รีวิวฉบับที่ 2091 … วันนี้ผมจะมาพาทุกคนไปชมคอนโด Low Rise ที่เพิ่งสร้างเสร็จกันสดๆร้อนๆในย่านเอกมัย ฝั่งซอยสุขุมวิท 42 กันครับ กับ QUINTARA TREEHAUS สุขุมวิท 42 จาก EASTERN STAR ห่างจากรถไฟฟ้า BTS เอกมัยประมาณ 600 เมตร และมีทางด่วนให้ใช้งานได้ง่าย เป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร ที่เน้นพื้นที่สีเขียวและมีบรรยากาศที่ค่อนข้างร่มรื่น มีห้องหลายแบบหลายขนาดให้เลือก ที่สำคัญคือขายแบบ Fully Furnished ครบพร้อมอยู่ ในราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท ไปชมกันเลยครับ
ข้อมูลโครงการ
18 June 2020
- QUINTARA TREEHAUS SUKHUMVIT42 (ควินทารา ทรีเฮาส์ สุขุมวิท 42)
- บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ซอยสุขุมวิท 42 เขตคลองเตย
- ที่ดินประมาณ 2-2-13 ไร่
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 304 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 22 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 136 คันคิดเป็น 45 %
- 1 Bedroom 29-40 ตร.ม. จำนวน 250 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
- 2 Bedroom 46-55 ตร.ม. จำนวน 54 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 8.09 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 1 Bedroom 32 ตร.ม. ราคา 3.99 ล้านบาท / หรือตร.ม.ละ 124,260 บาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 140,000 บาท/ตร.ม.
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 091-949-0000
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.7162613,100.5828101
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ QUINTARA TREEHAUS SUKHUMVIT 42 ตั้งอยู่ในซอย สุขุมวิท 42 ทำเลอยู่ในย่านสุขุมวิท-เอกมัย ฝั่งซอยเลขคู่ ซึ่งอาจจะไม่คึกคักเท่าทางฝั่งเลขคี่หรือซอยเอกมัย แต่ก็จะได้เปรียบในเรื่องความเงียบสงบและไม่วุ่นวาย และเป็นซอยที่เชื่อมต่อมาจากฝั่งถนนพระราม 4 ได้โดยตรง ที่ตั้งโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย โดยอยู่ห่างประมาณ 600 m. สามารถเดินเข้ามาในซอยได้ง่าย ทางขึ้นลง BTS สถานีเอกมัย ก็อยู่ปากซอยสุขุมวิท 42 เลยครับ ตัวโครงการจะอยู่ถัดเข้ามาในซอยบาร์โบส 2 ที่เชื่อมต่อมาจากซอยสุขุมวิท 42 ซึ่งเป็นซอยที่มีเส้นทางลัดเยอะทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางได้ทั้งจาก ถนนสุขุมวิท และถนนพระราม 4 ซึ่งเหมาะกับคนที่เน้นเดินทางทั้ง 2 ฝั่ง สามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งถนนพระราม 4 ไปออกสีลม , สามย่าน หรือใช้ถนนสุขุมวิทไปออกเพลินจิต, ชิดลม, สยาม หรือตรงไปผ่านทางถนนเอกมัยไปถนนเพชรบุรี ไปออกทางพญาไท เป็นต้น อีกทั้งยังมีทางด่วน 2 สาย ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการคือ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ทำเลในย่านนี้ถือเป็นเส้นทางที่คนนิยมใช้เดินทางกันตลอดทั้งวัน มีรถผ่านเข้าออกซอยสุขุมวิท 42 ตลอดเวลาโดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน ดังนั้นใครที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ควรเผื่อเวลารถติดกันด้วยนะครับ
ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถถือว่าสะดวกพอสมควร โครงการอยู่ห่างจาก BTS เอกมัยประมาณ 600 เมตร และ ห่างจาก BTS ทองหล่อ ประมาณ 1.2 กิโลเมตร จากสถานีเอกมัยถ้านั่งรถไปอีก 2 สถานี ก็จะถึงสถานีพร้อมพงษ์ ซึ่งเป็นสถานีที่มีศูนย์การค้าหรูอย่าง Emquartier , Emporium อยู่ ถัดจากสถานีพร้อมพงษ์ก็จะเป็นสถานี อโศก ซึ่งเป็นจุดเชื่อมกับ MRT อีกด้วย ความสะดวกจะอยู่ตรงที่ การเดินทางเข้าเมืองอย่างสีสม-สาทร เพลินจิต-สยาม สามารถนั่ง BTS ไปได้เลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานีให้เสียเวลา อีกทั้ง หน้าปากซอยสุขุมวิท 42 มีพี่วินให้บริการ ไม่เพียงเท่านั้น หน้าปากซอย บาร์โบส 2 (หน้าปากซอยโครงการ) ก็มีพี่วินให้บริการอีกด้วยครับ รวมถึงป้ายรถสาธารณะ อยู่ประมาณ 400 m. จากตัวโครงการ ทำให้การเดินทางค่อนข้างง่ายและสะดวกมากครับ
สำหรับเส้นทางการใช้ถนนใน ซอยสุขุมวิท 42 นั้นซอยนี้จะเป็นเส้นทางแบบ One way หรือเดินรถทางเดียว จากทางถนนพระราม 4 จะสามารถวิ่งตรงออกมาทะลุที่ถนนสุขุมวิทได้ทางปากซอยสุขุมวิท 42 กรณีเราใช้เส้นทางมาจากถนนสุขุมวิท ต้องใช้วิธีไปเข้าทางซอยสุขุมวิท 40 ซึ่งก็เป็นซอย One way เช่นกันสามารถวิ่งตรงไปออกถนนพระราม 4 ได้เท่านั้น แต่ในซอยสุขุมวิท 40 และ 42 จะมีซอยย่อยที่ทางเชื่อมระหว่าง 2 ซอยนี้อยู่ เป็นถนนซอยวิ่งสวนทางกันปกติ คือ ซอยสมานฉันท์ และซอยแสงจันทร์ เราสามารถขับเลี้ยวเข้าซอยย่อยเหล่านี้เพื่อมายังโครงการจากซอยสุขุมวิท 40 ได้เลย โดยไม่ต้องไปออกถนนหลักหรือถนนพระราม 4
สำหรับใครที่เดินทางโดยใช้ทางด่วนเป็นหลัก ก็มีทางด่วนเฉลิมมหานคร ที่อยู่ใกล้ๆกับโครงการ จัดเป็นระยะไม่ไกลสำหรับการขับรถ
- สีน้ำเงิน (ขึ้นทางด่วน) : ออกจากโครงการ เลี้ยวซ้ายวิ่งตรงมาที่ซอยสุขุมวิท 42 แล้วตรงเข้าซอยสมานฉันท์ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 40 วิ่งตรงมาทะลุออกถนนพระราม 4 จากถนนพระราม 4 เลี้ยวขวาเข้าถนนกล้วยน้ำไท แล้วเลี้ยวขวาอีกทีเพื่อขึ้นทางด่วน 1.6 km.
- สีเขียว (ลงทางด่วน) : ส่วนขากลับบ้านพอลงจากทางด่วนแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยถนนกล้วยน้ำไทย จากนั้นตรงทะลุผ่านถนนพระราม 4 เข้าซอยสุขุมวิท 42 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยบาร์โบส 2 ครับ
ความอุดมสมบูรณ์ในซอยสุขุมวิท 42 นี้ถือว่ามีพอสมควร รอบๆโครงการในระยะที่เดินไปได้ ถ้าเป็นในซอยจะมีร้านอาหารตามสั่งและรถเข็นแผงลอยแม่ค้าหลายร้านทีเดียว ทั้งร้านข้าว ก๋วยเตี๋ยว แผงขายผลไม้ แผงขายน้ำ หน้าปากซอยมีร้านกาแฟและขนม ประมาณ 3-4 ร้าน ซึ่งบริเวณนั้นจะมี 7 eleven และ Family Mart อยู่ห่างจากตัวโครงการ 200 m. ซึ่งถือว่าสะดวกสบายพอสมควรครับ ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงโครงการล้อมรอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมาย เช่น Terminal 21, Emporium, Emquartier, Rain Hill, Gateway Ekamai, J Avanue, K-Village, Major Ekamai, Big C Ekamai
ส่วนทางฝั่งพระราม 4 ก็จัดว่ามีสถานที่สำคัญครบวงจร ทั้งปั๊มน้ำมัน โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียน และ มหาวิทยาลัย อาคารสำนักงานที่ใกล้ ๆ เลยจะมี อาคารมาลีนนท์ ทาวน์เวอร์ อาคาร FYI อาคารสิรินรัตน์ มี BigC, Tesco Lotus พระราม4 และ Community mall อย่างสวนเพลิน มาร์เก็ต ให้ช้อปปิ้งซื้อของ มี โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ส่วนสถานศึกษาก็จะใกล้กับม.กรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท
เส้นทางการเดินทาง
การเดินทางในวันนี้ จะมาจาก BTS เอกมัยครับ โดยออกที่ประตูทางออกที่ 2 เดินเลี้ยวขวาเข้าซอยสุขุมวิท 42 ประมาณ 400 เมตร จากนั้น เลี้ยวซ้ายเข้าซอยบาร์โบส 2 เข้ามาประมาณ 200 เมตร ก็เจอตัวโครงการครับ
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัยครับ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
หลังจากเข้ามาถึงตัวโครงการกันแล้ว เราลองมาดูสภาพแวดล้อมของโดยรอบของโครงการ QUINTARA TREEHUAS สุขุมวิท 42 กันบ้าง ตัวโครงการจะตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่กว่าๆ ภายในซอยบาร์โบส 2 ที่เชื่อมต่อมาจากซอยสุขุมวิท 42 โดยรอบโครงการจะมีทั้งอาคารสำนักงาน และอาคารพักอาศัย และบ้านพักอาศัยเดิมในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยและอาคารแนวราบ โดยส่วนใหญ่แล้วรอบที่ตั้งโครงการจะมีอาคารอยู่ทั้ง 4 ทิศ ทำให้ได้รับวิวจากภายนอกค่อนข้างยากหน่อย ทางโครงการจึงเน้นการจัดพื้นที่ส่วนกลางเพื่อรับวิวจากภายในตัวโครงการแทนครับ ลองไปดูภาพจริงแต่ละมุมของอาคารกันเลย
- ภาพจากชั้นดาดฟ้าทางทิศเหนือ – ฝั่งนี้จะมีผลกับวิวของอาคาร A และ B เลย จะเป็นวิวที่ติดกับถนนซอยบาร์โบส 2 ซึ่งจะมีระยะความกว้างประมาณ 9.2 เมตร ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโด 8 ชั้น วิวฝั่งนี้จะหันเข้าถนนสุขุมวิท ซึ่งจะมีแนวตึกสูงในระยะไกลเยอะหน่อย แต่ข้อดีของทิศนี้คือได้รับแดดน้อย ไม่ร้อนครับ
- ภาพจากชั้นดาดฟ้าทางทิศตะวันออก – ฝั่งนี้จะมีผลกับวิวของอาคาร B ล้วนๆ พื้นที่โครงการจะติดกับอาคารสูง 10 ชั้น และบ้านพักอาศัยแนวราบใกล้ ๆ จริง ๆ แล้วฝั่งนี้ไม่ค่อยโดนบล็อควิวเท่าไหร่ เพราะแนวอาคาร 10 ชั้นที่อยู่ข้าง ๆ ถึงจะมีระยะติดโครงการเราก็จริง แต่ไม่ได้บังทั้งแนวอาคาร ทำให้ยังได้วิวโล่งด้านข้างอยู่บ้างครับ ทิศฝั่งนี้จะได้รับลมประจำปีทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีแดดส่องในช่วงเช้า แต่ช่วงบ่ายจะไม่โดนแดดแล้ว ทำให้ตอนกลางคืนก็ไม่ร้อนไปด้วยครับ
- ภาพจากชั้นดาดฟ้าทางทิศใต้ – ฝั่งนี้จะมีผลกับวิวของอาคาร A และ B เลย เป็นฝั่งที่เรียกว่าโดนบล็อควิวมากที่สุดก็ได้นะ จะติดกับอาคารสำนักงานสูง 16 ชั้น และอาคาร 21 ชั้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องวิวนัก เพราะข้อดีคือจะได้แนวอาคารสูงช่วยบังแดดให้ ทำให้ห้องไม่ร้อนทั้งกลางวันและกลางคืน
- ภาพจากชั้นดาดฟ้าทางทิศตะวันตก – ฝั่งนี้จะมีผลกับวิวของอาคาร A ล้วนๆ ติดกับอาคารสำนักงาน 7 ชั้น ที่กำลังก่อสร้าง จะมีแนวอาคารใกล้เคียงกับตัวโครงการเรา ซึ่งน่าจะทำให้ชั้น 1-7 โดนบล็อควิวไปเยอะพอสมควร แต่ก็จะช่วยบังแดดช่วงบ่ายให้ทางทิศนี้ด้วย เพราะทิศนี้จะรับแดดเยอะในตอนบ่าย โดยปกติจะทำให้ตอนกลางคืนร้อนไปด้วย เพราะผนังห้องจะคลายความร้อนออกมา ใช้เวลาหลายชั่วโมงเหมือนกัน
- ภาพจากชั้นดาดฟ้ามุมมองเข้าภายในโครงการทางฝั่งทิศเหนือ-ใต้ – จะเป็นวิวของแนวอาคารที่หันเข้าภายใน ซึ่งแนวทิศนี้จะมีเพียง 4 ห้องเท่านั้น แนวทิศเหนือใต้นี้จะมีช่วงอาคารฝั่งตรงข้ามไกลหน่อย ทำให้ได้มุมมองที่กว้างและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นครับ จะเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางด้านล่างตามแนวยาวของสระว่ายน้ำเลยครับ
- ภาพจากชั้นดาดฟ้ามุมมองเข้าภายในโครงการทางฝั่งทิศตะวันออก-ตะวันตก – จะเป็นฝั่งที่หันเข้าภายในโครงการ ซึ่งจะมีห้องแนวนี้รวมสองอาคารเยอะเหมือนกัน มุมมองอาจจะไม่กว้างเท่ากับมุมที่หันเข้าโครงการตามแนวทิศเหนือใต้ แต่ก็ได้วิวพื้นที่ส่วนกลางสวยไม่แพ้กันเลย เพียงแต่จะเห็นห้องฝั่งตรงข้ามเยอะมากกว่าเท่านั้นครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทย ระยะทางประมาณ 350 m.
- Gateway เอกมัย ระยะทางประมาณ 500 m.
- Major เอกมัย ระยะทางประมาณ 850 m.
- Park Lane ระยะทางประมาณ 1.1 km.
- โรงพยาบาลสุขุมวิท ระยะทางประมาณ 1.3 km.
- Big C เอกมัย ระยะทางประมาณ 1.5 km.
- สวนเพลิน มาร์เก็ต ระยะทางประมาณ 2.0 km.
- Rain Hill ระยะทางประมาณ 2.6 km.
- Villa Market ระยะทางประมาณ 2.6 km.
- J Avenue ระยะทางประมาณ 2.7 km.
- Emporium ระยะทางประมาณ 2.7 km.
- The Commons ระยะทางประมาณ 2.8 km.
- โรงพยาบาลสมิติเวช ระยะทางประมาณ 2.8 km.
- Tops Supermarket ทองหล่อ ระยะทางประมาณ 3.2 km.
- Emquatier ระยะทางประมาณ 3.7 km.
- Terminal 21 ระยะทางประมาณ 5 km.
รายละเอียดโครงการ
มาดู Master Plan กันต่อครับ ที่ชั้นล่างจะเป็นชั้นจอดรถทั้งหมด มีทางเข้า – ออก 1 ทาง สามารถจอดรถรวมจอดซ้อนคันได้ 158 คัน คิดเป็น 52% ภายในจะเดินรถทางเดียวตามเข็มนาฬิกาวนรอบอาคาร ด้านหลังโครงการจะมีทางให้ลงชั้นจอดรถใต้ดินครับ และวนตามเข็มนาฬิกาเช่นเดิมเป็นทางขึ้นอีกทางข้างๆกัน ส่วนภายในอาคารจะมีตำแหน่งบันไดหนีไฟอยู่ที่ 2 มุมของแต่ละอาคาร ส่วนลิฟต์จะมีให้อาคารละ 2 ตัว อยู่ใกล้กับ Lobby ของแต่ละอาคาร มีแนวทางเดินตรงกลางสามารถเชื่อมต่อกันได้ค่อนข้างสะดวก พื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้ จะอยู่ที่ด้านอาคาร A (อาคารฝั่งซ้าย) เป็นหลัก มีห้องน้ำแยกชายหญิง พร้อม Cabana พื้นที่นั่งเล่นริมสวน ส่วนพื้นที่ตรงกลางโครงการเป็นพื้นที่ของ Oasis Pool สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 23 x 6 ม. และสวนกระจายอยู่รอบๆ
ทางเข้าออกโครงการจะเป็นรั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ ด้วยระบบ Keycard Access แบบ Easy Pass เหมือนทางด่วนเลยครับ จะมีป้อม รปภ.ดูแลอยู่ด้านข้างนะครับ พื้นเขาจะปูให้เป็นกระเบื้องลายหินด้วยนะ เข้ากับสไตล์การออกแบบของโครงการ
เมื่อเข้ามาจะบังคับให้เลี้ยวไปทางซ้ายครับ เป็นการเดินรถทางเดียวตลอดทั้งโครงการนะครับ
ด้านในจะเป็นพื้นที่จอดรถ ซึ่งยกเพดานให้สูงค่อนข้างโล่งเลย ได้แสงจากด้านข้างด้วย
ตรงนี้จะมีรถ Nissan Almera ให้เป็นรถ Haup Car ให้เช่ายืมด้วยครับ ซึ่ง Haup Car ที่ว่านี้เป็นบริษัทคาร์แชร์ริ่งแห่งแรกของประเทศไทย สัญชาติไทย ให้บริการรถเช่าแบบ On-Demand สามารถจองและเช่ารถได้ผ่านทางแอปพลิเคชั่น โดยสามารถจองได้ตั้งแต่ 1 ชั่วโมง ถึง 7 วัน โดยจะคิดค่าบริการตามที่ใช้งานจริง
ซึ่งลูกบ้านของที่นี่สามารถจองรถผ่าน App Haup Car ได้เลย โดยสำหรับลูกบ้าน Quintara Treehaus สุขุมวิท 42 ที่นี่จะได้รับฟรี 5 ชม.ในการเช่ายืมรถ โดยจะเริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 119 บาท แต่ในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการบริหารของนิติอีกทีครับ
ด้านข้างจะมีทางเข้าอาคาร B อยู่ด้วยครับ จะเข้าออกด้วยระบบ Face Scan นะครับ
ส่วนถ้าตรงต่อมาด้านหลังจะมีทางลงไปจอดรถด้านล่าง ซึ่งจะวนตามเข็มนาฬิกาแนวเดียวกัน
ถัดมาก็จะเป็นทางขึ้นจากที่จอดรถใต้ดินครับ
เมื่อขึ้นมาก็วนรถทางขวามือต่อเลยครับ อีกฝั่งในตำแหน่งเดียวกันก็จะเป็นทางเข้าอาคาร A ด้วยระบบ Face Scan เหมือนกันครับ
ย้อนกลับมาที่ด้านหน้าตรงกลางโครงการกันอีกรอบครับ เลยทางจอดรถเข้ามาจะมีทางเดินเข้าไปภายในที่มาพร้อมทางลาดสำหรับรถเข็นไว้ให้ด้วยนะครับ
เข้ามาแล้วลองเลี้ยวซ้ายไปดูทางฝั่งอาคาร B กันก่อนนะครับ เป็นอาคารที่ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลาง เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ที่อาคาร A อาคารนี้จึงมีจุดเด่นที่ความสงบ ไม่วุ่นวาย แต่ก็ยังสามารถไปใช้งานพื้นที่ส่วนกลางที่อาคาร A ได้นะ โดยช่วงแรกจะมีส่วนของห้องนิติบุคคล และห้องน้ำไว้ให้ใช้บริการง่ายๆด้วย
เป็นห้องน้ำขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ใช้งานได้ทีละหลายคนนะครับ เพราะภายในเขาแยกห้องน้ำไว้ให้ด้วย 1 ห้อง
เดินต่อมาอีกหน่อยจะมีประตูที่เชื่อมต่อกับโถงลิฟต์ครับ ซึ่งสามารถเข้าได้จากอีกฝั่งที่เป็นพื้นที่จอดรถด้วย เป็นส่วนที่ผมพาไปชมกันมาเมื่อสักครู่ ด้านข้างมีพื้นที่ Mail Box ของโครงการครับ
Mail Box ทุกห้องจะรวมไว้ที่นี่จุดนี้จุดเดียวเลย ทำให้สามารถเข้าใช้งานและดูแลง่ายครับ
ตรงนี้ถือว่าเขาเลือกวางไว้ได้ดีนะครับ เป็นตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่าย เพราะภายในโถงลิฟต์ B จะสามารถเชื่อมได้ทั้งภายในโครงการและพื้นที่จอดรถ ใครที่จอดรถแล้วอยากขึ้นห้องพักอาศัยเลยก็ง่าย หรือจะทะลุมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางก็ไม่ยากครับ
ด้านข้างยังมีพื้นที่รับรองเล็กๆของอาคาร B นี้อยู่ด้วยเช่นกัน
เป็น Lobby ขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ใช้สำหรับพักคอย และเป็นจุดนัดพบได้
ด้านข้างจะมีวิวพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้อยู่ สามารถเชื่อมไปใช้งานได้เลย ซึ่งตัวโครงการออกแบบด้วยแนวคิด “Secret Garden” เน้นการสร้างพื้นที่สีเขียวในโครงการ เพื่อเป็นวิวและมุมมองในการอยู่อาศัยจากพื้นที่ส่วนกลางของโครงการอย่างเต็มที่ ผสมผสานกับ Facade อาคาร ที่ออกแบบให้มีความทันสมัยเรียบเท่ แต่ก็มีความกลมกลืนกับธรรมชาติโดยการเลือกใช้วัสดุที่ดูเข้ากับธรรมชาติอย่างอิฐแดงก่อเป็นแนวในรูปด้านของตัวอาคาร
ลองมาดูฝั่งอาคาร A กันบ้างครับ พื้นที่ส่วนกลางส่วนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งนี้ ทำให้อาคารนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง เข้าถึงได้ง่าย
ภายในปัจจุบันเป็นส่วนของสำนักงานขาย ซึ่งจัดบรรยากาศไว้ค่อนข้างสวยงามเลย
มีมุมให้เลือกนั่งพักผ่อนหลายที่ หลายแบบเลย
ตรงกลางมีโต๊ะยาวให้ ที่ชอบคือเขาให้แนวกระจกสูงถึงฝ้าทั้งแผ่นเลย ทำให้สามารถรับบรรยากาศและแสงภายนอกได้เยอะ
กลับออกมา ด้านข้างจะมีแนวประตูที่เชื่อมเข้าสู่โถงลิฟต์ของอาคาร A ครับ
จะอยู่ตำแหน่งเดียวกันกับอาคาร B เลยครับ สามารถเชื่อมเข้าจากพื้นที่จอดรถได้ด้วยเช่นเดิม
ด้านข้างภายในโถงลิฟต์จะมีพื้นที่เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้ครับ
เป็น Cabana สำหรับนั่งรับบรรยากาศสวนและสระว่ายน้ำ ที่ผมชอบคือเขามีลายฉลุด้านข้างและด้านบนที่เป็นลายธรรมชาติ ด้านในเป็นกล่องไฟให้แสงสว่างและสร้างบรรยากาศได้ดีเลย
บรรยากาศที่ได้ก็จะประมาณนี้ครับ เป็นพื้นที่ร่มรื่นและบรรยากาศดี เหมาะกับการพักผ่อนได้ดีเลยทีเดียว
ด้านข้างจะมีแนวทางเดินเข้าไปยังห้องน้ำด้านในครับ ห้องน้ำที่นี่สวยและดูดีทีเดียว
เป็นห้องน้ำแยกชายหญิง ผมขอพาเข้ามาชมในห้องน้ำผู้ชายนะครับ ภายในขนาดใหญ่ ใช้งานได้หลายคน ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินแผ่นใหญ่ คุมโทนได้ดีทีเดียว
มีมุมที่เป็นพื้นที่อ่างล้างหน้า ตกแต่งออกมาสวยงามน่าใช้งานทีเดียว
ภายในห้องน้ำมีหลายส่วนใช้งาน ทั้ง Locker สำหรับเก็บของ ห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ และห้อง Sauna ให้ใช้บริการ
ออกจากห้องน้ำมาจะมีแนวทางเดินเข้าสู่พื้นที่สระว่ายน้ำตรงกลางครับ เป็นแนวทางเดินที่มีพื้นที่นั่งพักคอยไว้ให้ด้วย ทางฝั่งของอาคาร B ก็จะเป็นแบบนี้เช่นกันนะ
ตรงกลางจะมีสระว่ายน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 23 x 6 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายได้ พร้อมพื้นที่ริมสระให้ใช้งาน
เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ โดยจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่บริเวณกลางโครงการ ออกแบบวางผังอาคารลักษณะเหมือนตัว U ให้อาคาร A และ B โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางไว้ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวและเกิดมุมมองจากภายในพื้นที่โครงการ สร้างบรรยากาศที่ดีในการใช้งานให้กับโครงการ พื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 1 ประกอบด้วย Oasis Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือที่มาพร้อมกับ Cabana ด้านข้างสำหรับนั่งพักผ่อน ถูกห้อมล้อมด้วยสวนต้นไม้มากมาย ออกแบบตามแนวคิด “Secret Garden” ของโครงการ ระหว่างแนวตึกมีช่องขนาดใหญ่ ทำให้บริเวณนี้ได้รับทั้งแสงและลมตลอดทั้งวัน
พื้นที่ริมสระจะจัดเป็นส่วนของ Sunbed ที่นั่งพักผ่อนรับบรรยากาศสระว่ายน้ำและสวนได้ หรือจะเป็นพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ติดตามก็ได้ครับ
ด้านในจะมีสวนที่จัดเป็นแนวสวนยกระดับมาให้ทั้งสองฝั่งเลยครับ
อีกจุดที่ชอบคือทั้งสองฝั่งจะมีช่องลม ที่ช่วยทำให้เกิดการ Ventilation ของลมภายในโครงการ แถมยังช่วยเป็นช่องแสงให้พื้นที่ตรงกลางนี้อีกด้วย
ขึ้นมาต่อที่ชั้น 2 ครับ โถงลิฟต์ในแต่ละชั้นจะมีลักษณะประมาณนี้ครับ มีช่องแสงขนาดใหญ่ด้านข้าง และจัดไฟภายในมาสวยน่าใช้งานเหมือนกัน
ขึ้นมาที่ชั้น 2 กันต่อเลย เป็นชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางเหมือนกัน แต่จะมีในส่วนของอาคาร A เท่านั้น ซึ่งชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัยอยู่ด้วย โดยอาคาร A จะมีทั้งหมด 18 ยูนิต ส่วนอาคาร B จะมีทั้งหมด 22 ยูนิต โดยเขาจะเน้นห้องพักอาศัยห้องใหญ่ 2 Bedroom จะได้วิวภายในโครงการ ส่วนห้องที่หันออกภายนอกจะเป็นห้อง 1 Bedroom ซะเป็นส่วนใหญ่ โดยห้องทางฝั่งทิศเหนือจะเป็นห้องขนาดใหญ่ครับ
นอกจากนั้นชั้นนี้ จะมี Facilities ของโครงการประกอบไปด้วย พื้นที่ห้องออกกำลังกาย Treehaus Lounge และ Co-Working Space โดยมีการใช้ระบบ Key Card Access อีกชั้นหนึ่งในการเข้าถึงห้องพื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ นี้
ส่วนแรกเลยจะเป็นเหมือนพื้นที่รับรองของชั้นนี้ จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นก่อนจะเข้าถึงห้องพักอาศัย ใครที่อยู่อาคาร A ชั้น 2 นี้ก็เหมือนกับได้ Lobby หน้าห้องพักอาศัยเลยครับ
โดยทางเข้าห้องพักอาศัยจะเข้าด้วยระบบ Face Scan ครับ
ส่วนแรกนี้จะได้เป็นพื้นที่พักคอย มีแนวที่นั่งริมหน้าต่างรับวิวสวนตรงกลางครับ ด้านในจะเป็นส่วนกลาง Treehaus Lounge ของโครงการ หรือเรียกง่ายๆว่าห้องต้อนรับ สำหรับนัดพบหรือพักคอยครับ
ถัดเข้ามาด้านในพื้นที่บริเวณนี้คือพื้นที่พักผ่อน นัดคุยงาน นั่งเล่น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ชั้น 2 มีกระจกบานใหญ่ตลอดแนวได้รับบรรยากาศภายในของโครงการ ภายในมีการจัดพื้นที่พักผ่อนไว้หลากหลาย มีเคาน์เตอร์บาร์สำหรับจัดเตรียมเครื่องดื่มได้ แบ่งโซนที่นั่งให้เลือกใช้งานได้ตามความชอบ
ภายในจะมีพื้นที่นั่งหลายแบบให้เลือกใช้งาน นอกจากนั้นก็มีเคาน์เตอร์ครัวให้ใช้งานด้วยครับ
เดินเข้ามาภายในจะมีห้องที่แยกเป็นอีกส่วนเพื่อความเป็นส่วนตัวที่มากยิ่งขึ้นไปอีก
เป็นห้อง Co-Working Space เป็นห้องทำงานอ่านหนังสือ พักผ่อนที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แต่ยังรับวิวภายนอกได้ดีเช่นเดิม
มีโซฟาตัวใหญ่พร้อมกับทีวีจอยักษ์สำหรับนอนดูหนังฟังเพลง หรือดูบอลได้สบายๆ
ด้านหลังมีโต๊ะที่เป็นพื้นที่ทำงาน อ่านหนังสือ หรือจะจับกลุ่มกันทำงานร่วมกันก็ได้ครับ เขาใส่ใจรายละเอียดในการตกแต่งห้องให้ดูเรียบ ด้วยการซ่อนแอร์ไว้ภายในผนังด้วย
ห้องด้านในสุดเป็นห้อง Fitness ของโครงการนี้ โดยจะมีขนาดที่ค่อนข้างกว้างนะ จัดเป็นหลายมุมภายใน
ส่วนของการออกกำลังกายรูปแบบ Cardio จะอยู่ริมหน้าต่าง รับวิวพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ส่วนการออกกำลังกายด้วย Weight Training จะอยู่อีกฝั่งนึงของห้องครับ มีอุปกรณ์ให้ค่อนข้างครบเลย
ต่อไปก็ขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าของโครงการกัน ไม่ใช่แค่มาเล็กๆน้อยๆนะครับ แต่มาทั้งชั้นเลย สามารถรับลมรับวิวได้รอบด้านเลย ที่สำคัญคือภายในแบ่งเป็นมุมที่มีกิจกรรมที่หลากหลาย เป็นส่วนที่ต้องขึ้นมาด้วยบันไดจากทางชั้น 8 ส่วนแรกเลยคือบริเวณรอบชั้นดาดฟ้าจะมีลู่วิ่งสำหรับออกกำลังกายเป็น Jogging track ที่มีระยะทางรวมประมาณ 180 m. เข้ามาในส่วนพื้นที่สีเขียวจะมีการแบ่งแยกโซนการใช้งาน เช่น มุมใกล้ตำแหน่งบันได จะมีพื้นที่สำหรับนั่งชมวิว ทำอาหารได้ นั่งคุยกันได้ คือ BBQ Corner พื้นที่ทำอาหารได้ นั่งทานอาหาร ปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ และครอบครัว ส่วนอีกพื้นที่นึงคือ Family Pavilion พื้นที่บริเวณนี้เป็นโต๊ะยาวสำหรับครอบครัว นั่งคุยกัน ทานอาหาร ได้เช่นกัน พื้นที่สองบริเวณนี้จะสามารถได้รับภายในโครงการอย่างชัดเจน ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนที่น่าสนใจทีเดียวครับ
ส่วนต่อมาเป็นส่วนออกกำลังกายกลางแจ้ง Functional Training Field พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งบนพื้นหญ้า มีเครื่องออกกำลังกายตั้งพร้อมให้บริการครับ บริเวณนี้ตั้งอยู่บนฝั่งอาคาร B จะหันหน้าเข้าหา อาคาร A ทำให้สามารถได้รับบรรยากาศภายในโครงการได้อย่างเปิดกว้างเช่นเดียวกันครับ ส่วนฝั่งอาคาร A จะเป็นส่วน Kid’s Creation พื้นที่การเรียนรู้ของเด็ก ๆ สามารถออกกำลังกาย เล่นบนสนามหญ้าและเครื่องเล่น โดยมีการให้ความปลอดภัยของสถานที่และสามารถอยู่ในสายตาของผู้ปกครองได้ตลอดครับ
ขึ้นมาจะพบว่าบรรยากาศข้างบนนี้เป็นพื้นที่พักผ่อนที่ดีทีเดียวครับ เพราะมีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะและแบ่งออกเป็นมุมพักผ่อนหลายมุมเลย ส่วนตัวผมชอบพื้นที่ชั้นดาดฟ้ามากที่สุดเลย
มีพื้นที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว หรือเป็นกลุ่มเล็กๆก็ได้ ที่สำคัญคือมีมุมลักษณะนี้หลายจุด ทำให้ชั้นนี้สามารถใช้งานร่วมกันได้พร้อมๆกันหลายคนเลย
ที่สำคัญคือทางโครงการเขามีการดูแลเฟอร์นิเจอร์ด้านบนนี้ค่อนข้างดีเลย คลุมผ้าไว้ให้สำหรับช่วงที่ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งบรรยากาศรอบๆก็จะมีการดูแลรักษาจากพี่ๆพนักงานตลอดด้วยเช่นกัน
ถัดมาก็เจออีกมุมที่เป็นพื้นที่รองรับการใช้งานแบบกลุ่มด้วยเช่นกัน
เดินต่อมาก็จะเจอโถงลิฟต์ของอีกอาคารที่สามารถขึ้นมาที่ชั้นนี้ได้ด้วยเช่นกัน
ด้านหลังจะมีมุมที่จัดไว้แตกต่างจากเดิม สำหรับกิจกรรมที่แตกต่างไปอีก
มีมุมออกกำลังกายสำหรับเด็ก หรือจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นก็ได้
อีกฝั่งจะเป็นมุมสำหรับ BBQ หรือปาร์ตี้เป็นกลุ่ม มีอ่างล้างจานไว้ใช้ล้างอุปกรณ์ง่ายๆได้ด้วย
จะมีอีกฝั่งที่เป็นพื้นที่ลักษณะเดียวกัน ทำให้สามารถใช้งานพร้อมกันได้หลายกลุ่ม
มีมุมเรียนรู้หรือออกกำลังกายสำหรับเด็กให้ด้วย เรียกว่ารองรับทุกช่วงทุกวัยเลยครับ
ชั้น 3 – 7 โดยจะจัดแบบ Typical plan เป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมดจัดวางห้องพักแบบมีทั้งให้หันออกโดยรอบตัวอาคาร และหันเข้าพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ โดยแต่ละอาคารจะมี 22 ยูนิต/ชั้น มีโถงลิฟต์อยู่ที่ช่วงฝั่งใกล้ทางเข้าออกโครงการ (ทิศเหนือ) ทำให้มีบางห้องที่ต้องเดินไกลหน่อย แต่จะได้ความเป็นส่วนตัวแลกมาแทน (ไม่ต้องมีใครเดินผ่านหน้าห้องเยอะนัก) ส่วนโถงทางเดินจะเป็นแบบ Double Corridor เปิดช่องแสงให้หลายช่วง ทำให้โถงทางเดินค่อนข้างสว่างในเวลากลางวัน
โดยการวางห้องพักจะเน้นห้องแบบ 2 Bedroom อยู่ในส่วนด้านในที่เห็นวิวภายในโครงการ ส่วนห้องที่หันออกด้านนอกจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ทางฝั่งทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ส่วนทิศเหนือจะเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 40 ตร.ม. ส่วนทิศใต้จะเป็นห้องขนาดเล็กเริ่มต้นที่ 29 จนถึง 33 ตร.ม. ครับ
สำหรับโถงลิฟต์ในแต่ละชั้นจะมีช่องแสงให้ค่อนข้างเยอะเหมือนกันครับ ทำให้ในช่วงเวลากลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟเลย
ส่วนชั้นสุดท้ายของเรา ชั้น 8 จะมีลักษณะห้องที่แตกต่างไปเล็กน้อยทางทิศใต้ ที่มีห้อง 1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม. มาให้ที่มุมห้อง ซึ่งข้อดีคือจะเป็นห้องที่ออกแบบเพื่อเปิดรับแสงและระบายอากาศได้ 2 ฝั่ง แต่ลิฟต์จะสุดแค่ชั้นนี้ หากจะขึ้นชั้นดาดฟ้าไปต่อนั้น ต้องเดินขึ้นบันไดไปครับ
โถงทางเดินของโครงการจะเป็น Double Corridor ซึ่งจะมีช่องแสงให้ค่อนข้างเยอะ เป็นจุด ทำให้กลางวันก็สว่าง ช่วยประหยัดไฟได้ดี
ที่แต่ละมุมของแนวทางเดินจะมีช่องแสงที่เปิดเป็นกระจกรับลมระบายอากาศได้ไว้ให้ด้วย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1 Oasis Pool สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 23×6 เมตร
- Cabana ที่นั่งริมสระว่ายน้ำ
- ห้องน้ำแยกชาย-หญิง
- Sauna
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- Security Officer
- Treehaus Lounge
- Co-Working Space
- Jogging Track
- BBQ Corner
- Family Pavilion
- Functional Training Field
- Kid’s Creation
- View Point to “Secret Garden”
แบบห้อง
สำหรับที่นี่ถึงแม้จะสร้างจนเสร็จแล้ว ก็ยังขายในรูปแบบเดิมที่เป็น Fully Furnished และให้วัสดุเหมือนเดิมเลย เริ่มต้นที่ Digital Door Lock ของ Hafele พื้นภายในห้องทั้งหมดยกเว้นห้องน้ำและระเบียงจะเป็นพื้นลามิเนตลายไม้ ในครัวและห้องน้ำจะเปลี่ยนเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ให้ด้วย ในส่วนของผนังภายในห้องจะฉาบเรียบติด Wallpaper สีเทาอ่อนมาให้ มีระยะความสูงภายในห้องจากพื้นถึงฝ้าที่ 2.6 m. และติดไฟแบบดาวน์ไลท์ ส่วนเฟอร์นิเจอร์จะให้เกือบทั้งหมดยกเว้นของตกแต่ง ผ้าม่าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าครับ ส่วน Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ ผนังครัวเป็นกระจกสีชา Hod & Hood แบบต่อท่อออกภายนอกของ MEX บานกระจกต่างๆจะเป็น Tempered Glass โดยมีวงกบเป็น Aluminium สีเทา
ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 31 ตร.ม. จัดพื้นที่การใช้งานภายในห้องหลักๆ เป็น 5 ส่วน ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำและระเบียงซักล้าง ขนาดห้องเหมาะกับการใช้งานอยู่อาศัย 1-2 คนได้ พื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วนลงตัว เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาขนาดกลาง 2-3 ที่นั่งได้ ถัดไปเป็นส่วนครัวปิดและส่วนรับประทานอาหารมีฉากบานเลื่อนกั้นแบ่งการใช้งานช่วยป้องกันกลิ่นและควันจากการทำอาหารได้ดี จากส่วนครัวจะมีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกได้ ระเบียงจัดพื้นที่มาให้สามารถใช้งานได้จริง มีพื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้า จะซักล้างหรือตากผ้าก็ได้ และวาง Condensing unit ได้เป็นสัดส่วน
อีกฝั่งของตัวห้องจัดเป็นพื้นที่ห้องนอน และห้องน้ำ โดยจะมีประตูกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานและเพื่อความเป็นส่วนตัว ภายในห้องนอนจัดพื้นที่มาให้สามารถตั้งเตียงขนาด 5-6 ฟุต ได้ เหลือพื้นที่โดยรอบใช้งานสะดวก ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่างของตัวห้อง ทำให้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี ด้านในสุดของตัวห้องทางฝั่งขวาจัดเป็นพื้นที่ห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโซนเปียกและโซนแห้ง มีอุปกรณ์ภายในห้องน้ำหลักๆครบตามที่ต้องใช้งาน แต่การจัดผังห้องให้ห้องน้ำที่อยู่ส่วนด้านในของอาคารแบบนี้ จะไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ต้องพึ่งพาระบบดูดอากาศของอาคารเท่านั้นต้องระมัดระวังเรื่องความชื้นหน่อย
ประตู HDF ลายไม้มาพร้อม Digital Door Lock จาก Hafele
เริ่มจากเมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะพบกับส่วนห้องนั่งเล่นก่อน มองตรงไปด้านในสุดของตัวห้องจะเป็นส่วนพื้นที่ครัวปิดและพื้นที่ระเบียง ตรงนี้จะเป็นช่องแสงหลักของห้องครับ ทางขวามือจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำของตัวห้อง มีระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 m.
ห้องนั่งเล่นทางโครงการจะมีชุดโซฟา โต๊ะกลางและชั้นวางทีวีให้พร้อมใช้งาน พื้นที่สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งได้ หากวางโซฟาชิดผนังจะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.5 เมตร เหมาะกับการใช้ทีวีขนาด 52-55 นิ้ว และหากใช้ทีวีแบบแขวนจะทำให้ได้พื้นที่วางของบนชั้นวางทีวีมากยิ่งขึ้นครับ
สำหรับชั้นวางทีวีและตู้ที่โครงการมีให้วัสดุปิดผิวและบานเปิดต่างๆจะเป็นไม้ลามิเนต Hi-Gloss โดยจะได้ตู้รองเท้าด้านหน้าใกล้กับประตูเข้าหน้าห้อง หน้าตู้เป็นกระจกชาดำชั้นวางทีวีและตู้รองเท้ายกสูงจากพื้น ทำให้มีระยะอาจจะเก็บฝุ่นด้านใต้ได้ และต้องทำความสะอาดบ่อยหน่อยนะครับ
ชั้นวางของจะมีลิ้นชักให้เลือกเก็บของได้ ส่วนชั้นวางรองเท้ามีหน้าบานสองบานบน-ล่าง สามารถเลือกเปิดได้ตามความเหมาะสมเลยครับ
ฝ้าเพดานจะฉาบเรียบทาสีให้ไฟ Downlight มา 4 ดวงครับ พร้อมเครื่องปรับอากาศ DAIKIN ขนาด 12,000 BTU ให้มาด้วยนะครับ
ส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่กระจายไปยังส่วนต่างๆของห้องต่อครับ โดยด้านในสุดจะเป็นพื้นที่ส่วนครัว ซึ่งจะมีกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่กั้นแบ่งโซนการใช้งานไว้เป็นสัดส่วน เมื่อเปิดแล้วมีระยะ 1.50 เมตร ด้านข้างเป็นห้องนอนซึ่งจะมีห้องน้ำภายใน ลองเข้าไปดูห้องครัวกันก่อนนะครับ
จัดเป็นครัวปิดที่สามารถประกอบอาหารจริงจังได้อย่างเต็มที่เลย สามารถปิดเพื่อป้องกันกลิ่นและควันจากการปรุงอาหารมารบกวนพื้นที่บริเวณอื่นภายในห้องได้ แถมยังมีตำแหน่งใกล้ระเบียง เปิดระบายอากาศและควันภายในครัวได้ง่าย จัดปาร์ตี้หมูกะทะกันยังได้เลยครับ
พื้นที่ให้มาก็ค่อนข้างกว้าง จริงๆก็สามารถนั่งรับประทานอาหารได้ 3 คนเลย และที่ผมชอบคือโครงการเปลี่ยนพื้นให้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวมันแผ่นใหญ่ ทำให้ง่ายแก่การทำความสะอาด ไม่ค่อยมีร่องสำหรับเก็บสะสมสิ่งสกปรกด้วย
ทางโครงการจะมีชุดโต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวให้พร้อมใช้งาน Top ผิวด้านบนโต๊ะเป็นหินอ่อน Black Maquina สวยงามทีเดียว เก้าอี้บุด้วยผ้าซึ่งอาจจะต้องระวังเลอะหน่อยนะครับ
ชุดครัวด้านบน ทำเป็นชั้นวางของต่าง ๆมีหน้าบานปิด เมื่อเปิดออกมาสามารถวางของได้เยอะพอสมควร และมีชั้นไม้ที่ไม่มีหน้าบานปิดให้เลือกใช้งานได้ สำหรับวางพวกที่ต้องใช้งานบ่อยเพื่อความสะดวกครับ เช่น แก้วน้ำ และเครื่องปรุงอาหารต่าง ๆ
บานพับตู้ทั้งหมดจะติด Soft close เพื่อเวลาเปิด-ปิดใช้งานไม่เกิดเสียงดังลดการกระแทก สามารถกดเปิดหน้าบานได้สะดวกไม่ต้องมีที่จับ ดูเรียบเสมอกัน สวยงามและง่ายต่อการใช้งานครับ
ชุดเคาน์เตอร์ครัว Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ ซึ่งมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนความร้อนและสารเคมีได้ดี ผนังครัวเป็นกระจกสีชา ซึ่งจะง่ายแก่การทำความสะอาด มีพื้นที่การใช้งานสำหรับจัดเตรียมอาหารค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก
ส่วนชุดครัวจะประกอบด้วยอ่างล้างจานสเตนเลสแบบหลุมเดี่ยวจาก Mex พร้อมชุดเตาและที่ดูดควันของ Mex เช่นกัน โดยที่ดูดอากาศจะเป็นระบบระบายอากาศออกสู่ภายนอกอาคาร
ฝ้าภายในส่วนครัวจะเป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี มีไฟ Downlightให้ 2 ดวง ครับ
จากห้องครัวจะเชื่อมต่อไปยังส่วนระเบียงได้ ข้อดีของการจัดห้องลักษณะนี้ คือจะสามารถเปิดประตูเพื่อถ่ายเทและระบายอากาศได้ดี และได้แสงธรรมชาติทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น ด้วยประตูบานเลื่อน Full Height มีความสูงประมาณ 2.5 เมตร ไม่รวมวงกบ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเลยครับ
ทางออกไประเบียงครับ ระเบียงมีลดระดับพื้นประมาณ 5 เซนติเมตร ประตูบานประตูเป็น บานกระจก Tempered Glass โดยมีวงกบเป็น Aluminium สีเทา แบบตัวมือจับเซาะร่องพร้อมตัวล็อคครับ พื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.8 x 2.5 เมตร ราวระเบียงเป็นกระจก Tempered Glass สูง 1.10 เมตร
ทางด้านข้างของพื้นที่ระเบียงออกแบบ Facade ใช้การก่ออิฐแดงก่อเว้นช่องเพื่อเพิ่มความสวยงานให้รูปด้านอาคาร และช่วยให้สามารถรับช่องแสงและระบายอากาศได้ดีไม่มืดทึบ บังสายตาจากบริเวณที่ตั้ง Condensing Unit ช่วยทำให้รูปตัวอาคารดูเรียบร้อยและยังสามารถระบายความร้อนได้ดีเหมือนเดิมครับ
กลับเข้ามาดูห้องนอนกันต่อ เขาใช้เป็นประตูบานทึบ ทำให้สามารถแบ่งความเป็นส่วนตัวได้ดี เวลามีแขกมาที่ห้องนั่งเล่น ก็ไม่รบกวนพื้นที่ห้องนอนครับ
ภายในห้องนอนพื้นที่ที่จัดให้มาถือว่าใช้งาน 1-2 คน ได้แบบสบายๆ ไม่อึดอัดครับ สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 6 ฟุต ได้ซึ่งทางโครงการมีเตียงให้ไม่รวมฟูกและหมอน มีพื้นที่ด้านข้างเหลือให้ตั้งตู้เสื้อผ้าวางโต๊ะเครื่องแป้งได้สามารถเดินได้สะดวก ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี ภายในห้องปูพื้นไม้ลามิเนต เหมือนกับห้องนั่งเล่น ส่วนผนังติด Wallpaper สีเทาอ่อนมาให้ครับ
พื้นที่ปลายเตียงสามารถเดินผ่านได้ครับ มีระยะจากปลายเตียงถึงผนังกว้างประมาณ 0.4 m. ผนังมีปลั้กไฟไว้ให้สำหรับติดทีวีแขวนผนังครับผม
ภายในห้องนอนจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งขนาดใหญ่มาให้ 1 ตำแหน่ง ขนาดประมาณ 1.5 x 1.5 เมตร ถือว่าเป็นหน้าต่าง ขนาดใหญ่เลย สามารถเปิดรับลมและระบายอากาศได้ดี
ห้องนี้มีลักษณะพิเศษคือจะมีพื้นที่ข้างหน้าต่างสามารถทำเป็นพื้นที่อ่านหนังสือและทำงานได้ แต่ไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ สามารถใช้เป็นไอเดียในการจัดห้องได้เลย สำหรับพื้นที่ข้างเตียงติดหน้าต่างมีขนาดประมาณ 1.5 x 1.5 เมตร สามารถเลือกจัดการใช้งานได้แล้วแต่ความต้องการการใช้งานของเราได้ครับ บางคนชอบออกกำลังกายอาจจะเป็นมุมเล่นโยคะ หรือยกเวทเบาๆก็ได้ครับ
ห้องน้ำห้องเดียวของห้องนี้จะอยู่ภายในห้องนอน ซึ่งก็เป็นส่วนตัวในการใช้งานสำหรับเจ้าของห้อง แต่ในกรณีที่มีแขกแล้วต้องใช้ห้องน้ำจะต้องมาเข้าผ่านทางห้องนอนอาจจะทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งห้องน้ำมีระยะจากข้างเตียงถึงหน้าห้องน้ำกว้างประมาณ 0.6 m. ใช้งานสะดวกสามารถยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้สะดวก
ออกแบบตู้มาเป็นประตูบานเลื่อน ทำให้ไม่ต้องใช้พื้นที่หน้าตู้เยอะนัก โดยตู้เสื้อผ้าที่ให้มาจะเป็นบานกระจกสไลด์ข้างสีชาดำ แต่ไม่ได้มีไฟติดตั้งด้านในนะครับภายในมีช่องใส่เสื้อผ้าหลายรูปแบบ
ฝ้าเพดานภายในห้องนอนเป็นแบบฉาบเรียบทาสีมีไฟ Downlight ให้ 2 ดวง ที่บริเวณพื้นที่ริมหน้าต่างและกลางห้อง ส่วนเครื่องปรับอากาศในห้องนี้จะได้ DAIKIN ขนาด 9,000 BTU. ครับ
ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ให้เรียบร้อย วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด สีใช้เป็นโทนสว่างช่วยให้ดูสะอาดขึ้น ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาบริเวณส่วนที่ตรงกับอ่างล้างหน้า และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบที่ต้องใช้งาน
ส่วนทางเข้าห้องน้ำมีธรณีประตูเป็นหินสังเคราะห์ลดระดับจากพื้นห้องด้านนอกลงมาเล็กน้อย พื้นที่จัดมาสามารถใช้งานได้สะดวกไม่อึดอัด ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่ภายในเป็นสัดส่วน ส่วนเปียกมีฉากอาบน้ำและยกขอบพื้นขึ้นมาเพื่อแบ่งโซนเปียกแห้งให้ชัดเจน
อ่างล้างหน้า เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์มีพื้นที่โดยรอบให้วางของได้ ด้านล่างสามารถเก็บของได้เช่นกัน อ่างล้างหน้ายี่ห้อ Kasch มีเคาน์เตอร์ด้านล่างไว้ให้ด้วย ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นแบบชิ้นเดียวจาก Kasch เช่นกันครับ ข้อดีคือมีรอยต่อน้อย ทำให้สวยงามและดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่าย ไม่มีร่องสำหรับสะสมเชื้อโรคเยอะ
ส่วนอาบน้ำจะมีบานกระจกเป็นฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส ภายในจะเป็น Hand Shower สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำได้ บริเวณตัว Hand Shower มีแท่นให้วางสบู่เล็ก ๆ ติดไว้ด้วยครับ ผนังด้านหลังเจาะช่องที่ผนังด้านซ้ายสามารถใช้วางของและอุปกรณ์อาบน้ำ ถือว่าสะดวกทีเดียว
พื้นที่อาบน้ำ ขนาดประมาณ 0.9 x 1.3 m. ถือว่ากว้าง ยืนอาบน้ำร้องเพลงได้สะดวกเลย โดยที่พื้นจะมีขอบยกระดับขึ้นมาเล็กน้อยประมาณ 3 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ และช่องระบายน้ำอยู่ที่มุมของตัวห้องครับ
ส่วนเพดานห้องน้ำจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ติดไฟแบบดาวน์ไลท์ พร้อมติดพัดลมดูดอากาศให้ครับ
มาต่อกันที่ห้องต่อมาครับ เป็นห้อง 2 Bedroom ที่มี 2 Bathroom ในตัว ห้องนี้พื้นที่ใช้สอยประมาณ 55 ตร.ม. จัดมาให้แบบ Fully Furnished เช่นเดียวกัน ขนาดห้องเหมาะกับการใช้งานอยู่ประมาณ 2-3 คน ภายในห้องมีการแบ่งสัดส่วนค่อนข้างชัดเจน Circulation ภายในค่อนข้างสะดวกและมีความเป็นส่วนตัว
โดยห้องนี้เริ่มจากประตูทางเข้าห้องจะอยู่ที่บริเวณตรงกลางของห้อง เปิดเข้ามาจะพบส่วนพื้นที่รับประทานอาหารและครัวก่อน โดยส่วนครัวของห้องนี้จะเป็นครัวเปิด ไม่มีฉากกั้นมาให้ ทำให้ควันและกลิ่นอาจจะรบกวนพื้นที่ส่วนอื่นของห้องได้ แต่มีพื้นที่ที่เราสามารถติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเองได้ สำหรับ จากนั้นค่อยเป็นส่วนของห้องน้ำ ที่มีจุดเด่นตรงที่มีประตูทางเข้าสองทางโดยจะใช้ร่วมกันระหว่างเข้าจากห้องนั่งเล่นกับห้องนอนที่ 2 ถัดเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่น ตั้งติดกับระเบียง มีประตูกระจก Full Height 2.6 ม. ทำให้แสงภายนอกสามารถเข้าตัวห้องพักได้เต็มที่ จากนั้นจึงแยกเข้าห้องนอนทั้งสองห้องด้านซ้ายและด้านขวา เป็นสัดส่วนทำให้ห้องนอนทั้งสองห้องมีความเป็นส่วนตัว โดยมีส่วนห้องนั่งเล่นอยู่ตรงกลาง ภายในห้องนอนจัดพื้นที่มาให้สามารถตั้งเตียงขนาด 5-6 ฟุต ได้ เหลือพื้นที่โดยรอบใช้งานสะดวก ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่างของตัวห้อง ทำให้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี โดยที่ห้อง Master Bedroom มีส่วนของพื้นที่ริมหน้าต่าง และ Walk-in Closed และห้องน้ำภายในห้องเพิ่มขึ้นมาครับ
เข้ามาภายในห้อง จะมีวัสดุโดยรวมเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลยครับ พื้นที่บริเวณนี้จะออกแบบให้เป็นพื้นที่เปิดเชื่อมต่อการใช้งานยาวไปจนถึงส่วนของระเบียงเลยครับ ทำให้สามารถได้รับแสงจากธรรมชาติและเปิดระบายอากาศรับลมเข้าสู่ตัวห้องได้ดี โดยเฉพาะช่วงเวลากลางวันห้องไม่มืดทึบโปร่งโล่งน่าใช้งานมากขึ้น
พื้นที่ด้านหน้านี้จะเป็นส่วนต้อนรับที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางของห้อง มีแขกมาก็ไม่รบกวนพื้นที่ภายในห้องครับ
ให้ตู้รองเท้าด้านข้างมาด้วย ตรงนี้ดีมากๆเลยนะ เพราะบางที่ไม่มีพื้นที่วางตู้รองเท้ามาให้ ก็จะทำให้พื้นที่หน้าห้องค่อนข้างเลอะ หรือต้องเอารองเท้าเข้าไปเก็บภายในห้องก็จะสกปรกภายในห้องได้ง่าย
ด้านข้างจะมีเพิ่มมาอีก 1 ตู้ คือตู้เก็บเครื่องซักผ้า ด้านบนทำเป็นชั้นวางของต่างๆได้ มีบานเปิดสองฝั่ง เมื่อปิดตู้จะเสมอไปกับผนังห้องดูเรียบร้อยและเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น
ส่วนรับประทานอาหาร ทางโครงการจะให้โต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้ให้พร้อมใช้งาน เป็นโต๊ะ Top หินอ่อนสีดำ Black Maquina เช่นเดิม แต่จะเป็นขนาดสำหรับรับประทานอาหาร 4 ที่นั่งครับ เหลือพื้นที่ทางเดินด้านข้างโดยรอบใช้งานได้สะดวกไม่อึดอัด อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้เติมเก้าอี้ที่หัวโต๊ะเพื่อนั่งอีกคนเป็น 5 ก็ยังได้
ฝ้าเพานดานจะฉาบเรียบให้ไฟ Downlight 2 ดวงครับ
ส่วนครัว มีการเปลี่ยนชนิดพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ให้เช่นเดิม ง่ายแก่การทำความสะอาด โดยรูปแบบครัวทั้งหมดจะมีลักษณะคล้ายกับห้อง 1 Bedroom ก่อนหน้านี้ เพียงแต่รูปทรงของอุปกรณ์แตกต่างกัน เคาน์เตอร์ของห้องนี้เป็นแบบตัว L ทำให้การใช้งานในบางส่วนก็แตกต่างกันบ้างครับ
พื้นที่ส่วนครัวสำหรับยืนทำครัววัดจากเคาน์เตอร์ถึงผนังจะมีพื้นที่ประมาณ 1 m. ครับ เหมาะสำหรับการใช้งานทีละคน พื้นที่ตรงนี้จะได้มาเป็นครัวเปิด ไม่ได้มีฉากกั้นแบ่งสัดส่วนมาให้ แต่เราสามารถติดตั้งเองได้ไม่ยากครับ
ส่วนตู้และชั้นต่าง ๆ มีรูปแบบคล้ายกับห้อง 1 Bedroom ครับ แต่เนื่องจากรูปทรงของครัวในห้องนี้ เป็นตัว L ภายในแบ่งช่องสำหรับเก็บของไว้ 2 ระดับ ให้เลือกเก็บของใช้ตามขนาดต่างๆได้ เป็น Soft Close ทั้งหมดเช่นเดิม
เคาน์เตอร์ครัว Top เป็นหินสังเคราะห์เหมือนห้อง 1 Bedroom ส่วนผนังเป็นกระจกสีชา แต่ห้องนี้มีรูปแบบเป็นตัว L มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารเยอะพอสมควร อ่างล้างจานเป็นแบบเดิมยี่ห้อ MEX ส่วนเตาไฟฟ้าเพิ่มเป็น 4 หัวใช้งานได้เยอะขึ้น ส่วนที่ดูดอากาศของ MEX ก็ยังเป็นระบบดูดควันออกภายนอกอาคารเช่นเดียวกันครับ
แต่ตามแนวเคาน์เตอร์จะมีเสาคั่นตรงกลาง ซึ่งเราสามารถ Decorate เพิ่มบริเวณเสาให้กระจกมีความต่อเนื่องกันก็ได้นะครับ
พื้นที่ด้านล่างใต้อ่างก็เป็นช่องเก็บของแบบเดิมครับ ภายในแบ่งช่องสำหรับเก็บของไว้ 1-2 ระดับ ให้เลือกเก็บของใช้ตามขนาดต่างๆได้ แต่เนื่องจากเป็นครัวตัว L เวลาเปิดใช้งานตู้ควรเปิดใช้งานที่ละฝั่งนะครับ เพราะหน้าบานตู้จะไปชนกับลิ้นชักอีกฝั่งของตู้
รายละเอียดลิ้นชักต่าง ๆ ก็เป็นแบบเดียวกันกับห้อง 1 Bedroom ครับ แต่ของห้องนี้ลิ้นชักแรก ซึ่งเป็นเขียงสำหรับหั่นของต่างๆ ซึ่งจะอยู่ติดผนัง อาจจะต้องระมัดระวังในการใช้งานสักหน่อยครับ เพื่อป้องกันไม่ได้เปื้อนกำแพง
ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบ มีไฟ Downlight ให้ 1 ดวงครับ
ออกจากห้องครัวมาต่อกันที่พื้นที่ห้องนั่งเล่นติดกับระเบียงกัน ซึ่งบริเวณนี้เป็นจุดแบ่งไปยังส่วนต่างๆของห้อง และเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของห้องเลยก็ว่าได้ เนื่องจากวิวระเบียงของห้อง 2 Bedroom จะได้รับวิวส่วนกลางตรงส่วน Oasis Pool ของโครงการ ทำให้สามารถได้รับแสงจากธรรมชาติและเปิดระบายอากาศรับลมเข้าสู่ตัวห้องได้ดี โดยเฉพาะช่วงเวลากลางวันห้องไม่มืดทึบโปร่งโล่งน่าใช้งานมากขึ้น ช่วยประหยัดไฟได้ดี
ห้องนั่งเล่นส่วนนี้ค่อนข้างกว้างทางโครงการจะมีชั้นวางทีวี โต๊ะและโซฟาให้พร้อมใช้งาน พื้นที่บริเวณนี้สามารถวางโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งได้ มีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.5 m. ในระยะประมาณนี้เหมาะกับทีวีขนาด 52″-55″
ห้องนั่งเล่นติดกับระเบียงที่สามารถออกไปดูวิวภายในโครงการได้ ประตูบานเลื่อนกระจกเป็นกระจก Tempered Glass Full Height เช่นเดิม โดยมีวงกบเป็น Aluminium สีเทา
ระเบียงด้านนอกมีการลดระดับพื้นลงไปประมาณ 5 cm. กระจกระเบียงกระจก Tempered Glass สูงประมาณ 1.1 m. ด้วยความเป็นกระจกทำให้ดูโล่งและสามารถรับวิวด้านล่างได้มากยิ่งขึ้น ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.8 x 2.2 m. สามารถใช้งานได้จริงเป็นส่วนซักล้าง ตากผ้าได้ และวาง Condensing Unit ได้เป็นสัดส่วน
ตรงนี้เขาจะให้มาเป็นกระจก 2 ชั้น เลือกเปิดได้ 2 บาน ถ้าปิดกระจกด้านบนที่อยู่ริมระเบียง ก็จะช่วยให้ห้องนั่งเล่นกว้างขึ้น เลือกใช้งานได้หลากหลาย
เป็นวิวของห้อง 2 Bedroom ที่หันเข้าภายในโครงการครับ รับวิวส่วนกลางเต็มๆ จัดว่าสวยไม่น้อย
ไปดูส่วนห้องนอนรองกันก่อนนะครับ จะมีห้องน้ำด้านข้างซึ่งทำหน้าที่เป็นห้องน้ำกลางของห้องด้วย
เป็นห้องน้ำลักษณะเหมือนเดิมเลยครับ ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาบริเวณส่วนที่ตรงกับอ่างล้างหน้า และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบที่ต้องใช้งาน
จะแตกต่างก็ตรงที่มีทางเข้าห้องน้ำจะสามารถเข้าได้สองทาง คือ จากส่วนกลางบริเวณห้องรับประทานอาหาร และส่วนอีกทางมาจากห้องนอนที่ 2 ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องเข้าไปรบกวนพื้นที่ภายในห้องนอน
ส่วนทางเข้าห้องน้ำมีธรณีประตูเป็นหินสังเคราะห์ลดระดับจากพื้นห้องด้านนอกลงมาประมาณ 8 cm.
อ่างล้างหน้าเคาน์เตอร์ Top เป็นหินสังเคราะห์ และโถสุขภัณฑ์ชิ้นเดียว จาก Kasch เช่นเดิม
ส่วนอาบน้ำให้ฉากกั้นอาบน้ำมาพร้อม Hand Shower ภายใน แต่ที่ผนังไม่ได้เจาะช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้แล้ว อาจจะต้องเจาะแขวนที่วาง หรือวางที่พื้นแทน
ซึ่งก็มีขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.9 x 1.3 m. สามารถวางชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำได้อยู่นะ
ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Downlight 2 ดวง
มาต่อกันที่ห้องนอนรองครับ สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ เมื่อตั้งตู้เสื้อผ้าทางด้านข้างเตียงแล้ว ยังมีระยะรอบเตียงที่สามารถเดินได้รอบแบบสบาย ๆ ส่วนหน้าต่างเป็นกระจกบานใหญ่เต็มผนังสามารถรับแสงและระบายอากาศได้ดี มองเห็นวิวได้เต็มที่
พื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้าก็มีพื้นที่ให้ใช้งานได้สบายๆ
หน้าต่างภายในห้องนอนเป็นกระจก Full Height สามารถมองวิวสวนส่วนกลางได้เต็มที่ และมี บานกระทุ้งขนาด ประมาณ 0.8 x 1.5 m. สามารถรับแสงและเปิดระบายอากาศภายในห้องได้ดีเลยครับ
ด้านในห้องจะมีตู้เสื้อผ้ามาให้ มีพื้นที่ใช้งานเยอะ ติดกระจกด้านข้างได้ และไม่ขวางทางเดินเข้าออกห้องน้ำครับ
ไปดูห้องนอนหลักของห้องนี้กันครับ จะมีพื้นที่ภายในกว้างกว่าห้องนอนรองเล็กน้อย ข้อดีคือมีห้องน้ำภายในตัว ไม่มีใครมารบกวนเลย
ห้องนอนใหญ่มีพื้นที่ใช้งานแบบสบายๆไม่อึดอัด สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 6 ฟุต ได้ซึ่งทางโครงการมีเตียงให้ไม่รวมฟูกและหมอน มีพื้นที่ด้านข้างเหลือให้ตั้งตู้เสื้อผ้าวางโต๊ะเครื่องแป้งได้สามารถเดินได้สะดวก ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี ภายในห้องปูพื้นไม้ลามิเนต เหมือนกับห้องนั่งเล่น ส่วนผนังติด Wallpaper สีเทาอ่อนมาให้เช่นเดิม
ปลายเตียงมีพื้นที่ให้แขวนทีวีได้ และยังเหลือพื้นที่ให้เดินได้สะดวก
ที่ริมกระจกจะได้เป็นแบบ Full Height เช่นเดิม รับแสง และสามารถระบายอากาศได้ จากกระจกบานกระทุ้ง เช่นเดียวกับห้องนอนรอง
ลักษณะพิเศษของห้องนี้คือจะมีพื้นที่ข้างหน้าต่าง เหมือนห้อง 1 Bedroom ก่อนหน้านี้ ที่สามารถทำเป็นพื้นที่อ่านหนังสือและทำงานได้ ดูไว้เป็นไอเดียในการจัดห้องได้เลยครับ สำหรับพื้นที่ข้างเตียงติดหน้าต่างมีขนาดประมาณ 1.5 x 1 เมตร มีขนาดเล็กกว่าของห้อง 1 Bedroom นิดหน่อย สามารถเลือกจัดการใช้งานได้แล้วแต่ความต้องการการใช้งานของเราได้ครับ
ด้านในของห้องนี้จะจัดไว้ค่อนข้างเป็นสัดส่วน เป็นพื้นที่ Walk-in Closed จะอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ โดยแบ่งพื้นที่ให้ด้านในมีตู้เสื้อผ้า และชุดโต๊ะเครื่องแป้ง
ตรงนี้เราสามารถทำเป็นประตูบานสไลด์ปิดกั้นแบ่งพื้นที่ก็ได้นะครับ สำหรับใครที่อยู่ในห้องนอนหลักกัน 2 คนจะได้ไม่รบกวนกัน เช่นเวลาคุณผู้หญิงเป่าผม ก็ไม่รบกวนคุณผู้ชายที่นอนอยู่ เป็นต้น
ด้านในมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างเลย มีระยะประมาณ 1 เมตร โดยตู้เสื้อผ้าใช้เป็นหน้าบานสไลด์จะช่วยประหยัดพื้นที่เวลาเปิด-ปิดตู้ แต่ไม่ได้มีไฟติดตั้งด้านในนะครับภายในมีช่องใส่เสื้อผ้าหลายรูปแบบ สุดทางเดินเข้าไปใน Walk-in Closed คือ โต๊ะเครื่องแป้ง กระจกบานใหญ่ไว้เช็คความเรียบร้อย โต๊ะเครื่องแป้งยกไม่ติดพื้น ทำความสะอาดง่าย และด้านบนมีชั้นตู้วางของให้ด้วยครับ ด้านข้างเป็นห้องน้ำของห้องนี้ครับ
ฝ้าเพดานจะฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 1 ดวง
ภายในห้องน้ำจะมีหน้าตาคล้ายๆกับห้องที่ผ่านมาครับ แต่จะมีจุดที่แตกต่างเล็กน้อย โดยจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ให้ชัดเจนเช่นเดิม วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาบริเวณส่วนที่ตรงกับอ่างล้างหน้า และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบที่ต้องใช้งาน
อ่างและโถสุขภัณฑ์ ใช้ของ Kasch เหมือนห้องอื่น ๆ ครับ ด้านหลังมีก่อผนังขึ้นมา 10 cm. สำหรับวางของ ชั้นวางอ่างล้างหน้าก็เป็นแบบเดิมครับ
ส่วนอาบน้ำจะให้ฉากกั้นอาบน้ำมาเช่นเดิม แต่อุปกรณ์อาบน้ำนอกจากมี Hand Shower ที่เหมือนกับของห้อง Second แล้วนั้น จะมี Rain Shower เพิ่มเข้ามาครับ เป็นการเพิ่มตัวเลือกในการอาบน้ำครับ ส่วนผนังด้านในก็มีการเจาะช่องสำหรับวาง เครื่องอาบน้ำต่าง ๆ ครับผม
ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีให้ไฟ Downlight 2 ดวงครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคา
18 June 2020
- 1 Bedroom ห้อง A3 ขนาด 32.11 ตร.ม. ราคา 3.99 ล้านบาท (อยู่ฟรี 1 ปี/ฟรีค่าใช้จ่าย ณ วันโอน/ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปี/ฟรีผ้าม่าน)
- 1 Bedroom Plus ห้อง B2 ขนาด 40.36 ตร.ม. ราคา 4.79 ล้านบาท (ฟรีค่าใช้จ่ายวัน ณ วันโอน/ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปี/ฟรีผ้าม่าน)
- 2 Bedroom ห้อง C2 ขนาด 55.52 ตร.ม. ราคา 8.09 ล้านบาท (อยู่ฟรี 1 ปี/ฟรีค่าใช้จ่าย ณ วันโอน/ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปี/ฟรีผ้าม่าน)
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา – บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
บทสรุป
ทำเล : โครงการ QUINTARA TREEHAUS สุขุมวิท 42 ตั้งอยู่ในซอย สุขุมวิท 42 ทำเลอยู่ในย่านสุขุมวิท–เอกมัย ฝั่งซอยเลขคู่ ซึ่งอาจจะไม่คึกคักเท่าทางฝั่งซอยเอกมัยซึ่งเป็นสุขุมวิทเลขคี่ แต่ก็จะได้เปรียบในเรื่องความเงียบสงบและไม่วุ่นวาย เหมาะกับการอยู่อาศัย เดินทางสะดวกเพราะเป็นซอยที่เชื่อมต่อมาจากฝั่งถนนพระราม 4 ออกสุขุมวิท เข้า–ออกเมืองได้ง่าย ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณนี้ค่อนข้างเพรียบพร้อมเลย รอบๆโครงการในระยะที่เดินไปได้ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึง 7 eleven และ Family Mart หรือจะเดินมา GateWay เอกมัยก็อยู่ในระยะที่สามารถเดินได้ไม่ยาก ส่วนอาคารหรือสถานที่สำคัญโดยรอบบริเวณนี้ก็มีครบครัน ทั้งโรงพยาบาล สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า แหล่ง Hangout ในฝั่งเอกมัยทองหล่อ อีกทั้งยังง่ายต่อการทะลุออกพระราม 4 ซึ่งเป็นอีกแหล่ง CBD สำคัญเช่นกัน
การเดินทางโดยใช้รถ : ซอยสุขุมวิท 42 เป็นถนนที่เดินรถทางเดียว จากฝั่งพระราม 4 ออกไปสุขุมวิท การมาโครงการจากถนนสุขุมวิทจึงจะต้องไปเข้าทางซอยสุขุมวิท 40 ซึ่งเป็นถนนเดินรถทางเดียวเช่นกัน ซอยสุขุมวิท 42 มีข้อดีที่สามารถลัดเลาะหรือเลือกเส้นทางเลี่ยงรถติดได้ครับโดยสามารถเลือกที่จะทะลุออกได้ทั้งถนนสุขุมวิทหรือถนนพระราม 4 ได้ นอกจากนี้ยังมีทางด่วน 2 สาย ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการคือ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางด่วนรามอินทรา–อาจณรงค์ ให้เลือกใช้ โครงการจัดที่จอดรถประมาณ 136 คันคิดเป็น 45 % รวมจอดซ้อนคัน 158 คัน คิดเป็น 52% ถือว่าให้มากลางๆใช้งานสะดวก
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ที่ตั้งโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย โดยอยู่ห่างประมาณ 600 m. ซอยสุขุมวิท 42 มีทางเดินเท้าใช้งานได้สะดวกปลอดภัย สำหรับทางขึ้นลง BTS สถานีเอกมัย จะอยู่ปากซอยสุขุมวิท 42 เลยครับ ตัวโครงการจะอยู่ถัดเข้ามาในซอยบาร์โบส 2 ที่เชื่อมต่อมาจากซอยสุขุมวิท 42 ซึ่งเป็นซอยที่มีเส้นทางลัดเยอะทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางได้ทั้งจากถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 4 ซึ่งเหมาะกับคนที่เน้นเดินทางทั้ง 2 ฝั่ง สามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย หรือจะเรียกพี่วินวินมอเตอร์ไซค์ก็มีอยู่ทั้งปากซอยบาร์โบส 2 และปากซอยสุขุมวิท 42 เดินออกมาหน้าปากซอยบาร์โบส 2 เยื้อง ๆ ก็มีป้ายรถประจำทางที่วิ่งในซอยสุขุมวิท 42 ส่วนรถสาธารณะอื่นไก็เรียกไม่ยาก TAXI มีขับผ่านอยู่ตลอด
วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished เริ่มต้นที่ Digital Door Lock ของ Hafele พื้นภายในห้องทั้งหมดยกเว้นห้องน้ำและระเบียงจะเป็นพื้นลามิเนตลายไม้ ในครัวและห้องน้ำจะเปลี่ยนเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ให้ด้วย ในส่วนของผนังภายในห้องจะฉาบเรียบติด Wallpaper สีเทาอ่อนมาให้ มีระยะความสูงภายในห้องจากพื้นถึงฝ้าที่ 2.6 m. และติดไฟแบบดาวน์ไลท์ ส่วนเฟอร์นิเจอร์จะให้เกือบทั้งหมดยกเว้นของตกแต่ง ผ้าม่าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าครับ ส่วน Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ ผนังครัวเป็นกระจกสีชา Hod & Hood แบบต่อท่อออกภายนอกของ MEX บานกระจกต่างๆจะเป็น Tempered Glass โดยมีวงกบเป็น Aluminium สีเทา
การออกแบบ : ด้วยความที่พื้นที่โครงการโดนบล็อควิวเกือบทุกฝั่งเลย จึงทำให้ทางโครงการเน้นการสร้างทัศนียภาพจากภายในโครงการ ซึ่งทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลย บรรยากาศร่มรื่นน่าใช้งาน มีความกลมกลืนและสอดคล้องกับตัวอาคารที่เน้นการใช้ อิฐแดงมาทำ Facade แต่ก็มีความโปร่งจากการใช้กระจกขนาดใหญ่ทำให้ไม่อึดอัด รูปด้านอาคารจึงสวยทันสมัยและมีความเป็นธรรมชาติจากวัสดุไปพร้อมกัน ส่วนการจัดวางผังโครงการก็ถือว่าทำได้ดีนะครับ โดยจะวางตัวอาคารออกเป็น 2 อาคาร เพื่อกระจายจำนวนผู้อยู่อาศัย ทำให้มีห้องพักอาศัยสูงสุดต่อชั้นต่ออาคารที่ 22 ยูนิต ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ตัวอาคารหันเข้าหากันเน้นรับวิวภายในโครงการ แถมยังมีช่องแสงและช่องลมระหว่างตัวอาคารให้ด้วย ภายในโถงลิฟต์และโถงทางเดินก็มีช่องแสงให้เยอะ
ส่วนห้องพักอาศัยก็มีให้เลือกหลักๆ 2 แบบ แต่มีหลากหลายขนาด พื้นที่ค่อนข้างใช้งานง่ายและจัดพื้นที่ต่างๆได้ไม่ยาก เพราะเขาให้ Furniture ที่ออกแบบลงตัวกับพื้นที่ห้องพักอาศัยมาให้เลย ตัวห้องเน้นการจัดพื้นที่ใช้สอยให้เป็นสัดส่วน แยกโซนการใช้งานได้ชัดเจน เช่น ครัวปิด (หรือบางห้องเป็นครัวเปิดก็สามารถกั้นปิดเองได้) ห้องนอนและห้องนั่งเล่นที่เป็นส่วนพักผ่อน ก็เลือกใช้หน้าต่างบานใหญ่แบบ Full Height จากพื้นถึงฝ้าเพื่อรับแสงและมองเห็นวิวได้เต็มที่ และในห้องนอนหลักจะมีพื้นที่ทางฝั่งหน้าต่างเว้นไว้ให้สำหรับทำเป็นพื้นที่ทำงานหรือพื้นที่พักผ่อนภายในห้องได้ พื้นที่ระเบียงแบ่งส่วนสำหรับเก็บ Condensing Unit ก่ออิฐบังสายตาไว้เรียบร้อย
สาธารณูปโภค : สภาพจริงทำเสร็จออกมาก็สวยน่าใช้งานทุกพื้นที่เลยนะครับ ภายในโครงการจะเน้นพื้นที่สีเขียวตามแนวคิดโครงการ ซึ่งเขาก็จัดแนวต้นไม้มาให้โดยรอบพื้นที่ส่วนกลางตรงกลางที่มีแนวอาคารเป็นตัว U โอบล้อมไว้ ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ 23 x 6 m. และพื้นที่ริมสระ นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 2 อีกส่วนด้วย คือพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารที่ออกแบบภายในมาน่าใช้งานเหมือนกัน ประกอบไปด้วย Treehaus Lounge, ห้องออกกำลังกาย, Co-working Space ออกแบบให้สามารถรับวิวสวนและสระว่ายน้ำจากชั้น 1 ได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ Ozone Space บริเวณดาดฟ้าของทั้งสองอาคาร ที่ทำจริงออกมาก็สวยและน่าใช้งานเหมือนกัน ด้านบนนี้จะเชื่อมกันได้และเป็นพื้นที่สีเขียวทั้งหมด มีพื้นที่ที่สามารถรับวิวโดยรอบและที่พื้นที่ส่วนกลางของโครงการด้านล่างได้ โดยด้านบนชั้นดาดฟ้ามีแบ่งกิจกรรมออกเป็นหลายประเภท เช่น BBQ Corner, Family Pavilion, Funcional Training Field, Kid’s Creation และโดยรอบสวนด้านบนมี Jogging Track เป็นลู่วิ่งระยะทาง 180 m.
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 140,000 บาท/ตร.ม., 20 June 2020
- ทำเล 7.25/10 – ทำเลในเมืองแต่อยู่ในซอยย่อยไม่พลุกพล่าน ไม่ไกลแหล่งอุดมสมบูรณ์
- เดินทางด้วยรถ 7.25/10 – ถนนวันเวย์ รถติดหน่อย ได้ที่จอดรถ 52% รวมจอดซ้อนคัน
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ใกล้รถไฟฟ้า 600 ม. มีวินมอเตอร์ไซค์ รถสาธารณะผ่านตลอด
- วัสดุ 8/10 – ให้ของดีเหมาะสมกับการใช้งาน Fully Furnished พร้อมอยู่
- แบบ 8/10 – ออกแบบได้ลงตัวแบ่งส่วน Function ชัดเจน เน้นรับวิวภายในโครงการ
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – ส่วนกลางครบหลากหลาย เน้นพื้นที่สีเขียว ได้วิวจากส่วนกลาง
- UPPER CLASS
- 7.52 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ QUINTARA TREEHAUS สุขุมวิท 42 เหมาะกับคนที่ต้องการที่อยู่ในเมืองย่านสุขุมวิท แต่เป็นทำเลอยู่อาศัยในซอยย่อยไม่พลุกพล่าน เดินทางสะดวกได้ทั้งรถยนต์และมีรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทาง เน้นอยู่อาศัย 1-2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 30 ตร.ม. ขึ้นไป ส่วนกลางครบได้พื้นที่สีเขียวเยอะ มีงบประมาณระดับ 4 – 8 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนประมาณ 28,000 – 56,000 บาท/เดือน
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving