดาดฟ้า ที่ไว้ออกกำลังกายได้เลย เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาไปไหนไกลๆ ก็มาเดินออกกำลังกายในคอนโดแทนได้นะ
บริเวณ Slope มีบาร์ให้นั่งชมวิว ม.รามคำแหง และสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน เวลามีจัดงานอาจจะได้เห็นพลุสวยๆด้วยนะ
ถัดขึ้นมาชั้น 9-27 เป็น Typical Floor Plan ที่ตำแหน่งห้องเหมือนกันทุกชั้น โดยมีห้องพักอาศัยมากสุด 26 ยูนิต พร้อมลิฟต์โดยสาร 3 ตัวทั้งโครงการ อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 182:1 ที่ถือว่าค่อนข้างมากทีเดียว ทางเดินเป็นแบบ Double Corridor ที่บางห้องประตูจะตรงกับเพื่อนบ้าน แต่ส่วนใหญ่ทางโครงการก็จะพยายามดีไซน์ให้ประตูไม่ตรงกัน เวลาออกมาพร้อมกันจะได้ไม่เห็นภายในห้องพัก นอกจากนี้ตำแหน่งหน้าต่างจะอยู่ส่วนหัว ท้ายอาคาร และโถงลิฟต์ ที่มีทางเดินด้านในบางส่วนที่แสงส่องไม่ถึง ทำให้อาจจะต้องเปิดไฟเพิ่มเพื่อให้สว่างทั่วถึง และอาจจะส่งผลกับค่าส่วนกลางในอนาคตได้ ส่วนห้องพักอาศัยที่น่าสนใจ คือ
- โซนสีแดง : ห้องเบอร์ 07 ที่มี Layout แปลกกว่าคนอื่น ที่ห้องครัวแยกออกมาด้านข้าง ไม่รบกวนพื้นที่ภายในห้อง แถมห้องครัวมีหน้าต่างระบายอากาศ
- โซนสีฟ้า : เป็นห้องที่ห้องนอนไม่ติดกับผนังเพื่อนบ้าน ที่ได้ความเป็นส่วนตัวดี เพราะผนังแบบ Pre-cast อาจจะกันเสียงได้ไม่ดีมากนัก ซึ่งถ้าเพื่อนห้องเสียงดังเราจะได้ยินนะคะ
ถัดขึ้นมาชั้น 28 เป็นชั้นสุดท้ายของห้องพักอาศัย ที่ออกแบบมาเป็นห้องแบบ Vertical Suite (Loft) ฝ้าเพดานสูง 4.8 m. ที่นอกจากภายในโปร่งโล่งแล้ว ยังได้วิวมุมสูงของโครงการอีกด้วย ซึ่งตำแหน่งห้องที่น่าสนใจจะคล้ายกับแปลนที่แล้ว แต่ที่ชอบสำหรับรูปแบบห้องนี้คือ ออกแบบให้ห้องครัวปิดอยู่ติดระเบียงด้านนอก ที่ทำให้ระบายกลิ่นอาหารได้ดีมากยิ่งขึ้น
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้นที่ G
- The Rhyme Lobby
- Harmonic Seating Space
- Sunken Seat
- Smart Laundry Lounge
- Shade Garden
- Radiant Seating
- Infinite Horizon Pool (สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 27 x 5 m. ลึก 1.2 m.)
