รีวิวฉบับที่ 2037 … ทุกคนคะรีวิวฉบับนี้เราจะพาทุกคนไปดูคอนโดแถวแจ้งวัฒนะกันค่ะ คือ โครงการ สุชารี ไลฟ์ 2 คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วนะคะ ทำเลจะอยู่ไม่ไกลจาก IT Square และศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ลักษณะเป็นโครงการขนาดเล็ก 100 ยูนิต และเริ่ม Size ห้องขนาดโอเคเลย 28 ตร.ม. อยู่ 1-2 คนไม่เล็กไป ขายแบบ Fully Furnished ราคาเริ่มต้น 1.7 ล้านบาทเท่านั้นเองค่ะ บรรยากาศจริงเรามีถ่ายมาให้ดูครบในรีวิวนี้เลยค่ะ มาอ่านกัน…

ข้อมูลโครงการ

Fact @ 29 JANUARY 2020

  • Sucharee life 2 (สุชารี ไลฟ์ 2)
  • บริษัท สุชาต์ธนกิจ จำกัด (ในเครือ บริษัท โกสุมพัฒนา จำกัด)
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ซอยแจ้งวัฒนะ 10 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่
  • ที่ดินประมาณ 0-3-52 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น จำนวน 100 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 15 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 38 คัน คิดเป็น 38%
  • เริ่มก่อสร้าง : 2561
  • แล้วเสร็จ 2562
  • ห้องพักอาศัย

  • 1 Bedroom 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.7 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 32 – 44 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.36 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 56.1 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท

  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.7 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น)
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 61,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด ประมาณ 60,500 – 73,500 บาท/ตร.ม.
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 02-981-9100
  • สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ

    ทำเลที่ตั้ง

    พิกัด Google Maps : 13.887973, 100.577056
    หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

    ทำเลโครงการ สุชารี ไลฟ์ 2 ตั้งอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 10 เป็นซอยที่หลายคนในย่านนี้รู้จักกันดี เพราะช่วงต้นๆ ซอย เป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ สำนักงานเขต โดยจากที่เราเดินดูบรรยากาศแล้วเห็นว่าค่อนข้างคึกคัก อุดมสมบูรณ์ทีเดียวนะคะ มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ราคาสบายกระเป๋าหลายร้านเลย อาจเป็นเพราะมีข้าราชการทำงานอยู่แถวนี้ด้วยนั่นเอง ซึ่งโดยภาพรวมแล้วเรามองว่าเป็นทำเลที่เหมาะกับการอยู่คอนโดมิเนียมเหมือนกัน เพราะลงมาเดินในระยะไม่ไกลก็สามารถฝากท้องกันได้ ไม่ต้องทำอาหารเองในห้อง

    เรามาพูดถึงภาพกว้างของทำเลนี้กันต่อ ช่วงๆ ต้นแจ้งวัฒนะ ตัดกับวิภาวดีรังสิตนั้น ก็จะมีห้างเก่าแก่ของย่านนี้อย่าง IT Square ที่ภายในของขาย ของกินเยอะมากๆ วันที่ไปรีวิวเราก็ไปสำรวจดูเห็นร้านค้าหลากหลายเลยนะคะ ใครอยากมา Shopping ของราคาไม่แรง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า อาหาร Gadgets ต่างๆ เราว่ามีครบในนี้ รวมไปถึง Foodland ที่เปิด 24 ชม. ด้วยค่ะ โดยจากโครงการขับรถไปง่ายเลย ไม่ถึง 5-10 นาที ถึงแน่นอน

    ถ้าขยับไปอีกหน่อยเรื่องของกิน ความอุดมสมบูรณ์จะไปอยู่แถวใกล้จุดตัดเลียบคลองประปา มีทั้ง Tesco Lotus, The Avenue, Big C และเลยไปหน่อยก็คือเมืองทองธานีแล้ว ซึ่งถ้าขับรถไปก็ไม่ไกลนะคะ มีทางเข้าแถวเลียบคลองประปา เข้าไปในเมืองทองนอกจากของกินรอบๆ แล้วก็มี Community Mall อย่าง Beehive และ Cosmo Bazaar ด้วยค่ะ

    การเดินทางของโครงการนี้น่าสนใจ เพราะอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 10 ที่เป็นซอยลัดเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนหลักแจ้งวัฒนะ และถนนกำแพงเพชร (ถนนเลียบวิภาวดีรังสิต) ทำให้การเดินทางได้สะดวกทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ

    อีกประเด็นที่สำคัญคือเรื่องของ “ทางด่วน” โดยถ้ามองจากในแผนที่ จะเห็นว่าตัวตำแหน่งที่ตั้งโครงการไม่ไกลระหว่างทางด่วน 2 ฝั่งเลยซึ่งก็ใช้งานได้ในระยะไม่ไกลทั้งคู่เลย ได้แก่ (ฝั่งซ้าย)ทางด่วนศรีรัชซึ่งใช้ออกเมืองไปทางปทุมธานีหรือเข้าไปเมืองทางดินแดง-สีลม-ดาวคะนอง / ฝั่งขวามือเป็นส่วนของทางด่วนโทลเวย์ ที่ใช้ออกเมืองไปทางรังสิต หรือเข้าเมืองไปทางดินแดง-พระราม 9-สุขุมวิทก็ได้

    สำหรับใครที่ไม่ได้ขับรถ ในอนาคตย่านนี้เราว่าเป็นอีกทำเลที่น่าสนใจ อันนี้พูดถึงอนาคตอีกไม่กี่ปีนะคะ เพราะทำเลโครงการจะอยู่ไม่ไกลมากจากรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย คือ สายสีชมพู (วิ่งผ่านถนนแจ้งวัฒนะ) และสายสีแดง (วิ่งบนถนนกำแพงเพชร) เราสามารถเลือกเดินทางได้หลากหลายมากขึ้น และอีกอย่างที่สำคัญสำหรับคนไม่ขับรถก็คือการใช้วินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งตรงทำเลโครงการเราเห็นมีซุ้มวินมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าปากซอยแจ้งวัฒนะ 10 เลยค่ะ จะเรียกไปไหนใกล้ๆ ก็สะดวกดี

    เส้นทางการเดินทาง

    สำหรับการเดินทางในวันนี้เราเริ่มต้นจากบริเวณถนนรามอินทรา ก่อนขึ้นสะพานข้ามวงเวียนหลักสี่ จากนั้นตรงยาวไปทางแจ้งวัฒนะ จากนั้นเลี้ยวกลับรถบริเวณฝั่งตรงข้าม ปตท. (ปัจจุบันมีการทำรถไฟฟ้าดังนั้นจุดกลับรถอาจจะเปลี่ยนแปลงภายหลังได้นะคะ) และตรงยาวๆ เลี้ยวเข้าซอยแจ้งวัฒนะ 10 จากนั้นเลี้ยวซ้ายตรงไปตามทางจะเห็นที่ตั้งโครงการฝั่งขวามือค่ะ

    Image 1/9
    เริ่มต้นที่ถนนรามอินทรา มุ่งหน้าไปทางหลักสี่ หรือตามป้ายคือไปปากเกร็ดค่ะ

    เริ่มต้นที่ถนนรามอินทรา มุ่งหน้าไปทางหลักสี่ หรือตามป้ายคือไปปากเกร็ดค่ะ

    สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

    สภาพแวดล้อมโครงการส่วนใหญ่ล้อมรอบด้วยตึกแถว อาคารพาณิชย์ สูงประมาณ 4-5 ชั้น ซึ่งก็ถือว่ามีความสูงอยู่พอสมควรนะคะ สำหรับใครที่อยากได้วิวมุมสูงก็ควรจะเลือกห้องตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไป โดยเฉพาะฝั่งทิศเหนือ อันนี้ชัวร์เลยว่าถ้าเลือกชั้น 5 ขึ้นไปได้วิวระยะไกลมากขึ้นแน่นอนค่ะ สำหรับห้องฝั่งทิศใต้ปัจจุบันบรรยากาศยังค่อนข้างโล่ง เพราะอยู่ติดกับที่ดินเปล่า แต่ในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาที่ดินเป็นรูปแบบต่างๆ ซึ่งต้องเก็บเป็นข้อพิจารณาอยู่เหมือนกันนะคะ

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • ตลาดเมืองทอง 1
    • โรงพยาบาล มงกุฎวัฒนะ
    • Big C แจ้งวัฒนะ
    • The Avenue + Major Cineplex
    • Tesco Lotus
    • เมืองทองธานี
    • เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
    • Makro
    • IT Square
    • ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
    • สำนักงานใหญ่ บริษัท TOT

    รายละเอียดโครงการ

    โครงการ สุชารี ไลฟ์ 2 จัดเป็นหนึ่งในหลายๆ โครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ในทำเลซอยย่อยใกล้ถนนแจ้งวัฒนะ และอยู่ในรัศมีไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคต ซึ่งถ้ามาพูดถึงจุดที่เรามองว่าเป็นข้อดีของโครงการนี้ก็จะเป็นเรื่องขนาดของโครงการที่ไม่ใหญ่มาก อยู่ที่ 100 ยูนิตเท่านั้น ใครที่ไม่ชอบความวุ่นวายก็น่าจะชอบ และอีกเรื่องคือขนาดห้องที่นี่จัดพื้นที่ใช้สอยมาให้พอสมควร อย่างห้องเริ่มต้นก็อยู่ที่ 28 ตร.ม. แล้ว ซึ่งเป็นขนาดที่เรามองว่าอยู่ได้สบาย ไม่เล็กไปสำหรับ 1-2 คน

    และตัวโครงการนี้ก็พึ่งสร้างเสร็จพร้อมอยู่มาช่วงปลายปีที่ผ่านมาเอง บรรยากาศจะเป็นอย่างไรเดี๋ยวเราไปดูข้างในกันค่ะ

    ผังโครงการชั้นล่างถ้าสังเกตแล้วโครงการสร้างอาคารคับที่ดินนะคะ โดยใช้พื้นที่เต็มที่ แต่ยังมีการจัดสวนให้ดูร่มรื่นบริเวณระยะ Set Back รอบข้างอาคาร สำหรับชั้นนี้จะเป็นส่วนที่จอดรถทั้งหมด มีจุดสำหรับขึ้นอาคารคือตรงโถงลิฟต์ ซึ่งที่นี่จะไม่ได้มี Lobby อยู่ชั้นล่างแต่นำ Lobby ขึ้นไปชั้น 2 เพื่อให้ได้บรรยากาศในมุมสูงมากขึ้น ซึ่งจะได้วิวและสวยกว่าอยู่ชั้นล่าง

    สำหรับทางเข้า-ออกโครงการ จะแบ่งไว้เป็น 2 ทางด้วยกัน คือถนนสำหรับรถยนต์ และประตูทางเข้าสำหรับคนเดิน ซึ่งคนเดินนั้นเราเข้าไปแล้วจะต้องเดินขึ้นไปยัง Lobby ชั้น 2 เลยนะคะ อันนี้เราว่าทางโครงการตั้งใจออกแบบไว้สำหรับให้ Visitor ขึ้นไปรอที่ Lobby เลยซึ่งสะดวกกว่า

    ส่วนบริเวณทางเข้า-ออกของรถยนต์ใช้เป็นไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ โดยใช้ระบบ Keycard Access เอานะคะ และด้านข้างก็มีรปภ. ที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ตลอด 24 ชม. ถนนด้านล่างของเป็นคอนกรีตขัดเรียบทั้งหมด ดูสะอาดสะอ้านดีค่ะ

    บรรยากาศบริเวณที่จอดรถใต้อาคาร ข้อดีคืออยู่ในร่ม รถไม่โดนแดด และขนาดที่ดินไม่ได้ใหญ่มากด้วย การวางผังที่จอดรถก็จะเป็นประมาณนี้อยู่แล้วค่ะ ส่วนจำนวนช่องจอดทางโครงการจัดมาให้ทั้งหมด 38 ช่องจอด ก็คือเป็น 38% ไม่รวมซ้อนคันนะคะ เพราะจากที่เราดูแล้ว ขนาดความกว้างของถนนตรงที่จอดรถไม่น่าจะจอดซ้อนคันได้สะดวกเท่าไหร่

    และหากพูดถึงจำนวนที่จอดรถแล้ว เรามี 2 มุมมองด้วยกัน อันดับแรกคือการใช้งานจริง จากทำเลแล้วปัจจุบันการมีรถยนต์ของตัวเองยังเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดของคนย่านนี้ เนื่องจากระบบขนส่งมวลชนต่างๆ หลักๆ คือรถไฟฟ้ายังไม่ได้เสร็จพร้อมใช้งาน ดังนั้นจำนวนที่จอดรถเท่านั้นก็อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ได้เพียงพอสำหรับทำเล ณ ตอนนี้ แต่เมื่อเมื่อรถไฟฟ้าแล้ว เราว่าคนที่อยู่ในย่านนี้ไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์เท่านั้นแล้ว ความต้องการที่จอดรถก็น้อยลงไปเช่นกัน

    ส่วนอีกมุมมองคือ ราคาที่จ่ายกับจำนวนที่จอดรถ เรามองว่า 38% ถือว่าโอเคนะคะ ไม่น้อยไป

    มาดูบรรยากาศรอบๆ โครงการ ถือว่าทำออกมาได้ดีนะ เราชอบที่มีการจัดสวนทั้งไม้พุ่มเพื่อบังสายตาจากภายนอก และไม้ยืนต้นสูงเพื่อให้ร่มเงาภายในอาคาร

    สำหรับทางเข้าโถงลิฟต์ของชั้นที่จอดรถ จะอนุญาตให้เฉพาะลูกบ้านเท่านั้นที่เข้าได้ เพราะจะมีจุดสแกนบัตรตั้งแต่ด้านหน้าประตูเลย อันนี้เราว่าดีในเรื่องของความปลอดภัย

    สำหรับลิฟต์โดยสารที่นี่จัดมาให้ 2 ตัวนะคะ ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 50:1 เท่านั้นเองค่ะ (ไม่หนาแน่น) ส่วนรูปแบบลิฟต์จะเป็นลิฟต์ Lock ชั้น หมายถึงเราจะสามารถขึ้นได้เฉพาะชั้นพักอาศัยของเราเอง และชั้น Facilities เท่านั้น (ก็คือชั้น 1-2)

    เดี๋ยวเราขอข้ามมาดู Lobby ชั้น 2 โดยการขึ้นบันไดจากหน้าโครงการแทนนะคะ แต่หากเรามาจากชั้นที่จอดรถก็สามารถขึ้นลิฟต์ไปชั้น 2 ได้เช่นกันนะคะ

    เดินขึ้นมาก็จะเป็นทางเข้า Lobby ที่เป็นห้องกระจกสูงแบบ Full Height

    ก่อนเข้ามาดูภายในอาคารชั้น 2 มาอธิบายผังกันก่อนจะได้เห็นภาพรวมของชั้นนี้กันก่อนนะคะ สำหรับชั้นนี้จะเป็นลูกผสมระหว่าง Facilities และห้องพักอาศัย โดยข้อดีของลูกบ้านที่พักอาศัยในชั้นนี้ก็คือ ใกล้ Facilities ใช้งานสะดวก เพื่อนบ้านรวมชั้นไม่เยอะ อยู่ที่ 10 ยูนิตเท่านั้น และราคาห้องชั้นนี้ถูกกว่าชั้นอื่นๆ ด้วยนะคะ ส่วนข้อด้อยก็จะเป็นความสูงของวิวที่ไม่ได้สูงมากนักค่ะ

    เข้ามาภายใน Lobby กันต่อ โดยบรรยากาศด้านในจัดออกมาเป็นพื้นที่นั่งเล่น มีชุดโซฟาต้อนรับต่างๆ ให้ ซึ่งปัจจุบันทางโครงการทำเป็น Sale Office ก่อนนะคะ และจะคืนพื้นที่ให้กับลูกบ้านเมื่อปิดโครงการค่ะ

    สำหรับใครที่สงสัยว่าแล้วถ้า Visitor สามารถขึ้นไป Lobby ชั้น 2 ได้เลยโดยที่ไม่ต้องสแกนบัตรแล้วมี Security ยังไงบ้าง ก็คือตรงประตูที่จะเข้าสู่โถงลิฟต์และ Facilities ชั้น 2 จะต้องมีการสแกนบัตรเพื่อเข้าไปนั่นเองค่ะ

    สำหรับใครที่จะขึ้นชั้นพักอาศัยของตัวเองก็สามารถขึ้นลิฟต์จากชั้นนี้ได้เช่นกัน หรือใครจะใช้ Facilities ก็เดินตรงไปได้เลยนะคะ โดย Facilities ทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 2 ค่ะ

    ตรงมาหน่อยเป็นห้องสำนักงานนิติ

    ด้านข้างทางเดินมีมุมสำหรับ Mail Box เรียงครบทั้ง 100 ยูนิตเลยค่ะ

    และสำหรับใครที่อยู่ชั้น 2 ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความวุ่นวายนะคะ เพราะทางโครงการจัด Double Access ไว้ให้ด้วย คือมีประตูเพื่อสแกนบัตรเข้าสู่โถงทางเดินโซนห้องพักอาศัย

    ส่วนประตูฝั่งซ้ายมือจะเป็นประตูที่ไม่ต้องสแกนบัตรนะคะ เพราะเป็นทางเข้า Facilties โครงการนั่นเอง

    เข้ามาแล้วฝั่งซ้ายมือเป็นห้อง Fitness ของโครงการ ส่วนตรงไปจะขึ้นไปยังโซนสระว่ายน้ำกลางแจ้ง

    ภายในห้อง Fitness มีเครื่องเล่นให้ประมาณ 3-4 เครื่องและมุม Weight Trianing

    ขึ้นมาที่บริเวณสระว่ายน้ำนะคะ ด้านหน้าจะมีการจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น Outdoor ไว้มานั่งเล่นหรือนั่งพักระหว่างเล่นน้ำก็ได้เช่นกัน

    ส่วนสระว่ายน้ำโครงการนี้เป็นรูปแบบ Infinity Edge Pool ระบบเกลือนะคะ ขนาดจะอยู่ที่ 4 x 13.5 ม. เป็นขนาดที่เรายังสามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้อยู่นะคะ ส่วนวิวนั้นจะไม่ได้เน้นเท่าไหร่ เพราะอยู่ชั้น 2 เท่านั้นเองค่ะ แต่ดีที่ทางโครงการเลือกทิศที่มีบรรยากาศโล่งหน่อย ไม่ประชิดกับอาคารด้านข้างมาก และอยู่ทิศเหนือที่ไม่โดนแดดแรงประกอบกับมีอาคารบังแดดด้วย อย่างเวลาที่เรามาถ่ายก็ช่วง 11 โมงแล้วนะคะ ตรงสระยังร่มอยู่เลย บางคนอยากว่ายน้ำแต่กลัวแดด น่าจะชอบนะที่สระไม่โดนแดดเต็มๆ

    ขึ้นมาที่ชั้นพักอาศัยบริเวณโถงลิฟต์ตกแต่งมาเรียบง่าย สะอาดตา และที่ดีคือได้ชุดหน้าต่างเต็มผนังเลย รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ดีค่ะ

    ส่วนโถงทางเดินเราค่อนข้างชอบนะคะ ซึ่งถ้าเทียบกับ Segment โครงการแล้วกับสิ่งที่ทางโครงการตกแต่งให้เราว่าโอเคเลย พื้นแกรนิตโต้ ไม่ใช่กระเบื้อง Ceramic ความกว้างโถงเดินได้สบายๆ

    สำหรับชั้นพักอาศัยเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 2 แล้วนะคะ แต่ชั้น 3-8 นั้นจะเป็นชั้นพักอาศัยล้วน ไม่มีส่วน Facilities แทรกเหมือนชั้น 2 ซึ่งก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะ ไม่มีเสียงจากการเล่นน้ำ หรือออกกำลังกาย

    มาพูดถึงเรื่องของตำแหน่งห้องกันบ้างนะคะ สิ่งที่เราคิดว่าโอเคเลยสำหรับการจัดผังพื้นของโครงการนี้คือการหันหน้าห้องไปทางทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่เหมาะกับการอยู่อาศัยในบ้านเรา อย่างทิศเหนือก็จะไม่โดนแดดตอนบ่าย ทิศใต้ได้เรื่องของลมพัดผ่านดีค่ะ ส่วนที่เราขอดอกจันทร์ (*) เพิ่มเติมคือทิศใต้ที่เป็นที่ดินเปล่าตอนนี้ในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาเป็นอาคารเกิดขึ้น ดังนั้นเราอยากให้พิจารณาในแง่นี้เผื่อไว้ก่อนด้วยนะคะ แต่ทั้งนี้ถึงจะมีอาคารขึ้นก็ยังมี Set Back อยู่ตามกฎหมายอาคารนะ

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 4 x 13.5 เมตรลึก 1.20 เมตร
    • ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 3-4 เครื่อง
    • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
    • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 50 :  1
    • ที่จอดรถประมาณ 38 คันคิดเป็น 38% ไม่รวมซ้อนคัน
    • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

     

    แบบห้อง

    ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. นับเป็นขนาดที่โอเคเลยสำหรับคนที่อยู่คนเดียวหรือ 2 คน ไม่เล็กจนเกินไปนะคะ สิ่งที่เราชอบคือการจัดผังห้องที่ได้ห้องเป็นสัดส่วน คือได้ห้องนอนกั้นห้อง ได้ห้องครัวที่เราสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ และภายในครัวก็มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ด้วยค่ะ

    เข้ามาภายในห้องจะเป็นบริเวณพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งในส่วนนี้เราจะได้ชุดเฟอร์นิเจอร์เต็มชุดเลย ไม่ว่าจะเป็นโซฟา ชั้นวางทีวี มีโต๊ะพร้อมเก้าอี้สำหรับนั่งทำงานได้ สำหรับฝ้าเพดานของโครงการนี้อยู่ที่ 2.4 ม. เป็นระดับความสูงมาตรฐานทั่วไปนะคะ ส่วนพื้นทางโครงการให้เป็นลามิเนตค่ะ

    เราหันมาดูฝั่งที่เป็นชุดโซฟาและโต๊ะทำงาน ด้วยความกว้างของพื้นที่แล้วถือว่าได้มาโอเคเลยนะคะ สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ลงตัว

    สำหรับอีกฝั่งทางโครงการจะมีการ Built-in ชั้นวางทีวีให้ ซึ่งพวกเฟอร์นิเจอร์ Built-in ทั้งหมดใช้ของ SB Furniture โดยรวมแล้วนับว่าโอเคนะคะ เกรดมาตรฐานและเหมาะสมกับราคา

    สำหรับห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอน ความสูงประมาณ 2 ม. ถ้าพูดเรื่องการใช้งานแล้วคิดว่าน่าจะได้ความกว้างบานที่ใหญ่กว่านี้หน่อยจะดีมาก เพราะพอเป็นบานเลื่อนเราจะเปิดได้มากสุดแค่ฝั่งเดียว ความกว้างอาจจะไม่ได้มากนักค่ะ

    ภายในห้องนอนได้ขนาดกว้างทีเดียว สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ และภายในห้องนี้สิ่งที่เห็นในห้องตัวอย่างเราได้แทบครบหมดเลย ยกเว้นแค่ฟูกเตียงเท่านั้นค่ะ

    เตียงที่ทางโครงการเลือกวางให้จะเป็นขนาด 5 ฟุต มีโต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะข้างเตียงให้เป็นมาตรฐาน

    ส่วนปลายเตียงมีพื้นที่ให้เดินได้สบายๆ นะคะ และส่วนผนังจะมีโซนผนังเปล่าที่ติดตั้งพวกปลั๊กต่างๆ มาให้ รองรับการติดตั้ง TV แบบแขวนผนัง

    อีกมุมนึงเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ด้านใน ลักษณะจะเป็นตู้เสื้อผ้าบานเปิดคู่ ซึ่งมีจุดที่ติดอยู่ก็คือบานเปิดขวามือของภาพติดกับเครื่องปรับอากาศด้านบนทำให้เปิดใช้งานได้ไม่เต็มที่นะคะ ตอนเช็คห้องอาจจะให้ลองดูตรงนี้หน่อย เราคิดว่าสามารถปรับเครื่องปรับอากาศอีกหน่อยได้อยู่นะ จะได้เปิดตู้เสื้อผ้าได้เต็มที่ค่ะ

    ถัดมาเป็นโซนครัว ซึ่งโซนนี้เราสามารถจัดฟังก์ชันให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นโดยการทำเป็นประตูบานเลื่อนกั้นโซนได้นะคะ เราว่าดีมากเลยสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร และกังวลเรื่องกลิ่นอาหารที่อาจจะคลุ้งทั่วห้อง เลือกติดตั้งบานเลื่อนกระจกเพิ่มอาจจะมีค่าใช้จ่ายอยู่นะ แต่เราว่าคุ้มค่า

    ภายในครัวแปลนนี้ค่อนข้างกว้างเลยนะคะ โดยเฉพาะตรงระหว่างเคาน์เตอร์และโต๊ะกินข้าว ที่มีความกว้างประมาณ 90 ซม. ซึ่งเราคิดว่าเป็นระยะที่โอเค เนื่องจากว่าเราต้องให้พื้นที่ของการเลื่อนเก้าอี้ด้วยนะ และเวลาเราเดิน หรือทำอาหารตรงเคาน์เตอร์ด้วย ถ้าแคบเกินไปจะใช้งานไม่สะดวก แต่อันนี้จากที่ลองเช็คดูแล้วเป็นระยะที่โอเคนะคะ

    สำหรับฝั่งเคาน์เตอร์ครัวที่เราเห็นเป็นช่องว่างนั้นจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นนั่นเองค่ะ ขนาดของพื้นที่นี้ก็จะเหมาะกับตู้เย็นขนาดกลางกำลังดี

    สำหรับเคาน์เตอร์ครัวจะได้ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ ของ SB Furniture เช่นกัน โดยท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตดำ ซึ่งใช้งานได้โอเคนะ ในเรื่องของความทนทาน กันความชื้นต่างๆ ส่วนด้านล่างเป็นบานเปิดปิดผิวลามิเนตค่ะ มีมุมวางเครื่องซักผ้าให้ด้วยขนาดที่รองรับได้จะอยู่ที่ประมาณ 7 กิโลกรัม

    สิ่งที่ได้บนเคาน์เตอร์ก็จะมี Hob & Hood และ Sink จาก MEX ส่วน Hood ลักษณะจะเป็นระบบหมุนเวียนนะคะ

    เพิ่มเติมอีกอย่างสำหรับคนชอบทำอาหาร ผนังโซนเคาน์เตอร์นี้แนะนำให้กรุด้วยกระเบื้องหรือกระจก หรือจะเป็นวัสดุอะไรก็ได้ที่เราสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ เวลาเราผัดแล้วอาหารกระเด็น น้ำมันกระเด็นเอย ผนังจะได้ดูไม่สกปรกเลอะเทอะค่ะ

    ส่วนด้านบนมี Built-in ชั้นวางของให้เหมือนในห้องตัวอย่างเลย

    มุมตรงข้ามได้ชุดโต๊ะ Built-in พร้อมเก้าอี้ 2 ตัวเป็นมาตรฐานเลยค่ะ

    สำหรับระเบียงกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกนะคะ

    พื้นที่ระเบียงขนาดกระทัดรัดอยู่นะ แต่เมื่อไม่ต้องวางเครื่องซักผ้าแล้วก็จะมีพื้นที่เหลือให้เราสามารถซักล้าง หรือตากเสื้อผ้าได้มากขึ้น

    กลับเข้ามาโซนติดๆ กันกับครัว จะเป็นทางเข้าห้องน้ำ

    ภายในห้องน้ำทางโครงการแบ่งโซนออกเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วน โดยการกั้นด้วยฉากกั้นกระจก

    มุมโซนแห้งนั้นจะได้อ่างล้างมือที่ทำเคาน์เตอร์ให้ด้วย ดูเรียบร้อยและเพิ่มพื้นที่การวางของได้เช่นกัน สำหรับสุขภัณฑ์จะเป็นของ American Standard นะคะ

    ฉากกั้นกระจกเป็นแบบประตูบานเปิดเลย อันนี้ใช้งานสะดวกกว่าบานเลื่อนนะ ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็กว้างอยู่พอสมควรค่ะ สิ่งที่ชอบคือผนังที่มีการจัดพื้นที่ให้เราสามารถวางแชมพู ครีมอาบน้ำต่างๆ ได้ด้วย

    1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม. ห้องนี้ไซส์ใหญ่ขึ้นมาจากห้องที่แล้วนะคะ สิ่งที่แตกต่างชัดเจน คือการออกแบบที่ทำมาเพื่อให้อีกกลุ่มที่ไลฟ์สไตล์ต่างกันชอบ เพราะห้องนี้ถ้าสังเกตคือ พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ริมระเบียง ได้วิว ได้แสงธรรมชาติเข้าถึง และยังเป็นพื้นที่เชื่อมระหว่างครัวที่อยู่บริเวณหน้าห้องด้วย ทำให้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ บรรยากาศจึงดูโปร่งโล่งมากกว่าห้องที่แล้ว ผนวกกับพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้นด้วยนะคะ

    อีกการออกแบบที่ต่างก็คือการทำครัวเปิดเลย ไม่ได้กั้นเป็นห้องครัวเป็นสัดส่วน ก็จะเหมาะกับคนที่อาหารเบาๆ ชิลๆ ไม่ก็สายชอบซื้อของขึ้นมาเวฟกินเอง ซึ่งก็เป็นอีกรูปแบบการใช้ชีวิตของคนคอนโดทั่วไป

    ส่วนห้องนอนห้องนี้ได้ไซส์ใหญ่เลยค่ะ มีมุมนั่งทำงานเล็กๆ ข้างเตียงได้ด้วย ส่วนห้องน้ำของห้องนี้มีจุดเด็ดที่เราชอบอยู่คือมุมวางเครื่องซักผ้า เดี๋ยวเราไปดูบรรยากาศจริงภายในกัน

    เข้ามาภายในห้องบรรยากาศห้องส่วนนี้จะโปร่งโล่งเลย และค่อนข้างยาวนะคะ โดยจะเป็นพื้นที่ส่วนครัวด้านหน้าที่เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นริมระเบียง

    สำหรับเคาน์เตอร์ครัวของแปลนนี้ Spec เดียวกับห้องขนาด 28 ตร.ม. นะคะ แต่จะมีหน้าตาต่างกัน ส่วนเคาน์เตอร์ใช้งานจะได้ขนาดเล็กลงมาหน่อยเพราะต้องมีพื้นที่สำหรับโต๊ะ Built-in รับประทานอาหารด้วย

    หน้าตาของโต๊ะรับประทานอาหารจะเหมือนกับห้องขนาด 28 ตร.ม. เช่นกันค่ะ

    ถัดมาในส่วนพื้นที่นั่งเล่น สำหรับห้องนี้จะได้ทั้งชุดโซฟา โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวีเลยค่ะ

    มุมชั้นวางทีวี Built-in มาให้เต็มพื้นที่นะคะ

    ส่วนระเบียงห้องนี้จะได้ระเบียงค่อนข้างยาว ตามความกว้างของห้อง

    ซึ่งจะมีมุมด้านข้างเป็นตำแหน่งที่ทางโครงการจัดให้เป็นตำแหน่งวาง CDU เครื่องปรับอากาศ

    จากโซน Common Area มาแล้ว อีกฝั่งเป็นห้องน้ำและห้องนอนนะคะ เดี๋ยวเราไปดูรายละเอียดกัน

    ภายในห้องน้ำของแปลนนี้เรียกว่ากว้างเลยทั้งโซนเปียกและแห้ง และมีการกั้นแยกโซนด้วยฉากกั้นกระจก เช่นเดียวกับห้องน้ำของห้องพักที่แล้ว รวมทั้งพวกสุขภัณฑ์ต่างๆ ด้วย

    สำหรับมุมที่เราชอบคือการที่ทางโครงการทำพื้นที่ไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าในห้องน้ำเลย ไม่กินพื้นที่ส่วนระเบียง และในแง่การใช้ก็สะดวก เพราะเราสามารถถอดเสื้อผ้าใส่ตะกร้าและหย่อนใส่เครื่องซักผ้าได้เลย ไม่ต้องแบกไปมาภายในห้อง พร้อมกับด้านบนมี Built-in ชั้นวางของเผื่อว่าผงซักฟอกต่างๆ ก็เอามาเก็บไว้ได้

    ถัดมาเป็นพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นกระจกเช่นเดิม และเข้ามาพวกฝักบัวต่างๆ ก็จาก American Standard มาตรฐาน รวมไปถึงมีชั้นให้วางของบริเวณช่องด้านข้างอีกด้วย

    เข้ามาภายในห้องนอนของจริงค่อนข้างกว้างเลยนะคะ ทางโครงการวางเฟอร์นิเจอร์ให้ทั้งฐานเตียง 5 ฟุต มีโต๊ะข้างเตียงและโต๊ะเครื่องแป้งอย่างละชุด

    มุมนี้ค่อนข้างดีถ้าสาวๆ ใช้มุมนี้ไว้แต่งหน้าจะได้แต่งในแสงธรรมชาติเลย สีไม่เพี้ยน

    และอีกฝั่งเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนที่ภายใน Built-in มาให้เลยค่ะ

    ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.

    Image 1/7
    บริเวณพื้นที่นั่งเล่น

    บริเวณพื้นที่นั่งเล่น

    ห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม. 

    Image 1/7
    บรรยากาศภายใน Common Area ที่เชื่อมส่วนครัว และพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ด้านใน

    บรรยากาศภายใน Common Area ที่เชื่อมส่วนครัว และพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ด้านใน

    1 Bedroom ขนาด ตร.ม.

    Image 1/7
    บรรยากาศบริเวณ Common Area เชื่อมระหว่างพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น

    บรรยากาศบริเวณ Common Area เชื่อมระหว่างพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น

    2 Bedroom ขนาด ตร.ม.

    Image 1/11
    บริเวณโถงทางเข้าห้อง ด้านข้าง Built-in ชั้นวางรองเท้าและชั้นเก็บของให้

    บริเวณโถงทางเข้าห้อง ด้านข้าง Built-in ชั้นวางรองเท้าและชั้นเก็บของให้

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคา

    29 January 2020

    • 1 Bedroom Type A2 ห้อง 205 เนื้อที่ 28.2 ตร.ม. ราคาปกติ 1.876 ล้านบาท ราคาพิเศษ 1.706 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60,500 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom Type A1 ห้อง 308 เนื้อที่ 28.97 ตร.ม. ราคาปกติ 2.039 ล้านบาท ราคาพิเศษ 1.854 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64,000 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom Type C ห้อง 315 เนื้อที่ 34.77 ตร.ม. ราคาปกติ 2.6 ล้านบาท ราคาพิเศษ 2.364 ล้านบาท หรือคิดเป็น 68,000 บาท/ตร.ม.

    • รูปแบบการขาย Fully Furnished
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
    • Kitchen & Sink / ท็อปหินแกรนิตดำ
    • Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX

     

    • จอง 5,000 บาท
    • ทำสัญญา 30,000 บาท
    • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 42 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ทำเล : โครงการ สุชารี ไลฟ์ 2 คอนโด Low Rise ทำเลย่านแจ้งวัฒนะช่วงตอนต้นใกล้จุดตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต ทำเลนี้น่าสนใจเพราะเป็นทำเลศูนย์ราชการ มีข้าราชการและคนทำงานคึกคักเลย มองในมุมมองคนทำงานย่านนี้ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการที่เราพึ่งบอกไปและคนทำงานโซน TOT เป็นต้น คอนโดนี้ทำเลสะดวกแม้จะอยู่ในซอยแต่ก็ไม่ลึกมาก เดินไปสำนักงานเขตได้ หรือจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปออฟฟิศในระแวกก็ยังสะดวกเช่นกัน เพราะหน้าปากซอยมีซุ้มวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่

    เรื่องของกินพูดถึงเฉพาะในซอยนี้เองก็มีเยอะอยู่นะคะ เราเดินสำรวจช่วงต้นซอยระยะในละแวกโครงการคือมีเกิน 5-6 ร้านเลย ร้านอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ คาเฟ่ ค่อนข้างครบ ราคาโอเค ถ้าขยับมาหน่อยห้างใกล้ๆ ขับรถไปหรือนั่งมอเตอร์ไซค์ไปก็ไม่นานก็จะเป็น IT Square ที่ด้านล่างมี Foodland 24 ชม.ด้วยนะคะ ส่วนขยับออกไปอีกหน่อยก็มี Super Market อย่าง Big C, Tesco Lotus ไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ โดยรวมเราว่าทำเลนี้มีความอุดมสมบูรณ์ของมันอยู่แล้ว เพราะเป็นย่านแหล่งงานและชุมชนที่อยู่กันมานาน

    การเดินทางโดยใช้รถ : เรื่องของการใช้รถต้องพูด 2 ประเด็น 1. คือการขับรถ และ 2. คือจำนวนที่จอดรถ เพราะเป็นเรื่องที่สอดคล้องกันอยู่ ประเด็นแรกการขับรถทำเลโครงการเราว่าโอเค เพราะอยู่ในซอยไม่ลึก และเป็นซอยลัดที่เราเลือกไปได้ทั้งแจ้งวัฒนะเองและกำแพงเพชรไปออกวิภาวดีรังสิตก็ไม่ยาก ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลกับจุดขึ้น-ลงด่วน Tollway ด้วยค่ะ

    ประเด็นถัดมาคือที่จอดรถ สำหรับเราคิดว่า 38 ช่องจอดในทำเลนี้ปัจจุบันทางห้องขายครบปิดโครงการอาจจะไม่เพียงพอนะ เพราะดูแล้วเราคิดว่าน่าจะจอดซ้อนยากในโครงการ แต่เราชอบทำเลนี้ที่ยังมีตัวเลือกอื่นให้ใช้เดินทางได้ และค่อนข้างสะดวกด้วย เลยคิดอีกแง่ว่าหลายคนที่มาซื้ออาจจะไม่ได้เน้นขับรถก็มี ส่วนจำนวนที่จอดในแง่ของราคาที่จ่ายเราว่าให้มาไม่น้อย และไม่มากไปกับ Segment Economy ค่ะ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการนี้การเดินทางไม่ใช้รถปัจจุบันก็ถือว่าโอเคนะคะ เรามองว่าสำหรับกลุ่มคนซื้อนั้นแค่เดินออกมาเจอหน้าปากซอยในระยะที่เดินง่ายไม่เกิน 300 ม. ไม่เปลี่ยวก็โอเคแล้ว และนี่หน้าปากซอยมีวินมอเตอร์ไซค์ด้วยก็ยิ่งดี ซึ่งการไม่ใช้รถยังคงเหมาะกับคนที่ทำงานแถวนี้นะคะ นั่งวินไปทำงานใกล้ๆ และนั่งวินกลับคอนโดแบบนี้โอเคสะดวกค่ะ

    ส่วนในอนาคตทำเลนี้จะน่าสนใจมากยิ่งขึ้นเพราะอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า 2 สายเลยคือสายสีชมพูและสายสีแดง ในเลือกใช้ได้หลากหลาย เข้าเมืองไปทางเส้นพหลโยธินก็ใช้สายสีชมพูไปต่อสายสีเขียว หรือจะไปดอนเมือง ไปบางซื่อก็ใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงได้ไม่ยากเลยค่ะ

    วัสดุ : โครงการนี้เป็นโครงการที่ขายในรูปแบบ Fully Furnished เลย ขาดแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าและฟูกเตียงก็เข้าอยู่ได้แล้ว ในราคานี้ไม่ค่อยมีโครงการไหนให้เฟอร์นิเจอร์ครบชุดมานะคะ และเกรดโอเคสมราคาพวก Built-in ใช้ SB Furniture สุขภัณฑ์จาก American Standard และให้เครื่องปรับอากาศครบทุกห้องด้วย ซึ่งตรงนี้ช่วยเซฟค่าใช้จ่ายด้านการตกแต่งไปหลักแสนได้เลยนะคะ

    การออกแบบ : การออกแบบโครงการ ถ้าพูดถึงตัวโครงการเองค่อนข้างเรียบง่าย ไม่หวือหวา ที่โอเคก็จะเป็นเรื่อง Security ที่มีครบ จุดสแกนบัตรที่จอดรถ ทางเข้าส่วนโถงลิฟต์ตรง Lobby ได้ลิฟต์ล็อคชั้น มี Double Access สำหรับห้องพักชั้น 2 ที่มี Facilities อยู่ด้วยในชั้นนั้น

    ส่วนที่เราค่อนข้างชอบคือการวางผังภายในห้องของโครงการนี้ทำออกมาได้ดี อย่างห้องไซส์ 28 ตร.ม. จัดไปเป็นสัดส่วน เพิ่มประตูกั้นครัวก็จะได้เป็นครัวปิดเลย หรือขยับมาขนาดใหญ่ขึ้นอีกหน่อยคือ 32 ตร.ม. เป็นรูปแบบครัวเปิด และพื้นที่นั่งเล่นติดริมระเบียงได้วิว ได้แสงและห้องโปร่งโล่ง คือเค้าทำมาหลายสไตล์ให้เลือก โดยรวมฟังก์ชันลงตัวดีค่ะ

    สาธารณูปโภค : จัดมาให้มาตรฐานตามราคาขาย และ Segment โครงการนะคะ แต่มีครบไม่ว่าจะเป็น Fitness และสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ โดยรวมสะอาดน่าใช้งานอยู่ค่ะ ส่วนค่าส่วนกลางจะค่อนไปทางสูงนิดหน่อย 42 บาท/ตร.ม./เดือน อย่างห้องไซส์ 28 ตร.ม. ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,176 บาท แต่เราอยากให้คิดอีกแง่คือจำนวนยูนิตโครงการนี้น้อยมีแค่ 100 ยูนิตที่หารค่าส่วนกลางกันเอง ราคานี้เทียบกับความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็อาจจะต้อง Weight น้ำหนักดูกันนะคะ

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 61,000 บาท/ตร.ม., 29 January 2020

    • ทำเล 8/10 – อุดมสมบูรณ์ คึกคักทั้งในซอยเอง และในละแวกใกล้ๆ มีค่อนข้างครบ
    • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ใกล้ถนนใหญ่ มีซอยลัดไปออกถนนใหญ่ได้ 2 ทาง และใกล้ทางด่วน ที่จอด 38% ไม่รวมซ้อนคัน
    • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – เดินไปขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ได้ง่าย ในอนาคตไม่ไกลจากรถไฟฟ้า 2 สาย
    • วัสดุ 8/10 – ให้มาครบแบบ Fully Furnished เกรดโอเคสมราคา
    • แบบ 8/10 – จัดฟังก์ชันห้องได้ดี ส่วนตัวโครงการเน้นความปลอดภัยดี
    • สาธารณูปโภค 7/10 – มีมาให้ครบ ขนาดมาตรฐาน

    • ECONOMY CLASS
    • 7.79 / 10.00

    BOTTOM LINE

    โครงการ สุชารี ไลฟ์ 2 เหมาะกับคนทำงานแถวศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ TOT และบริษัทอื่นๆ ในละแวก ราคาหยิบจับง่าย ตัวโครงการยูนิตน้อย ใครไม่ชอบเพื่อนบ้านเยอะ โครงการนี้น่าสนใจ อีกอย่างคือผังห้องจัดมาค่อนข้างดี ไซส์เริ่มต้นอยู่สบาย ไม่เล็กไป และให้เฟอร์นิเจอร์ครบแทบไม่ต้องซื้อของเข้าเพิ่ม ในราคาเริ่มต้น 1.7 ล้านบาท


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving