รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ blue Sukhumvit 89 (บลู สุขุมวิท 89) กับส่วนกลางต่อเนื่อง 4 ชั้น เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมอยู่ ใกล้ BTS อ่อนนุช จาก Grand Unity [รีวิวฉบับที่ 2669]

29 มกราคม 2024

อ่านรีวิวล่าสุด

โครงการ blue (บลู) สุขุมวิท 89 เป็นคอนโดโครงการใหม่และแบรนด์ใหม่จาก Grand Unity ซึ่งทำเลนี้ถือว่าเปิดตัวเป็นโครงการที่ 2 และเป็นทำเลที่ใจกลางเมืองมากที่สุดของซีรีส์ บลู ที่เปิดมา 3 โครงการก็ว่าได้ค่ะ

  • ทำเลต้นซอยสุขุมวิท 89 : ซอยนี้จะอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้า 2 สถานีคือ BTS อ่อนนุช และ BTS บางจาก ระยะทางประมาณ 500 เมตร แต่จุดที่น่าสนใจคือโครงการจะอยู่ช่วงต้นซอย ทำให้เส้นทางการเดินเท้าจากโครงการไปยังรถไฟฟ้า จะอยู่บนทางเท้าริมถนนใหญ่ที่กว้างขวาง เดินสบาย เราไปลองเดินมาแล้วนะ ส่วนตัวมองว่าไม่ใกล้มากก็จริง แต่ สามารถเดินได้สะดวก
  • Layout ห้องหน้ากว้าง ครัวปิด : ห้องทุกแบบในโครงการจะเป็นห้องหน้ากว้าง ที่ได้อย่างน้อย 2 ฟังก์ชันติดกับผนังภายนอก(เช่น ห้องนอน, ห้องครัว หรือห้องอเนกประสงค์) และได้ห้องครัวปิด ที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารกินเอง
  • Fully Furnished : โครงการนี้ขายห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ที่เรียกว่า Adaptive Function ปรับเปลี่ยนหรือขยับ เพื่อปรับพื้นที่ใช้สอยภายในห้องได้ง่าย เรียกว่าให้ความสำคัญกับระยะการใช้งานพอสมควร ไม่เหมือนกับคอนโดขนาดเล็กหลายๆ แห่ง ที่เข้าไปห้องเหลือทางเดินนิดเดียว เรียกว่าอยู่แล้วไม่อึดอัดค่ะ
  • พื้นที่ส่วนกลาง และ ความหนาแน่น : ที่นี่จะแบ่งเป็น 2 อาคาร เฉลี่ยอาคารละ 164 ยูนิต ถือว่าไม่เยอะมาก และจัดพื้นที่ส่วนกลางกระจายตัวออกทั้ง 2 อาคาร และมีอยู่หลายชั้น ซึ่งเรามองว่าการจัดแบบนี้จะช่วยลดความหนาแน่นในการใช้งานส่วนกลางแต่ละพื้นที่ได้ด้วยค่ะ

โครงการนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.19 ล้านบาท ถ้าเทียบกับตลาดคอนโดในโซนอ่อนนุชแล้ว  Low Rise ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากกว่านี้จะราคาสูงกว่าอยู่ที่ 3 ล้านบาทขึ้นไป แต่ถ้าอยากได้ราคาล้านกว่าบาทก็จะเป็นคอนโดซึ่งอยู่บนทำเลที่เดินไปรถไฟฟ้าไม่ได้ ดังนั้นถ้าใครมีงบราวๆ 2-4 ล้าน อยากได้คอนโด Private ที่เดินไปรถไฟฟ้าได้ ลองมาอ่านรีวิว บลู สุขุมวิท 89 กันดูค่ะ

ข้อมูลโครงการ

บลู สุขุมวิท 89 ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023

 ชื่อโครงการ  blue Sukhumvit 89 (บลู สุขุมวิท89)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด
 SEGMENT CLASS  UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ซอยสุขุมวิท 89 เขตพระโขนง
 ที่ดิน  2 – 2 – 0 ไร่
 ประเภทคอนโด  Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร
 จำนวนยูนิต  328 ยูนิต (แบ่งเป็นอาคารละ 164 ยูนิต)
 ที่จอดรถ  ประมาณ 40% รวมซ้อนคัน
 เริ่มก่อสร้าง  2021
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  Q1 2024
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom ขนาด 24 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 27.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 35 – 35.5 ตร.ม.

 ราคาเริ่มต้น  2.19 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 105,000 บาท/ตร.ม.
 รูปแบบการขาย Fully Furnished
 เว็บไซต์โครงการ grandunity.co.th/th/blue-sukhumvit-89
 เบอร์ติดต่อ  02 652 4000

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.7014379 , 100.6023793
หรือสามารถ คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ

อ่อนนุชถือว่าเป็นทำเลยอดนิยมของเหล่า Developer ที่เรามักจะเห็นคอนโดใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ แทบทุกปีเลยนะคะ เนื่องจากทำเลนี้จะมีความโดดเด่นทั้งเรื่องอาหารการกิน มีตลาด ห้าง ร้านเยอะ และเดินทางสะดวกทั้งใกล้รถไฟฟ้าและใกล้กับทางด่วน(ซอยสุขุมวิท 50 และ สุขุมวิท 62) ทำให้คนที่ต้องใช้ชีวิต ทำงานหรือเรียนใจกลางเมือง มักจะมาเลือกหาซื้อหรือเช่าคอนโดในโซนนี้อยู่กัน

ทำเลโครงการ บลู สุขุมวิท 89 จะอยู่ในซอยสุขุมวิท 89 ค่ะ จากประตูทางเข้าโครงการอยู่ห่างจากปากซอยไม่เกิน 200 เมตร แถมยังมี 7-eleven และวินมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าปากซอยโครงการ เรียกว่าสะดวกเลยทีเดียวค่ะ

ภายในซอยนี้จะเป็นซอยที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเมื่อเทียบกับซอยอื่นๆ ที่สามารถใช้เชื่อมต่อได้ ซึ่งจุดนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบความสงบด้วยนะ เดินเข้าออกซอยก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีรถขับมาเฉี่ยวชน

ทำเลนี้เหมาะสำหรับคนที่ทำงานหรือเรียนในเมืองโดยใช้งานรถไฟฟ้าเป็นหลัก ซึ่งทำเลโครงการนี้จะอยู่ระหว่าง BTS 2 สถานีคือ สถานีอ่อนนุชและสถานีบางจาก ซึ่งเราได้ลองเดินจากโครงการไป-กลับสถานีอ่อนนุชดูแล้วก็ถือว่าเดินได้นะคะ เพราะเส้นทางส่วนใหญ่จะเดินบนทางเท้าริมถนนใหญ่ซึ่งกว้างและเดินง่ายมาก แต่ถ้าใครไม่ชอบเดินที่เราก็เรียกใช้บริการจากพี่วินได้ โซนนี้เรียกได้แทบจะทุกมุมถนนเลย ขาไปก็อาจจะให้ไปส่งที่บางจาก ส่วนขากลับเราลงที่สถานีอ่อนนุช แวะซื้อของกินข้าวแล้วเรียกพี่วินเข้าโครงการเอาก็ได้ค่ะ

สภาพตลาดคอนโดมือ 1 ในโซนอ่อนนุชนี้ จะมีทั้งคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ทั้ง Low Rise และ High Rise เหลือขาย และคอนโดที่เพิ่งเปิดตัวมาใหม่หลายโครงการ (เรียกได้ว่าเห็นคอนโดใหม่แทบทุกปีเลยค่ะ) ซึ่งคอนโดที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าอ่อนนุชนั้น ปัจจุบันจะราคาเริ่มต้นมากกว่า 3 ล้านบาทแทบทั้งหมด แต่ถ้าใครที่มีงบน้อยลงมาหน่อย ก็อาจจะต้องมองหาคอนโดที่ขยับไกลออกมาอยู่ในซอยย่อยแทน ซึ่งคอนโดที่ราคาต่ำลงมานั้นก็อาจจะไม่ได้ใกล้รถไฟฟ้าขนาดที่เดินไปใช้งานได้สบายนั่นเองค่ะ

แต่โครงการ บลู สุขุมวิท 89 นี้เรามองว่าเป็นคอนโดที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งในแง่ของทำเลและราคา โดยทำเลที่สามารถเดิน(walkable)ไปใช้งานรถไฟฟ้าได้ แต่ก็ยังเป็นคอนโดที่อยู่ในงบไม่เกิน 3 ล้านบาท (ห้องเริ่มต้นอยู่ที่ 2.19 ล้าน) ส่วน Benefit ที่น่าสนใจอื่นๆ ก็เช่น ห้องหน้ากว้าง ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ และมีส่วนกลางเยอะ แทรกตัวทุกอาคารและอยู่ในหลายๆ ชั้นพักอาศัย ก็เป็นส่วนเสริมที่ทำให้โครงการนี้น่าสนใจมากขึ้นด้วย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ซอยสุขุมวิท 89 ไม่ใช่ซอยที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อหรือทะลุไปยังซอยอื่นๆได้ง่าย อาคารส่วนใหญ่ภายในซอยก็จะเป็นอาคารพักอาศัย หรือสำนักงานขนาดเล็ก-กลางค่ะ ถือเป็นซอยที่ค่อนข้างสงบเหมาะสำหรับอยู่อาศัยนะ

ด้วยความที่คอนโด Low Rise ส่วนใหญ่มักจะมีความสูงไม่มาก (ไม่เกิน 23 เมตรตามที่กฎหมายกำหนด) ดังนั้นในเรื่องวิวจากห้องพักก็จะไม่ใช่ปัจจัยหลักสำหรับคนที่ซื้อ Low Rise ให้ความสำคัญ แต่จะเป็นเรื่อง Privacy มากกว่า ว่าจะมีบ้านตรงข้ามหรืออาคารไหนที่อยู่ระยะประชิดแล้วมองเข้ามาภายในห้องเราง่ายไหม? ดังนั้นโซนที่อาจจะมีตึกสูงใกล้ๆ ก็จะเป็นอาคาร B โซนที่อยู่ด้านหลังปลายอาคารนั่นเองค่ะ (เราเดาว่าโซนนี้จะราคาต่ำกว่าห้องที่อยู่ตำแหน่งอื่นนะ) ใครที่ไม่ติดเรื่องมีอาคารสูงใกล้ๆ ปกติอยู่ในห้องก็ปิดม่านตลอดเวลาอยู่แล้วตรงนี้ก็อาจจะเหมาะได้ค่ะ

บรรยากาศภายในซอยสุขุมวิท 89

Image 1/12
สำนักงานขายจะอยู่ติดกับตำแหน่งของโครงการเลยค่ะ

สำนักงานขายจะอยู่ติดกับตำแหน่งของโครงการเลยค่ะ

สภาพเส้นทางจาก BTS อ่อนนุช มายังโครงการ

Image 1/6
ปากซอยสุขุมวิท 81 ตรงนี้เราเดินลงจากรถไฟฟ้ามาก็จะเจอกับวินมอเตอร์ไซค์ หรือจะแวะโลตัสฝั่งตรงข้ามก่อนกลับบ้านก็ได้ค่ะ

ปากซอยสุขุมวิท 81 ตรงนี้เราเดินลงจากรถไฟฟ้ามาก็จะเจอกับวินมอเตอร์ไซค์ หรือจะแวะโลตัสฝั่งตรงข้ามก่อนกลับบ้านก็ได้ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • The Phyll ~ 450 m.
  • Tesco Lotus อ่อนนุช ~ 650 m.
  • Century Movie Plaza สุขุมวิท ~ 700 m.
  • Big C Extra อ่อนนุช ~ 1.3 km.
  • Habito Mall (T77) ~ 1.9 km.
  • 101 True Digital Park ~ 2 km.
  • One Udomsuk ~ 2.7 km.
  • Gateway เอกมัย ~ 3 km.
  • Central บางนา ~ 6.3 km.
  • Seacon Square ~ 6.9 km.
  • Paradise Park ~ 7.7 km.
  • Mega Bangna ~ 12.7 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.กล้วยน้ำไท 2 ~ 3.1 km.
  • รพ.สุขุมวิท ~ 3.6 km.

โรงเรียน

  • Wells International School ~ 1 km.
  • Anglo-Singapore International School ~ 2.1 km.
  • Berkeley International School ~ 4.2 km.
  • Bangkok Patana School ~ 7.1 km.

รายละเอียดโครงการ

บลู สุขุมวิท 89 เป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร รวมทั้งหมด 328 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 2 ไร่ครึ่ง

ตัวอาคารของโครงการ blue ที่มีจุดเด่นเรื่องการออกแบบระเบียงโค้ง ล้อไปกับแนวความคิดของโครงการที่สื่อถึงความอิสระ

แบรนด์ “บลู” จาก Grand Unity ถือว่าเป็นแบรนด์ใหม่ของที่นี่นะคะ โดยจะมีโครงการ บลู พหลโยธิน 35 ซึ่งเปิดตัวมาก่อนหน้า ส่วน บลู สุขุมวิท 89 นี้ถือว่าเป็นโครงการที่อยู่ใจกลางเมืองมากที่สุด บนเส้นสุขุมวิท ใกล้กับ BTS อ่อนนุชค่ะ โดยบลูนี้จะมีที่มาจาก Concept “Explore Your Area” สร้างคอนโดที่ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยค้นพบความสุขแบบที่ไม่ต้องไปไหนไกล โดยสื่อมาในคำว่า blue ที่แปลว่าสีฟ้า ทั้งสีฟ้าจากอิสระของท้องฟ้า และสีฟ้าจากน้ำทะเลค่ะ โดยตัว Concept นี้ก็จะมาเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจในการออกแบบ ทำให้เกิด Facade หรือว่าหน้าตาอาคารภายนอกมีเส้นโค้ง

อาคาร A อยู่ทางขวา ส่วนอาคาร B อยู่ทางซ้ายมือ

จุดเด่นที่น่าสนใจของคอนโด “บลู” สำหรับเราจะเป็นการออกแบบตัวโครงการที่จัดสรรพื้นที่ส่วนกลางมาหลากหลายชั้น และกระจายตัวอยู่ทั้ง 2 อาคาร ส่วนตัวห้องก็จัดฟังก์ชันได้น่าสนใจ ได้ห้องครัวปิด มีพื้นที่(ระยะข้างเตียงให้เดินได้) และได้เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเฉพาะในโครงการเรียกว่า Adaptive Function ซึ่งเดี๋ยวเราจะได้เห็นในแบบห้องค่ะ

Master Plan

ที่ดินของโครงการจะมีรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า คล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยว ด้านยาวจะวางขนานไปกับซอยสุขุมวิท 89 โดยทางเข้าหลักจะอยู่ทางฝั่งปากซอย(อาคาร A) ชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถและพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งที่จอดรถของที่นี่จะอยู่ที่ประมาณ 40% (รวมจอดซ้อนคัน) ถือว่าไม่เยอะนะคะ ตามขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด เป็นคอนโดที่วางกลุ่มลูกค้าเป็นคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลักค่ะ

โมเดลแสดงภาพรวมของโครงการ ที่แบ่งออกเป็น 2 อาคารวางยาวขนานไปกับซอยสุขุมวิท 89

Facility

พื้นที่ส่วนกลางของ บลู สุขุมวิท 89 จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 และกระจายตัวอยู่ทั้ง 2 อาคาร ตามภาพด้านล่าง

ที่อาคาร A ฟังก์ชันของส่วนกลางจะเป็น Co-working Space แต่ถ้าเป็นอาคาร B จะได้เป็นฟังก์ชันที่ Active อย่าง Fitness, Yoga Room โดยลูกบ้านสามารถไปใช้งานได้ทั้ง 2 อาคารนะคะ แต่ถ้าให้เราแนะนำ ใครที่อยากได้พื้นที่ทำงาน อ่านหนังสือ เลือกห้องพักที่อาคาร A จะดีกว่า ส่วนใครที่ชอบออกกำลังกาย อาคาร B ก็จะเหมาะกับไลฟ์สไตล์มากกว่า เพราะตัวสระว่ายน้ำก็จะอยู่ทางฝั่งอาคาร B ด้วย ที่เราแนะนำแบบนี้เพราะธรรมชาติของคนการที่จะต้องเดินข้ามอาคารเพื่อขึ้นไปใช้งานส่วนกลางของอาคารอื่น บางคนก็อาจจะไม่สะดวก ดังนั้นเลือกห้องในอาคารที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของเราตั้งแต่ต้นก็จะดีกว่าค่ะ

บรรยากาศพื้นที่สระว่ายน้ำที่อยู่หน้าอาคาร B ค่ะ ตรงนี้จะอยู่ติดกับซอยสุขุมวิท 89 แต่เราจะเห็นว่ามีรั้วที่ออกแบบไว้ให้เป็นกำแพงต้นไม้และต้นไม้ใหญ่โอบล้อมพื้นที่ส่วนนี้เอาไว้ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่มาใช้งานสระค่ะ

พื้นที่ทางฝั่งด้านหน้าติดกับถนนจะมีการจัดเป็นพื้นที่ทางเดิน และสวนเล็กๆ โดยจะมีมุมนั่งเล่นที่เรียกว่า Patio Garden อยู่ค่ะ

อย่างทางฝั่งหน้าอาคาร A ก็จะมี Garden Walkway อยู่เช่นกัน เป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ และสวนล้อมรอบ ให้คนที่อยู่ในโครงการนี้ได้มีพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Lobby ค่ะ โดยทั้ง 2 อาคารก็จะมี Lobby แยกไว้ให้ใช้งาน มีห้องน้ำส่วนกลางให้ใช้ และมีบันไดวนให้เดินขึ้นไปใช้งานส่วนกลางอื่นๆ ที่อยู่ชั้นบนค่ะ

ผังพื้นชั้น 2-4, 7 แสดงตำแหน่งพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่บนอาคาร

Image 1/4
ชั้น 2 : พื้นที่ส่วนกลางอาคาร A มี Co-working Space ส่วนอาคาร B จะเป็น ฟิตเนสค่ะ

ชั้น 2 : พื้นที่ส่วนกลางอาคาร A มี Co-working Space ส่วนอาคาร B จะเป็น ฟิตเนสค่ะ

สำหรับส่วนกลางที่อยู่อาคาร A ส่วนใหญ่จะเป็น Co-working Space ค่ะ เป็นอาคารที่เหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่เอาไว้นั่งทำงาน หรือ นักเรียนที่อยากได้พื้นที่หลากหลายเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในการอ่านหนังสือ

บรรยากาศภายใน Co-working space ดูจากภาพ Perspective แล้วจะแบ่งให้มีโซนที่สามารถนั่งรวมกันได้ และมีโซนที่จัดไว้เป็นห้อง Meeting Room ให้มานั่งพูดคุยงานหรือประชุมงานกับเพื่อนได้

สำหรับฟังก์ชันในอาคาร B จะเป็นพื้นที่ Active ที่เหมาะกับสายออกกำลังกาย โดยจะมีฟิตเนส และ Yoga Room อยู่ 2-3 ชั้น สามารถหามุมส่วนตัวเพื่อใช้งานได้ค่ะ

สังเกตได้ว่าทางโครงการจะจัดพื้นที่ส่วนกลางของทั้ง 2 อาคารเอาไว้บริเวณตรงกลาง ซึ่งตรงนี้เรามองว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่เหมือนกันนะคะ ทำให้หน้าตาของอาคารดูไม่เรียบเป็นห้องพักเรียงกันไป แต่จะมี Pocket Garden ที่เป็นต้นไม้แทรกอยู่ระหว่างบันไดหนีไฟ และมีส่วนกลางอยู่หลายชั้น ซึ่งแตกต่างจาก Low Rise ใจกลางเมืองทั่วๆ ไปที่มักจะไม่เน้นเรื่องพื้นที่ส่วนกลาง และจัดพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ชั้น 1 หรือดาดฟ้าเท่านั้นค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby ชั้น 1 ทั้งอาคาร A และ อาคาร B
  • Smart Locker
  • Laundry
  • Mail Room
  • EV Charger
  • Garden Walkway
  • Patio Garden
  • Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 4.5 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร (lap pool 3.5×15 เมตร)
  • Co-Working Space   อาคาร A
  • Fitness Room อาคาร B
  • Yoga Room อาคาร B
  • Private Theatre Room ทั้งอาคาร A และ อาคาร B

ระบบรักษาความปลอดภัย

  • เข้า-ออกโครง Keycard Access Control
  • ระบบกล้องวงจรปิดภายในโครงการ

วิเคราะห์ผังชั้นพักอาศัย

Typical Floor Plan

สำหรับชั้นพักอาศัยของโครงการ บลู สุขุมวิท 89 จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ไปถึงชั้น 8  โดยทั้ง 2 อาคารจะมีการจัดผังที่เหมือนกัน (เพียงแต่ Mirror หรือสลับฝั่งกันเท่านั้นค่ะ)

ในแต่ละชั้นจะมีห้องพักอาศัยสูงสุดอยู่ 24 ห้อง/ชั้น และมีลิฟต์โดยสารอยู่อาคารละ 2 ตัว เมื่อดูจากสัดส่วนของลิฟต์โดยสารต่อห้องพักอาศัยในแต่ละอาคารแล้วจะอยู่ที่ 1:82 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นมากค่ะ จุดที่น่าสนใจคือตำแหน่งลิฟต์ที่จะวางไว้ค่อนไปทางริมอาคารทำให้บางห้องในแต่ละชั้นอาจจะต้องเดินจากลิฟต์มาไกลหน่อย แต่ก็แลกกับความเป็นส่วนตัวที่มากกว่าห้องที่อยู่ใกล้กับลิฟต์ค่ะ

สำหรับแบบห้องพักอาศัยของที่นี่จะมีอยู่ทั้งหมด 3 แบบ โดยห้องขนาดใหญ่สุด 1 Bedroom Plus จะถูกวางไว้ใกล้กับโถงลิฟต์ ฝั่งหน้าอาคารซึ่งมีมุมมองที่กว้างกว่าฝั่งด้านหลัง ส่วนห้องขนาดเล็กสุด 24 ตร.ม. จะอยู่ทางฝั่งด้านหลัง ไกลจากลิฟต์ค่ะ และสำหรับห้องขนาดกลางหรือ 1 Bedroom 27.5 ตร.ม.ซึ่งเป็นแบบห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการจะมีทั้งทางฝั่งด้านหน้าและด้านหลังอาคารให้เลือก

แบบห้อง

ห้องพักอาศัยภายในโครงการ บลู สุขุมวิท 89 มีอยู่ 3 แบบ เน้นไปที่ห้องพักอาศัยขนาดเล็ก 1 bedroom และ 1 bedroom plus เหมาะสำหรับคนทำงานหรือนักเรียนที่อยากได้คอนโดบนเส้นสุขุมวิทที่เดินไปรถไฟฟ้าได้ อยู่กัน 1-2 คน รูปแบบห้องมีดังนี้ค่ะ

  • 1 Bedroom ขนาด 24 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 27.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 35 – 35.5 ตร.ม.

โดยในรีวิวนี้จะมีห้องตัวอย่างมาให้ดู 2 แบบคือ 1 Bedroom ขนาด 27.5 ตร.ม. และ 1 Bedroom plus ขนาด 35 ตร.ม.ค่ะ ภายในห้องจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกัน

วัสดุภายในห้อง

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished รูปแบบ Adaptive Function และ
  • Built-in (แต่ละแบบห้องจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับ Layout ของห้องค่ะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในรีวิวนะ)
  • เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง/ห้อง
  • ประตูติดตั้ง Digital Door Lock
  • ชุดครัว ได้ เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดอากาศ(แบบหมุนเวียน), อ่างล้างจาน ของ Hafele หรือเทียบเท่า
  • ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำพร้อมฉากกั้นอาบน้ำ
  • พื้นห้อง Laminated หนา 8 มม.
  • พื้นห้องครัว กระเบื้องเซรามิค
  • พื้นและผนังห้องน้ำ กระเบื้องแกรนิตโต้
  • ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว
  • ไฟดาวน์ไลท์
  • ชุดประตูหน้าต่างกระจกภายในห้อง บานกรอบอลูมิเนียมสีเทา กระจกนิรภัย Laminated 4+4 มม.
  • ปลั๊ก-สวิตช์ ของ Schneider หรือเทียบเท่า
  • พร้อมจุดชาร์จ USB บริเวณหัวเตียง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


1 Bedroom 27.5 Sq.m.

มาดูที่ห้องแรก 1 Bedroom ขนาด 27.5 ตร.ม. กันก่อนค่ะ ห้องนี้จะเป็นแบบที่มีจำนวนเยอะที่สุดของ บลู สุขุมวิท 89 เลย โดยจะเป็นห้องหน้ากว้าง แยกพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน

  • พื้นที่นั่งเล่น+กินข้าว หน้ากว้าง 3.6 ลึก 2.375 เมตร ได้ adaptive function ที่ตัวโซฟาสามารถปรับเป็นโต๊ะกินข้าวได้ด้วยค่ะ
  • ห้องนอนขนาด 2.95 x 2.75 เมตร ซึ่งเป็นขนาดที่เมื่อวางเตียงนอนแล้วจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงที่เดินได้ทั้ง 2 ฝั่ง
  • ห้องครัวปิด อยู่ติดกับระเบียง สามารถทำอาหารและระบายกลิ่น/ควันออกนอกอาคารได้โดยตรง

ตัวเฟอร์นิเจอร์จะให้มาตามที่เห็นในภาพเลยนะคะ ถือว่าค่อนข้างครบเลย สิ่งที่ต้องเพิ่มก็จะมีชั้นวาง TV , โต๊ะหัวเตียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ส่วนเครื่องปรับอากาศก็จะได้ 2 ตัวต่อยูนิตให้มาเป็นมาตรฐานค่ะ

มาดูห้องตัวอย่างกันค่ะ เข้ามาเราจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ภายในห้องถือว่ากว้าง จากพื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร แม้จะไม่มีส่วนที่ติดกับหน้าต่างแต่ก็ยังดูสว่างเนื่องจากประตูห้องนอนและห้องครัวเป็นบานเลื่อนกระจกค่ะ

ตัวพื้นห้องจะใช้เป็นลามิเนตลายไม้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องจะได้เป็น adaptive function ที่สามารถยืดหยุ่น ปรับ ขยับพื้นที่ตามใจชอบได้ อย่างห้องตัวอย่างนี้เราจะเห็นว่าระยะทางเดินเข้าห้องเว้นไว้ค่อนข้างกว้าง เดินสบาย

ตัวห้องมีขนาด 3.6 x 2.375 เมตร มีแนวผนังทึบที่เราสามารถหาชั้นวางของมาวางเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ด้วยค่ะ

ในห้องตัวอย่างนี้จะมีระยะปลายโซฟาถึงชั้นวางทีวี 1.5 เมตร ถือว่ากว้าง เดินสบายเลยค่ะ ระยะทางเดินที่เหมาะสมเรามองว่า 90-100 ซม. ก็เดินเข้า-ออกได้สบายสำหรับ 1 คนแล้วนะคะ

บริเวณทางเข้าห้องจะได้ชั้นวางรองเท้าค่ะ หน้าบานเป็นกระจกเงา สามารถส่องเช็กความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านได้ ด้านในสามารถจุรองเท้าได้มากกว่า 10+ คู่สบาย

ส่วนชั้นวางทีวีจะไม่ได้มีมาให้นะคะ เราหาชั้นวางมาเพิ่มได้ ราคามีตั้งแต่หลักร้อยบาทขึ้นไป เลือกตามงบประมาณและสไตล์ที่เราชอบได้เลย

ส่วนฝั่งนี้จะเป็นมุมนั่งพักผ่อน + กินข้าว ซึ่งเราจะได้โซฟา , coffee table หรือโต๊ะหน้าโซฟา พร้อมเก้าอี้เล็กๆ 2 ตัว

Coffee table ที่ได้จะหน้าตาแบบนี้ค่ะ ออกแบบมาใน concept adaptive ที่เราขยับมัน จับตั้งเสียบเข้าไปในโซฟาได้ลงตัวพอดี เผื่อใครอยากจับตั้งเอาไว้วางโน๊ตบุ๊ก นั่งทำงานบนโซฟาแบบสบายๆ

ส่วนตัวโซฟานี้จะยาวประมาณ 1.5 เมตร ดีไซน์พิเศษคือมีโต๊ะปรับระดับอยู่ด้านหลังตัวโซฟา

พื้นที่ตรงนี้สามารถกลายมาเป็นมุมกินข้าวได้ นั่งกินไป ดูทีวีไปได้ค่ะ

ในกรณีที่ไม่ได้ใช้งานเราก็ปรับตัวโต๊ะลง แล้วเลื่อนโซฟาไปชิดผนังได้ด้วย เพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องตรงกับแนวความคิดที่ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยมีอิสระ ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้งานภายในห้องได้ตามใจต้องการ

ส่วนเก้าอี้กินข้าวจะได้แบบนี้ค่ะ มีช่องเก็บของอยู่ใต้เก้าอี้ เผื่อใช้เก็บกล่องเอกสารหรือหนังสือเล่มเล็กๆ ได้

จากพื้นที่ส่วนแรกที่เป็นห้องนั่งเล่น+กินข้าว จะเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ ห้องครัว และ ห้องนอน ไล่จากซ้ายไปขวาค่ะ เป็นการจัดวางฟังก์ชันที่กระชับให้พื้นที่ภายในห้องเป็นพื้นที่ใช้สอยมากกว่าพื้นที่ทางเดินค่ะ

มาดูที่ห้องน้ำกันก่อน สำหรับห้องน้ำของที่นี่จะเลือกใช้วัสดุพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ซึ่งโครงการอื่นๆ มักจะใช้เป็นเซรามิค ซึ่งความแตกต่างที่เห็นชัดจะอยู่ที่บริเวณรอยต่อของกระเบื้อง ซึ่งกระเบื้องแกรนิตโต้จะต่อได้ชิดกันมากกว่า ทำให้ภายในห้องจะดูเรียบร้อยและสะอาดกว่าค่ะ

ฟังก์ชันการใช้งานของห้องน้ำก็จะแยกพื้นที่ส่วนแห้ง-เปียกเอาไว้ เข้ามาก็จะเจอกับอ่างล้างมือ+โถสุขภัณฑ์

ตัวสุขภัณฑ์จะใช้ของ Hafele มีรายละเอียดที่น่าสนใจ เช่น กระจกเงาที่ได้เต็มความกว้าง 1.45 เมตร มีผนัง Low wall ด้านหลังสุขภัณฑ์ใช้วางข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องน้ำได้ ส่วนตัวอ่างก็เลือกเป็นรุ่นที่ได้พื้นที่เก็บของด้านใต้อีกค่ะ

ส่วนของห้องน้ำก็จะมีฉากกั้นมาให้ กันน้ำสาดกระเด็นออกมา สะดวกในการใช้งานและสะอาดค่ะ โดยตัวฉากกั้นก็จะเป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอน ประหยัดพื้นที่

ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะมีขนาดประมาณ 86×100 ซม. เป็นระยะที่ถือว่าใช้งานหมุนตัวได้สะดวกอยู่นะคะ ส่วนตัวฝักบัวจะเป็นแบบมือจับ(hand shower) ติดตั้ง junction box เอาไว้เผื่อใครจะติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มก็ทำได้ง่ายค่ะ

ตำแหน่งของครัวจะอยู่มุมห้อง โดยเราจะได้เป็นครัวปิด กั้นแยกกับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก เพื่อให้แสงสว่างจากภายนอกเข้ามาใจกลางห้องได้ค่ะ

วัสดุพื้นภายในห้องครัวจะเปลี่ยนจากลามิเนตเป็นกระเบื้อง เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานครัว ที่อาจจะมีการเลอะ เปื้อน เปียก ซึ่งตัวกระเบื้องก็จะมีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย ไม่บวมเมื่อเจอน้ำมากๆ เหมือนกับพื้นลามิเนตค่ะ

เข้ามาภายในครัว ตรงกับประตูทางเข้าจะเป็นตู้เย็น (เราเลือกให้ตู้เย็นหันหน้าไปทางฝั่งเคาน์เตอร์ก็ได้นะคะ) โดยครัวนี้จะเป็นครัวปิด ที่อยู่ชิดระเบียง เวลาทำอาหารก็สามารถระบายกลิ่นหรือควันออกนอกห้องได้ง่ายค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวจะยาวประมาณ 1.30 เมตร ฟังก์ชันจัดมาครบ มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าใต้เตา และสามารถวางถังขยะไว้ใต้อ่างล้างจานได้นะ ส่วนพื้นที่ด้านบนก็แบ่งเอาไว้สำหรับวางไมโครเวฟไว้ให้ด้วย

ส่วนผนังด้านหลังของเคาน์เตอร์จะไม่ได้มีวัสดุที่เป็น Backsplash กันเลอะติดเอาไว้ให้ ดังนั้นเวลาใช้งานไปนานๆ ผนังขาวๆ ก็อาจจะมีคราบดำที่เกิดจากเขม่าควันเวลาทำอาหารได้ ใครที่มีงบเพิ่มหน่อยก็อาจจะหากระเบื้องมากรุผนังตรงนี้ไว้ เพื่อให้เราทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

ส่วนเตาไฟฟ้าจะได้เป็นของ Hafele เช่นกัน ส่วนระบบของเครื่องดูดควันจะใช้เป็นระบบหมุนเวียน แต่เรามองว่า benefit ของการที่ครัวติดระเบียงก็จะช่วยเรื่องระบายอากาศได้มากกว่าเครื่องดูดควันอยู่แล้วค่ะ

พื้นที่บนเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็จะมีฝาครอบ ปิดอ่างล้างจานมาให้ ช่วยเพิ่มพื้นที่บนเคาน์เตอร์เผื่อไว้สำหรับเตรียมอาหารได้นะ

จากพื้นที่ครัวจะอยู่ติดกับระเบียง โดยพื้นที่ระเบียงของโครงการ บลู นี้จะมีการออกแบบพิเศษที่ใช้ชื่อว่า private balcony คือจะไม่ได้ออกแบบให้เป็นราวกันตก แต่จะใช้ระแนงที่เป็นเส้นๆ กั้นแทน จุดนี้ออกแบบมาโดยคำนึงถึงรูปแบบตัวโครงการที่เป็นคอนโด Low rise ไม่สูงมาก หันออกไปทางไหนก็จะเจอเพื่อนบ้านหรือตึกข้างๆ เป็นรูปแบบคอนโดที่ไม่ได้เน้นวิวอยู่แล้ว พอออกแบบมาแบบนี้ก็จะสามารถปิดล้อมพื้นที่ ได้ความเป็นส่วนตัว และ ปลอดภัยด้วยค่ะ

พื้นที่ระเบียงจะมีขนาด 1.65×0.95 เมตร เป็นมุมตากผ้า ปลูกต้นไม้ได้

ส่วน condensing unit ของแอร์หรือเครื่องที่จะเป่าลมร้อนออกมาก็จะถูกยกแขวนไว้เหนือศีรษะบริเวณระเบียง ไม่เกะกะพื้นที่ใช้งานด้านล่างค่ะ

มาถึงห้องสุดท้าย นั่นก็คือห้องนอนค่ะ ตัวห้องนอนจะอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น แยกออกจากกันโดยประตูกระจกบานเลื่อน

ภายในห้องนอนถือว่ามีขนาดใหญ่เลยค่ะ ขนาดประมาณ 2.95×2.75 เมตร โดยทางโครงการจะมีเตียงและตู้เสื้อผ้าให้มาภายในห้อง Type นี้

ด้วยขนาดห้องถือว่ากว้างกำลังดีค่ะ เป็นห้องนอนที่เราสามารถเดินได้รอบเตียงเลยนะ

ฐานเตียงที่ให้มาก็จะมีลิ้นชักสำหรับเก็บของเอาไว้ให้ด้วย

จุดที่เราว่าน่าสนใจอีกเรื่องคือชุดหน้าต่างภายนอกที่ออกแบบมาเป็นกระจกเข้ามุมบานใหญ่ ทำให้ห้องดูโปร่ง สว่าง และช่วยให้ดูกว้างขึ้นอีกด้วย

ระยะข้างเตียงก็ถือว่ากว้าง หาโต๊ะหัวเตียงมาวาง หรือเพิ่มโซฟาพักผ่อน หรือจะเพิ่มมุมทำงานส่วนตัวภายในห้องนอนก็ทำได้สบายค่ะ

ส่วนตู้เสื้อผ้าก็จะ Built-in มาให้เรียบร้อย เป็นแนวเดียวกับผนังเลย

ตู้เสื้อผ้าจะกว้างอยู่ที่ 80 ซม. ด้านในมีลิ้นชักเก็บของ ราวแขวนเสื้อผ้า และมีช่องด้านบนเอาไว้สำหรับเก็บกระเป๋าเดินทางด้วยค่ะ สามารถใส่กระเป๋าขนาด 22-24 นิ้วได้เลยนะ


1 Bedroom Plus 35 Sq.m.

ห้องตัวอย่างต่อมาเป็นห้อง 1 Bedroom plus ซึ่งเป็นแบบที่ใหญ่สุดของโครงการ บลู สุขุมวิท 89 ค่ะ ภายในห้องจะมีขนาดประมาณ 35 ตร.ม. Layout ของห้องเป็นห้องหน้ากว้าง แบ่งฟังก์ชันออกเป็นสัดส่วน

  • ห้องนั่งเล่นรวมกับห้องครัว ลึก 3 เมตร เป็นขนาดที่ใช้งานสบาย
  • ครัวปิด แยกเป็นสัดส่วน ทำอาหารแล้วกลิ่นไม่ฟุ้งลอยไปยังพื้นที่โซนอื่นๆ
  • ห้องนอนขนาดใหญ่ พื้นที่ข้างเตียงกว้าง เพิ่มฟังก์ชันอย่างโซฟา หรือมุมทำงาน / โต๊ะเครื่องแป้งไว้ในห้องนอนได้
  • ห้องอเนกประสงค์ที่จัดเป็นห้องนอนได้ หรือจะจัดเป็นห้องทำงาน ห้องแต่งตัว walk-in closet ได้ตามใจชอบค่ะ

รูปแบบการขายของห้องนี้ก็จะมีเฟอร์นิเจอร์ให้มาด้วย เป็นแบบ Adaptive function ที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ จุดที่แตกต่างจากห้อง 1 Bedroom จะเป็นตัวโซฟาที่เป็นแบบที่มีช่องเก็บของใต้เบาะนั่ง และ ได้โต๊ะกินข้าวเพิ่มมาอีกชิ้นแทนค่ะ ราคาของห้องนี้จะเริ่มต้นประมาณ 3.75 ล้านบาท เรียกว่าถ้ามีงบ 4 ล้าน (รวมตกแต่ง เครื่องใช้ไฟฟ้า) ก็จะได้ห้องที่มีพื้นที่กว้างและฟังก์ชันมากขึ้นนะ

มาดูภายในห้องตัวอย่างกันค่ะ ส่วนแรกที่จะเจอเมื่อเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่น+กินข้าว พื้นที่ส่วนนี้จะมีหน้ากว้าง 2.6 เมตร ลึก 3 เมตร โดยระหว่างโซฟาไปยังชั้นวางทีวีจะมีความกว้างประมาณ 1.7 เมตร เรียกว่าเดินเข้า-ออกสบาย ขนาดที่วาง Coffee table ได้โดยไม่ขวางทางเดินค่ะ

จุดเด่นคือโซฟาที่ให้มาจะถูกวางชิดผนังฝั่งซ้าย ตั้งแต่ประตูทางเข้าไปยังผนังห้องนอนเลยค่ะ ยาวประมาณ 3 เมตร ซึ่งพอเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาพร้อมกับห้องก็จะวางได้ลงตัวพอดี

ตัวโซฟานี้จะออกแบบให้มีพื้นที่เก็บของอยู่ใต้เบาะ เราสามารถหยิบส่วนที่เป็นฟูกออกมาก็จะเจอพื้นที่เก็บของ ดูแล้วเก็บของได้เยอะพอสมควรเลยค่ะ

ส่วน Coffee table ก็จะได้ดีไซน์เดียวกันกับห้อง 1 Bedroom ที่ไปดูกันก่อนหน้า เราสามารถจับตั้ง หรือสอดเข้าไปเก็บบริเวณโซฟาได้เลย ทางเดินภายในห้องก็จะกว้างขึ้นด้วย

ส่วนพื้นที่กินข้าวก็จะให้โต๊ะมา 1 ตัวและเก้าอี้กินข้าวอีก 2 ตัว จัดวางเสร็จจะได้พื้นที่กินข้าวที่รองรับได้ 3-4 ที่นั่งเลยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามโซฟา จะได้ชั้นวางรองเท้าที่ Built-in มาตำแหน่งข้างประตูพอดี หน้าบานเป็นกระจก ใช้ส่องได้เต็มตัวหัวจรดเท้า เช็กความสวยงามก่อนออกจากบ้านได้ค่ะ ส่วนชั้นวางทีวีจะไม่ได้ให้มานะคะ หาซื้อชั้นวางทีวีมาเพิ่มหรือจะเลือกทีวีรุ่นที่แขวนกับผนังแทนก็ได้ค่ะ

ถัดเข้าไปด้านในห้องจะเป็นห้องนอนค่ะ กั้นแยกจากพื้นที่นั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก เพื่อให้แสงสว่างจากภายนอกอาคารส่องเข้ามายังพื้นที่ภายในห้องได้ ห้องไม่มืดเกินไปค่ะ

ส่วนที่ติดกับประตูห้องจะเป็นตู้เสื้อผ้า เตียงจะอยู่ถัดเข้าไป ตรงนี้เรามองว่าระยะเตียงกับระยะห้องนั่งเล่นจะห่างกันมากขึ้น เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเตียงได้ค่ะ

ฐานเตียงที่ได้จะมีฟังก์ชันเก็บของ เป็นลิ้นชักเก็บของที่อยู่ใต้เตียงค่ะ

ขนาดห้องจะอยู่ที่ 2.7×3.75 เมตร ทำให้มีพื้นที่รอบเตียงค่อนข้างกว้าง เป็นห้องนอนที่ขนาดอยู่สบายเลยค่ะ

ตู้เสื้อผ้าจะ Built-in มาให้กว้างประมาณ 1 เมตร หน้าบานเป็นบานเปิดสวิงคู่ มีระยะให้เปิด+ยืนเลือกเสื้อผ้า และ แต่งตัวได้สบาย โดยพื้นที่ด้านบนของตู้ก็จะมีช่องเอาไว้เก็บกระเป๋าเดินทางได้ ขนาด Maximum อยู่ที่ 22-24″

ด้านในห้องจะอยู่ติดกับกระจกขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นกระจกเข้ามุม ทำให้แสงสว่างเข้ามาภายในห้องได้เต็มที่ และส่องไปยังห้องนั่งเล่นได้เช่นกัน โดยตำแหน่งเตียงจะไม่ได้อยู่ชิดกับหน้าต่างมาก ป้องกันไอร้อนเข้าสู่เตียงได้ค่ะ

พื้นที่ข้างหน้าต่างถือว่ามีขนาดใหญ่นะ ห้องตัวอย่างตัวหน้าต่างจะห่างจากเตียงประมาณ 1.2 เมตร ตรงนี้เราเพิ่มฟังก์ชันที่เราชอบเอาไว้ในห้องได้ เช่น โต๊ะเครื่องแป้ง / โต๊ะทำงาน / โซฟาพักผ่อน ตามความต้องการเลยค่ะ

ใครที่อยากเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอนเรามองว่าสามารถติดผ้าม่านเพิ่ม หรือ หาสติ๊กเกอร์ฝ้ามาติดบริเวณประตูกระจกได้ค่ะ

มาดูพื้นที่อีกฝั่งของห้องกันค่ะ จากห้องนั่งเล่นเดินไปเราจะเจอกับครัวอยู่ตรงกลาง ขวามือเป็นห้องน้ำ ส่วนซ้ายมือเป็นห้องอเนกประสงค์

ห้องครัวเราจะได้เป็นครัวปิดนะคะ ขนาดครัวจะอยู่ที่ประมาณ 2×1.4 เมตร พอใช้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกก็จะช่วยให้ภายในครัวดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวและตู้เย็นจะวางชิดผนังฝั่งเดียวกัน เวลาใช้งานก็จะสะดวกนะ

ขนาดเคาน์เตอร์จะกว้างประมาณ 1.35 เมตร ดีไซน์จะเหมือนกับห้องที่แล้ว มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าใต้เคาน์เตอร์ / วางถังขยะใต้อ่างล้างจานได้ ด้านบนก็วางไมโครเวฟ และมีที่เก็บของให้เล็กน้อย

เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันจะเป็นของ Hafele ผนัง backsplash ไม่ได้ให้มานะ

อ่างล้างจานมีฝาปิด เพิ่มพื้นที่บนเคาน์เตอร์เวลาเตรียมอาหารได้ หรือเวลาที่เราล้างจานเสร็จก็ผึ่งลมไว้ด้านบนได้ ไม่ต้องกลัวน้ำหยดเลอะเทอะส่วนอื่นๆ ในครัวค่ะ

มาดูที่ห้องน้ำกันต่อ ห้องน้ำก็จะจัด Layout ตามมาตรฐานเลย เข้ามาภายในห้องจะเจอกับอ่างล้างหน้า และ โถสุขภัณฑ์ก่อน ส่วนห้องอาบน้ำจะอยู่ด้านในสุด กระจกเงาภายในห้องน้ำได้เต็มบานแบบห้องตัวอย่างด้วยนะคะ

สุขภัณฑ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำจะใช้ของ Hafele เป็นหลักค่ะ

ห้องอาบน้ำมีระยะอาบ 100×90 ซม. ใช้งานได้สบายเลย มีพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำบริเวณผนัง พร้อมเตรียมงานระบบเป็น junction box เอาไว้ สะดวกเวลาติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ

ห้องสุดท้ายของ 1 Bedroom plus คือห้องอเนกประสงค์ที่ Plus มาให้นั่นเอง ห้องนี้ถือว่าได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะลักษณะจะเป็นห้องที่มีประตูทึบปิด เหมาะกับการทำเป็นห้องแต่งตัวหรือห้องทำงานค่ะ

พื้นที่ภายในห้องมีขนาด 2.3×1.85 เมตร ห้องตัวอย่างจัดไว้เป็นห้องทำงาน ซึ่งขนาดเรามองว่ากำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่ไป สร้างสมาธิได้ดีเลยค่ะ

เราสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ (วางเตียง 3 ฟุต) หรือวางเครื่องออกกำลังกาย เพิ่มชั้นวางของ ตู้เสื้อผ้าได้นะคะ

โดยห้องอเนกประสงค์นี้จะอยู่ติดกับระเบียงที่เรียกว่า private balcony ที่มีระแนงวางตัวโค้งเป็นแนวผนังแทนราวกันตก

พื้นที่ระเบียงจะมีขนาด 2.35×0.70 เมตร ตัว CDU จะถูกยกขึ้นไปวางด้านบน เราใช้ระเบียงตากผ้า ปลูกต้นไม้ได้ตามสบายเลยค่ะ

และนี่ก็เป็นทั้งหมดของห้องตัวอย่างที่เราพาทุกคนมาดูกัน ห้องที่นี่ถือว่าออกแบบฟังก์ชันมาได้ดีนะคะ อยู่ 1-2 คนกำลังดี ห้องหน้ากว้าง ได้ครัวปิด และมีเฟอร์นิเจอร์ให้มาด้วยค่ะ

แบบแปลน

1 Bedroom 24 Sq.m.

ห้องเริ่มต้นของโครงการนี้จะเป็น 1 Bedroom ขนาด 24 ตร.ม. ซึ่งห้องนี้ก็จะมี Layout คล้ายกับห้องขนาด 27.5 ตร.ม. แต่จะมีขนาดที่กระชับขึ้น โดยพื้นที่ข้างเตียงจะมีขนาดเล็กลง และปรับโซฟาบริเวณห้องนั่งเล่นให้เหมือนกันห้อง 1 Bedroom Plus โดยยังคงฟังก์ชันการใช้งานให้ครบ ทั้งมุมพักผ่อน ครัว โต๊ะกินข้าว เตียงนอน

ส่วนรูปแบบการขายก็ยังเป็นห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Adaptive Function โดยห้องนี้จะมีราคาเริ่มต้นที่ 2.19 ล้านบาทค่ะ

ราคา

บลู สุขุมวิท 89 ราคา ณ วันที่ 1 February 2023

  • 1 Bedroom ขนาด 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 91,250 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 27.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 101,818 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 35-35.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.75 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 107,142 บาท/ตร.ม.

  • จอง 5,000 บาท
  • ไม่มีค่าทำสัญญา
  • ดาวน์ 5% ผ่อนดาวน์ 11 งวด งวดละ 3,000 บาท (บอลลูน 2 งวด)
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :
บลู สุขุมวิท 89 อยู่ในโซนอ่อนนุชซึ่งเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางเข้าใจกลางเมืองได้ง่าย โดยที่ค่าครองชีพไม่สูงเท่าโซนในเมืองค่ะ ทำให้โซนนี้เป็นทำเลยอดนิยมของการอยู่อาศัย มีทั้งชุมชนเดิม คอนโดมิเนียม และ apartment เยอะ ตลาด ห้าง ร้านค้า ทั้งของกินของใช้ครบครัน

การเดินทางโดยใช้รถ :
ทำเลนี้ถือว่าเดินทางด้วยรถสะดวก ใช้ถนนสุขุมวิทเข้าออกเมืองได้ง่าย มีทางด่วนเป็นตัวเลือกให้ใช้งาน แต่ด้วยการจราจรโซนนี้จะติดขัดหนักในช่วง prime time เยอะ ต้องเผื่อเวลาหรือเลี่ยงไปใช้ระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ เช่น รถไฟฟ้าแทนจะดีกว่าค่ะ

สัดส่วนที่จอดรถของโครงการอยู่ที่ 40% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าไม่เยอะ ขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด น่าจะเหมาะกับคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้ามากกว่า

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าถือว่าเป็นตัวเลือกที่สะดวกสุดสำหรับคนที่เลือกอยู่บนทำเลอ่อนนุชนี้ค่ะ โดยตัวโครงการจะอยู่ระหว่างรถไฟฟ้า 2 สถานีคือสถานีอ่อนนุชและสถานีบางจาก เดินไปใช้งานได้ไม่ลำบากมาก นอกจากนี้ก็เดินไปขึ้นรถเมล์ที่วิ่งผ่านถนนสุขุมวิทได้ (ปากซอยก็มีสะพานลอยเดินข้ามไปอีกฝั่งได้ง่าย) และก็มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่แทบจะทุกมุมถนนและทุกซอยเลยค่ะ

วัสดุ :
รูปแบบโครงการขายเป็น Fully Furnished โดยตัวเฟอร์นิเจอร์จะออกแบบให้มีดีเทลพิเศษ ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ เป็นจุดเด่นของที่นี่เลยค่ะ ส่วนวัสดุที่ได้ก็ถือว่าตามมาตรฐานนะ พื้นเป็นลามิเนต ได้แอร์ได้ Digital door lock ชุดครัว Built-in มาให้ครบ ส่วนห้องน้ำกรุกระเบื้องแกรนิตโต้ดูเรียบร้อยสวยงาม ชุดครัวและชุดสุขภัณฑ์จะได้ของ Hafele เป็นหลัก(หรือเทียบเท่า)

การออกแบบ :
รูปแบบห้องพักที่นี่นับว่าน่าสนใจ แม้จะมีแต่ Type เริ่มต้นอย่าง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ที่เหมาะสำหรับ 1-2 คน แต่ทุก Layout ก็จะออกแบบมาให้เป็นห้องหน้ากว้าง และได้ครัวปิด ทำอาหารกินเองสะดวก ในห้อง Type หลัก 1 Bedroom 27 ตร.ม. ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องระยะการใช้งาน วางเตียงก็ไม่จำเป็นต้องชิดผนัง เหลือทางเดิน 2 ฝั่งข้างเตียงได้ ทางเดินในห้องเดินสะดวก ดูแล้วเป็นห้องที่อยู่ได้สบายไม่คับแคบค่ะ

สาธารณูปโภค :
ตัวโครงการจะแบ่งเป็น 2 อาคาร ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางก็จะมีทั้งชั้น 1 ด้านหน้าอาคารและส่วนที่อยู่ภายในอาคารค่ะ ภายในอาคารจะมีฟังก์ชันที่กระจายตัวอยู่ทั้ง 2 อาคาร และอยู่ทั้งชั้น 1-4, 7-8 เรียกว่าค่อนข้างเยอะเลย อาคาร A ฟังก์ชันส่วนใหญ่จะเป็นห้องทำงาน co-working space ส่วนอาคาร B จะเป็นฟังก์ชันอย่างฟิตเนส ใครชอบใช้งานส่วนกลางอะไรก็เลือกห้องตามอาคารนั้นได้เลยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 105,000 บาท/ตร.ม., 1 กุมภาพันธ์ 2023

  • ทำเล 7.5/10 – โซนอ่อนนุช ความอุดมสมบูรณ์สูง
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เส้นสุขุมวิท เข้าเมืองง่าย มีทางด่วนใกล้ๆ
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – เดินไปใช้งานรถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุชและสถานีบางจากได้
  • วัสดุ 7.75/10 – ห้องพร้อมเฟอร์
  • แบบ 8/10 – ห้องหน้ากว้าง ครัวปิด
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ส่วนกลางอยู่ทั้ง 2 อาคาร กระจายตัวหลายชั้น

  • UPPER CLASS
  • 7.7125 / 10.00

บลู สุขุมวิท 89 เหมาะกับใคร?

โครงการ บลู สุขุมวิท 89 เหมาะสำหรับคนที่มองหาคอนโดในโซนอ่อนนุช งบประมาณไม่เกิน 3 ล้านบาทรวมค่าตกแต่ง ใกล้รถไฟฟ้าระยะที่เดินไปใช้งานได้ ชอบความสงบ มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานไม่ต้องใหญ่แต่มีมุมส่วนตัวให้เลือกใช้ มีกำลังผ่อนประมาณ 15,000 – 25,000 บาท/เดือน