- Sky Hot Pool (บ่อแช่น้ำร้อน)
- Symphony Jacuzzi
- Kid’s Pool
- Cabana (ที่นั่งริมสระ)
- Haven Lounge (พื้นที่นั่งเล่น)
- Recreation Space (ห้องเล่นเกม)
- Kiz Club (ห้องเด็ก)
- Long Table Dining Room (Co-Dinning)
- Savory Cooking Lab (Co-Kitchen)
- The Cloud Gym (ฟิตเนส)
- Co-Working Common (ห้องนั่งเล่น)
- Cinematic Room (ห้องดูหนัง)
- Health Station
- Panoramic Bar
- Sky Pavilion
- Moonlight Party Balcony,
- Cloud Deck
- Sky Garden Deck
แบบห้อง
สำหรับรูปแบบห้องของโครงการนี้มีหลากหลายขนาดเลยนะคะ แต่วันนี้ที่จะพาไปชมเป็น 1 Bedroom ขนาด 23 ตร.ม. และ 1 Bedroom Extra ขนาด 29.92 ตร.ม. ซึ่งถ้าใครจะซื้อคอนโดของ AssetWise คนรู้กันดีอยู่แล้วว่าโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ที่พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ขาดแค่ฟูกที่นอน และเครื่องใช้ไฟฟ้า(แต่ได้แอร์นะ) ส่วน Bluetooth Sound System ก็ให้มาเป็นมาตรฐาน แต่ที่พิเศษคือเครื่องกรองน้ำที่ติดให้ทุกห้อง ถือว่าใส่ใจรายละเอียดสำหรับคนที่อยู่คอนโดดีค่ะ
สำหรับห้อง 1 Bedroom 23.38 ตร.ม. ซึ่งตัวนี้จะแปลกกว่าตัวอื่นๆที่เราเห็น เพราะปกติ AssetWise ชอบทำเป็นรูปแบบห้องหน้าแคบ แต่ห้องนี้ได้เป็นห้องหน้ากว้างขึ้นมาหน่อย ที่จัด Layout มาได้ค่อนข้างดีเลย สำหรับห้องขนาดเพียง 23 ตร.ม. โดยเปิดมาเป็นห้องนั่งเล่นเชื่อมกับห้องนอน ซึ่งที่นี่ให้หน้าต่างบานใหญ่ ทำให้แสงส่องเข้ามาได้ทั่วถึง และด้วยตำแหน่งห้องนอนที่ชิดหน้าต่าง ทำให้นอนดูวิวจากบนเตียงได้เลย ส่วนห้องน้ำจะอยู่ก่อนทางเข้าห้องครัว ภายในแยกส่วนเปียก-แห้งชัดเจน ส่วนห้องครัวได้เป็นแบบปิด ที่เหมาะทำอาหารจริงจัง แถมติดกับระเบียงระบายกลิ่นได้ดี นอกจากนี้ภายในห้องครัวยังมีตู้ Built-in มาให้วางของเพิ่มเติม แต่ก็ทำให้ขนาดตู้เสื้อผ้าเล็กลงนะ
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นติดกับห้องนอน พื้นถึงฝ้า 2.7 ม. ภายในโปร่งโล่งดี พื้นในห้องเป็น Smart Vinyl (พื้นยางไวนิล) ที่ทนความชื้นและรอยขีดข่วนได้ดีกว่าลามิเนต แถมตัวพื้นมีความนุ่มที่เดินสบายเท้ามากขึ้น / ระยะทีวีกว้าง 2.20 m. ไซส์ทีวีที่เหมาะสมคือประมาณ 40″-44″ จะได้จอใหญ่เต็มสายตาพอดีค่ะ
ประตูทางเข้าเป็นบาน HDF ปิดด้วยผิวลามิเนต พร้อมมือจับเป็น Digital Door Lock โดยรุ่นนี้รองรับการใช้งานทั้ง 5 แบบ รหัส PIN, กุญแจ, สแกนลายนิ้วมือ, Keycard และ Bluetooth Unlock (Application) ที่ชอบคือตำแหน่งของ Finger Scan ที่ลองไปใช้แล้วถนัดมือดี / พื้นธรณีที่ยกสูง ป้องกันเศษผงฝุ่น และสิ่งสกปรกจากภายนอกห้อง
ชุด Built-in ทีวี เราจะได้หน้าตาแบบนี้เลย และเนื่องจากห้องนี้ไม่มีตู้เก็บรองเท้ามาให้ บริเวณใต้ชุดทีวีก็เป็นอีกจุด 1 ที่สามารถวางรองเท้าได้นะคะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นตำแหน่งที่วางโซฟา ซึ่งเป็นโซฟาแบบ Love Seat หรือนั่งได้ 2 คนกำลังดี ซึ่งของจริงจะได้แบบภาพด้านล่างนะ / ผนังห้องของจริงฉาบเรียบทาสีขาว
ชุดโซฟาของจริงเป็น Sofa Bed ที่สามารถดึงออกมานอนได้ กรณีมีแขกมาเยี่ยมบ้าน + ส่วนโต๊ะกลางขนาดเล็กที่วางของได้นิดหน่อย
สำหรับ Signature ที่เราคุ้นเคยของ AssetWise คือภายในห้องจะติดตั้งเครื่อง Bluetooth Sound System มาให้ โดยจะเชื่อมต่อกับลำโพงที่ฝ้าเพดาน เอาไว้เปิดเพลงฟังในห้องได้เลย
ภายในห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตกำลังดี ซึ่งโครงการให้ฐานเตียงมาด้วย ซื้อฟูกมาก็เข้าอยู่ได้เลย ข้อดีอีกอย่างคือได้หน้าต่างบานใหญ่เกือบเต็มผนัง พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งที่ระบายอากาศได้ดี ส่วนกระจกเป็นแบบ Euro Grey ที่กันแสง UV ได้ระดับนึง
สำหรับฐานเตียงที่โครงการ มีลิ้นชักมาให้เก็บของเพิ่มด้วยนะ
หลังจากวางเตียงแล้วมีพื้นที่เดินรอบได้กำลังดี ปลายเตียงมีพื้นที่เปิดตู้เสื้อผ้าได้พอดี แต่จะเดินผ่านไม่ได้นะ
ตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in มาให้แบบนี้เลย ที่ชอบเลยคือได้หน้าบานแบบใส ทำให้ห้องดูโล่งมากขึ้น แตกต่างจากบานทึบค่ะ
ก่อนทางเข้าห้องครัว เป็นพื้นที่ห้องน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน โดยกั้นด้วยฉากกั้นกระจก Tempered Glass พร้อมมือจับที่เอาไว้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ / พื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิกตามนี้เลย
อ่างล้างมือของ COTTO ขนาด 50 x 30 cm. ที่ด้านล่างมีตู้เก็บของได้นิดหน่อย
โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ COTTO มาพร้อมสายชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู่ที่ผนังด้านหลัง ซึ่งเวลาใช้งานจริงจะต้องเอี้ยวตัวเล็กน้อยนะ
พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นมาให้ ป้องกันน้ำไหลจากพื้นที่อาบน้ำ ส่วนภายในมีการเจาะช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ โดยโครงการนี้ได้ฝักบัว Hand Shower ยี่ห้อ Hafele ที่ปรับระดับการไหลของน้ำได้
พื้นที่อาบน้ำกว้าง 80 x 85 cm. เป็นขนาดที่ใช้งาน 1 คนกำลังดี
ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมไฟ LED Downlight + พัดลมดูดอากาศ
มาดูห้องครัวกันต่อ โดยห้องครัวมีประตูบานเลื่อนมาให้ ป้องกันกลิ่นฟุ้งกระจายที่ทำเป็นรางบนป้องกันการสะดุด
ชุดครัว Built-in หน้าตาแบบนี้ หน้าบานชั้นบนเป็นแบบ Hi-Gloss ที่สะท้อนเงาให้ห้องครัวดูกว้างมากขึ้น ส่วนหน้าบานปิดผิวลามิเนตสีเทา
หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีพื้นที่ใช้งานประมาณ 65 cm. ที่เหมาะใช้งาน 1-2 คนกำลังดี โดยพื้นตรงนี้เป็นพื้นยางไวนิล ที่ทนความชื้นได้ เวลาน้ำหกพื้นจะไม่บวมเหมือนพื้นไม้ลามิเนตนะคะ
ด้านบนทำเป็นชั้นวางของที่มีทั้งหน้าบานปิดที่เอาไว้ใส่จานชาม ป้องกันฝุ่น และแบบเปิดโชว์ของซึ่งที่นี่ติดตั้ง Soft Closed มาให้ ป้องกันการกระแทก
Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ที่มาพร้อมซิงค์อ่างล้างจานขนาด 40 x 40 cm. ยี่ห้อ MEX และ Hob & Hood เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ MEX แบบหมุนออกภายนอกอาคาร
บริเวณซิงค์ล้านจาน ติดตั้งก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ปรับโยกซ้าย-ขวา และที่พิเศษคือติดตั้งเครื่องกรองน้ำมาให้ด้วยยี่ห้อ PENTAIR
ชั้นล่างมีตู้ใต้ซิงค์เอาไว้เก็บของชิ้นใหญ่ / ส่วนอีกฝั่งเป็นลิ้นชักที่ใส่ช้อนส้อม และมีช่องว่างให้วางไมโครเวฟได้ด้วย
ฝั่งตรงข้ามโครงการ Built-in มาให้วางของเพิ่มเติมได้
ส่วนสุดท้ายคือพื้นที่ระเบียง ที่ได้เป็นประตูบานเลื่อนสูงจากพื้นถึงฝ้า เป็นลักษณะบานเลื่อน 3 ตอน ที่เปิดใช้งานได้กว้างมากขึ้น
พื้นที่ระเบียงขนาด 1.40 x 0.90 m. ที่วางเครื่องซักผ้าได้พอดี ซึ่งแนะนำแนะนำให้เลือกเครื่องซักผ้าแบบเปิดฝาด้านบน จะใช้งานสะดวกกว่า ส่วน Condensing Unit แขวนมาให้เรียบร้อย
สำหรับปลั๊กภายในห้องมีที่เสียบ USB มาให้ด้วย ใช้งานสะดวกดีนะ
แปลนห้อง 1 Bedroom Extra ขนาด 29.92 ตร.ม. ลักษณะห้องตอนลึก แบ่งการใช้งานเป็น 2 ฝั่งชัดเจน โดยเปิดประตูเข้ามาเป็นพื้นที่ห้องครัวเปิด เชื่อมกับห้องนั่งเล่นยาวจนถึงระเบียงที่รับแสงได้ ซึ่งลักษณะห้องครัวแบบนี้ถ้าใครทำอาหารบ่อยๆจะกั้นเป็นครัวปิดก็ได้นะ ส่วนที่พิเศษกว่าห้องที่แล้วคือมีตู้ Built-in ตรงข้ามชุดครัว เป็นตู้รองเท้า+โต๊ะทานข้าวแบบพับเก็บได้ ส่วนห้องนั่งเล่นอยู่ริมอาคารที่มองเห็นวิว และเดินออกไปสูดอากาศที่ระเบียงได้อีกด้วย ถัดเข้าไปห้องนอนชิดริมอาคาร นอนมองวิวจากบนเตียงได้เลย ซึ่งห้องมีขนาดกว้างมีพื้นที่วางเฟอร์นิเจอร์เพิ่มได้ และที่สำคัญมีห้องน้ำในตัวที่ใช้งานได้สะดวก แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่มีแขกมาบ้านบ่อยๆ เพราะต้องเดินผ่านห้องนอนเพื่อไปใช้ห้องน้ำ
เปิดประตูมาเป็นห้องครัวเปิดเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นยาวจนถึงระเบียง ที่พื้นสูงถึงฝ้า 2.7 m. ทำให้ภายในเปิดโล่งดีนะ
สำหรับชุด Built-in ตรงข้ามชุดครัว เป็นลักษณะโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่งกำลังดี
ซึ่งโต๊ะทานข้าวสามารถพับเก็บได้ เป็นการประหยัดพื้นที่ใช้งาน ส่วนตู้รองเท้านี้สามารถวางเรียง 6-8 คู่ได้กำลังดี
ชุดครัว Built-in เหมือนกับห้องที่แล้ว ที่ได้ความสูงเต็มจากพื้นถึงฝ้าค่ะ
ห้องนั่งเล่นติดพื้นที่ระเบียง ที่นั่งมองวิวจากภายในห้องได้ ส่วนชุดวางทีวีและโซฟาเหมือนกับห้องที่แล้วเลยค่ะ
ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดตั้งลำโพงที่เชื่อมกับ Bluetooth Sound System มาให้เป็นมาตรฐาน ที่เปิดเพลงฟังผ่านลำโพงได้เลย
พื้นที่ระเบียงขนาด 2.31 x 0.95 m. ที่เอาเก้าอี้ออกไปนั่งรับลมชิลล์ๆ ส่วนใต้ Condensing Unit สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ด้วยนะ
โครงการแขวน Condensing Unit มาให้เรียบร้อยค่ะ
สำหรับห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน (แบบเปิดได้ 2 ฝั่ง) ที่พอเปิดสุดจะทำให้ตัวห้องตัวห้องดูกว้างขึ้น แต่ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ติดผ้าม่านเพิ่มค่ะ
ซึ่งพอกั้นประตูบานเลื่อนแล้ว ทำให้พื้นที่ปลายเตียงเหลือเดินประมาณ 30 cm. ที่ดูแคบไปหน่อยแต่ก็เดินใช้งานได้อยู่นะ
ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตได้กำลังดี พร้อมฐานเตียงแบบที่มีลิ้นชักใต้เตียงให้เก็บของได้
บริเวณริมหน้าต่างมีพื้นที่เหลือ เหมาะวางโต๊ะทำงาน (คิดงานไปมองวิวไปเพลินๆ ^^)
บริเวณหน้าห้องน้ำมีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้ว พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งไว้แต่งหน้า ที่สาวๆน่าจะชื่นชอบกันนะ นอกจากนี้ภายในห้องยังให้แอร์ยี่ห้อ Daikin รุ่นที่กรอง PM2.5 ได้ด้วยนะ
ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน โดยกั้นด้วยฉากกั้นกระจก Tempered Glass พร้อมมือจับที่เอาไว้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ / พื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิกตามนี้เลย
พื้นที่อาบน้ำขนาด 90 x 88 cm. ที่ยืนได้ 1 คนกำลังดีค่ะ
ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมไฟ LED Downlight + พัดลมดูดอากาศ
แปลนห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.82 ตร.ม. ซึ่งเป็นจะวางอยู่ตามมุมอาคาร ที่ทำให้รับแสงได้ 2 ฝั่ง ทั้งห้องนอน ห้องอเนกประสงค์ ห้องนั่งเล่น ที่มองเห็นวิวทั้งหมด
เข้ามาเป็นพื้นที่ครัวเปิด ที่ด้านข้างเป็นประตูห้องน้ำ
แปลนห้อง 1 Bedroom Exclusive VS ขนาด 25.78 ตร.ม. (Loft) ฝ้าเพดานสูง 4.8 m. ที่ทำให้ภายในดูโปร่งโล่ง ที่ชอบเลยคือห้องนอนมีฉากกั้นกระจกเต็มพื้นที่ ที่ป้องกันแอร์ไหลลงมาด้านล่าง ประหยัดค่าไฟได้เยอะเลยนะ
เปิดมาเป็นพื้นที่ครัวปิด ที่เหมาะกับคนชอบทำอาหารจริงจัง
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
แปลนทั้งหมดของโครงการ
1 Bedroom Exclusive VS
แปลนห้อง Vertical Suite (Loft) ฝ้าเพดานสูงชั้นที่ 8
1 Bedroom
แปลนห้อง Simplex ชั้นที่ 9-27
1 Bedroom Exclusive VS
แปลนห้อง Vertical Suite (Loft) ฝ้าเพดานสูงชั้นที่ 28
ราคา
30 June 2020
- 1 Bedroom ขนาด 23.38-23.68 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท หรือ 80,838 บาท/ตร.ม. (โปรโมชัน)
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ฝ้าเพดาน (Floor To Ceiling)
- ห้อง Simplex สูง 2.7 m. / ห้อง Vertical Suite สูง 4.8 m.
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
- จอง 10,000-20,000 บาท
- ทำสัญญา 20,000-30,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง
- Simplex 55 บาท/ตร.ม./เดือน
- Vertical Suite (Loft) 75 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
โครงการ Modiz Rhyme รามคำแหง ทำเลใจกลางรามฯตรงข้าม ม.รามคำแหง(ฝั่งมุ่งหน้าแยกลำสาลี) ระหว่าง ซ.รามคำแหง 43/1 และ 53 ที่เชื่อมเข้ากับโซน Town in Town, เลียบด่วนรามอินทรา และลาดพร้าว นอกจากนี้ยังรายล้อมด้วยระบบสาธารณะครบครัน และความพิเศษของช่วงตอนกลาง(ฝั่งซอยเลขคี่) จะไม่มีตึกสูงบังอยู่ในระยะประชิดเลยจึงทำให้มองวิวเปิดโล่งไปได้ไกลเลย ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งต้องยอมรับว่าย่านนี้มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง สังเกตจากโครงการที่เริ่มมาเปิดใหม่ในย่านนี้กันยกใหญ่เลย
การเดินทางโดยใช้รถ :
ถือว่าสะดวกสำหรับคนที่ใช้เส้นทางไปโซน Town in Town, ลาดพร้าว, เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เพราะไม่ต้องเสียเวลารถติดบนถนนรามคำแหง หรือจะลัดวิ่งไปเข้าเมืองก็ได้ ส่วนทางด่วนก็มีให้ใช้ถึง 3 เส้นทางทั้ง ทางด่วนศรีรัช, มอเตอร์เวย์ และวงแหวนกาญจนาฯ โดยโครงการมีที่จอดรถประมาณ 285 คัน คิดเป็น 51.3% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ในแง่ของการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เราสามารถพูดได้ว่าถนนรามคำแหงนี้มีตัวเลือกการเดินทางที่ค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รถเมล์ รถตู้ เรือด่วน รถสองแถว มอเตอร์ไซค์ และรถไฟฟ้าที่คาดว่าเปิดใช้งานพร้อมโครงการสร้างเสร็จพอดี โดยตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เรียกรถสาธารณะง่าย มีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ไม่ไกล ใกล้ๆมี MRTสถานีรามคำแหง ห่างจากโครงการประมาณ 80 m. ส่วนท่าเรือก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการห่างไป 500 m. “ท่าเรือม.รามคำแหง” (ซ.รามคำแหง 51/2) ที่นั่งไปขึ้น Airport Rail Link สถานีรามคำแหงได้ ทำให้มีตัวเลือกการใช้งานทีหลากหลายดี
การออกแบบอาคาร :
คอนโด High Rise สไตล์โมเดิร์น เน้นความเรียบง่าย หรูหรา โดยตัวอาคารที่ชั้นล่างแยกโซน Visitor และลูกบ้านได้ดี ไม่รบกวนการใช้งานกันเอง ที่ยังคงได้ความเป็นส่วนตัวอยู่ ส่วนห้องพักอาศัยจะวางในแนวทิศตะวันตก และตะวันออกที่โดนแดดแรงบ้างในบางเวลา แต่ได้วิวเปิดโล่ง ไม่มีอะไรบังวิวในระยะประชิด ส่วนห้องพักอาศัยสูงสุด 26 ยูนิต พร้อมอัตราส่วนลิฟต์ 182:1
การออกแบบห้องพักอาศัย :
โครงการมีห้องให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย เริ่มต้นเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 23.38 ตร.ม. เป็นแบบห้องเริ่มต้นที่จัดมาได้ลงตัวเลย บรรยากาศภายในไม่อึดอัด เพราะได้ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.7 m. ทำให้ภายในดูโปร่งโล่ง ส่วนการจัดวางแม้ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะรวมกัน แต่ก็ยังใช้งานเป็นสัดส่วนอยู่ นอกจากนี้ยังได้ห้องครัวปิดติดระเบียง เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังเพราะระบายกลิ่นได้ดี
ส่วนห้อง 1 Bedroom Extra 29.92 ตร.ม. ที่เป็นห้องหน้าแคบลึกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ที่แบ่งการใช้งานชัดเจน ซึ่งห้องครัวแม้จะได้เป็นครัวเปิด แต่ก็พอกั้นทำเป็นครัวปิดได้ ส่วนห้องนั่งเล่นติดริมระเบียงที่นั่งมองวิวจากภายในได้เลย ถัดเข้ามาห้องนอนมีพื้นที่วางโต๊ะทำงานริมหน้าต่างได้ด้วย เหมาะมานั่งคิดงานเพลินๆ
วัสดุ :
ขายแบบ Fully Furnished ตามแบบฉบับของ AssetWise ที่ได้เฟอร์นิเจอร์ครบตามห้องตัวอย่าง ขาดแค่ฟูก ไมโครเวฟ และตู้เย็นที่ไม่ได้ ส่วนแอร์ให้เป็นยี่ห้อ Daikin รุ่นที่กรอง PM2.5 ได้ โดยพื้นห้องเป็น Smart Vinyl (พื้นยางไวนิล) ที่ทนความชื้นได้ดีกว่าพื้นไม้ลามิเนตทั่งไป / ส่วนระเบียงและห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิก สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำได้ยี่ห้อ COTTO ภายในครัวได้ชุด Built-in พร้อม Hob & Hood ยี่ห้อ MEX และที่พิเศษขึ้นมาคือติดตั้งเครื่องกรองน้ำมาให้ทุกห้องยี่ห้อ PENTAIR รวมถึงมี Digital Door Lock, Bluetooth Sound System เป็นมาตรฐาน
สาธารณูปโภค :
ถือว่าให้มาครบและหลากหลายดีตามสไตล์ AssetWise โดยเริ่มตั้งแต่ชั้น G มีส่วนร้านค้า ร้านอาหารมากถึง 9 ยูนิต ที่หาของกินได้ง่าย ส่วน Facilities เริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ที่เป็นโซนล็อบบี้ให้นั่งพูดคุยงานกับคนภายนอก โดยไม่ต้องขึ้นไปด้านบน ชั้น 8 มี Shade Garden ให้ลูกบ้านปลูกผักออแกนิคเก็บไปรับประทานได้จริงๆ นอกนั้นจะยกส่วนกลางที่เหลือไปไว้ชั้นบนสุด Hilight คือสระว่ายน้ำมีบ่อน้ำร้อนให้แช่ผ่อนคลาย อีกจุดคือห้อง Savory Cooking Lab + Long Table Dinning Room ที่เหมาะจัดปาร์ตี้เล็กๆ บรรยากาศเหมือน Penthouse ส่วนตัว และอีกจุดที่ชอบมากๆ คือชั้นดาดฟ้า ที่มี Slope จากชั้น 30 ไป Roof Top พร้อมปูพื้นหญ้านิ่มๆมาให้ เหมาะมาออกกำลังกายได้ชิลล์ๆ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 95,000 บาท/ตร.ม., 30 June 2020
- ทำเล 8.5/10 -ติดถนนใหญ่ หาของกินได้ง่าย ใกล้ซอยที่เชื่อมกับ Town in Town รอบด้านไม่มีตึกสูงบังวิว
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน 3 เส้นทาง และซอยลัดที่หลีกเลี่ยงรถติด ไปออกถนนเส้นอื่นแทน
- ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ตัวเลือกการเดินทางหลากหลาย ใกล้รถไฟฟ้า MRTสถานีรามคำแหง 80 m.
- วัสดุ 8/10 – ขายแบบ Fully Furnished ได้เหมือนห้องตัวอย่างยกเว้น ของตกแต่งและเครื่องใช้ไฟฟ้า มีแอร์ , เครื่องกรองน้ำ และ Bluetooth Sound System
- แบบ 8/10 – แบบห้องเยอะ มีทั้งแบบ Simplex และ Loft ฝ้าเพดานสูง
- สาธารณูปโภค 8/10 -ส่วนกลางจัดเต็มที่ชั้นบน โดยถ้าเทียบกับยูนิต ก็ให้มาเยอะทีเดียว
- MAIN CLASS
- 8.25 / 10.00
BOTTOM LINE
Modiz Rhyme รามคำแหง เหมาะกับคนที่อยู่หรือทำงานในย่านบางกะปิ-รามคำแหง หรือคนในพื้นที่เดิมอยากขยับขยายมาอยู่คอนโด โครงการติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก เรียกรถสาธารณะง่าย ใกล้รถไฟฟ้าและท่าเรือ พร้อมแบบห้องมีให้เลือกหลากหลาย มีแบบห้อง Vertical Suite (Loft) ฝ้าเพดานสูงให้เลือก ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished ที่พร้อมเข้าอยู่ พื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย เหมาะกับคนที่มีงบประมาณเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,000 บาท/เดือน
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving