ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์ คอนโด Low Rise ในซอยจันทน์ 43 (วัดไผ่เงิน) ใกล้สาทร จาก ธนาแลนด์ [รีวิวฉบับที่ 2273]

THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์) ณ วันที่ 20 August 2021

พิกัดโครงการ Google Maps : 13.7029921 , 100.520242
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

พิกัดสำนักงานขาย : ชั้น 2 ศูนย์การค้ากรีนเพลส

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์ ตั้งอยู่ในซอยจันทน์ 43 หรือเรียกอีกชื่อว่าซอยวัดไผ่เงิน แม้จะเป็นซอยย่อยแต่ก็เรียกได้ว่าเป็นซอยย่อยที่ใหญ่นะคะ เป็นซอยที่เชื่อมต่อได้ทั้งถนนจันทน์และถนนสาธุประดิษฐ์ ทำให้มีความคึกคักสูง มีรถสองแถวผ่าน มีโรงเรียน วัดสำหรับชาวพุทธ โบสถ์สำหรับชาวคาทอลิก ร้านค้าร้านอาหารตลอดสองข้างทางภายในซอย และมี community mall อยู่ ซึ่งตัวสำนักงานขายของโครงการนี้ก็อยู่ใน community mall ภายในซอยที่มีชื่อว่ากรีนเพลสค่ะ ที่ตั้งไม่ไกลจากที่ตั้งโครงการ ชมห้องตัวอย่างเสร็จ แวะซื้อของกินและเดินไปดูที่ตั้งโครงการได้ไม่เหนื่อยเลย

ถนนจันทน์ถือเป็นโซนชุมชนดั้งเดิมขนาดใหญ่ มีผู้คนอยู่อาศัยมากมายค่ะ รูปแบบที่อยู่อาศัยมักจะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์แบบเก่า อยู่อาศัยไปด้วยทำมาค้าขายไปด้วย ทำให้เรื่องการหาอาหารการกินทำได้ไม่ยาก ด้วยทำเลที่ค่อนข้างใกล้ใจกลางย่านธุรกิจอย่างสาทร ทำให้เป็นอีกโซนที่มีคอนโดเกิดขึ้นรองรับความต้องการทางด้านที่อยู่อาศัยของคนที่ทำงานย่านสาทรนั่นเอง

ในแง่การเดินทางส่วนตัวมองว่าทำเลนี้เป็นทำเลที่ถือว่าสะดวกในการเดินทางมากค่ะ สามารถลัดเลาะไปยังถนนสาทร ถนนสาธุประดิษฐ์ ถนนเจริญกรุง ถนนพระราม 3 และยังอยู่ระหว่างทางด่วนศรีรัชและทางด่วนเฉลิมมหานคร เลือกใช้ได้หลายเส้นทาง ซึ่งจุดนี้เองก็เป็นข้อดีของโครงการนี้ด้วยค่ะ เนื่องจากโครงการคู่แข่งรอบๆจะอยู่บนทำเลที่เข้าถึงการเดินทางที่สะดวกได้ไม่เท่า ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์ นะ

ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์ ถ้ามองในแง่อาหารการกิน บนถนนจันทน์เอง และภายในซอยวัดไผ่เงินก็ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก มี community mall ให้จับจ่าย มีร้านอาหารแนว street food เพียบและหลากหลายให้เลือกกินได้ไม่ซ้ำ เรียกได้ว่าหากินได้สบายกว่าคอนโดใกล้สถานีรถไฟฟ้าที่ข้ามไปยังฝั่งธนหลายๆสถานีเลยค่ะ ในส่วนสถานที่สำคัญอื่นๆเช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานที่ทำงานส่วนใหญ่ก็จะอยู่บริเวณสาทรเป็นหลัก ซึ่งทำเลนี้ก็นับว่าใกล้ นั่งรถสองแถว 8 บาทก็ไปยังรถไฟฟ้าเซนต์หลุยส์หรือสุรศักดิ์ได้เลย

เส้นทางการเดินทาง

การเดินทางที่เราจะพาไปดูวันนี้ เราจะมาจากทางถนนสาธุประดิษฐ์ค่ะ ซึ่งเป็นฝั่งที่ลงทางด่วนแถวเซ็นทรัลพระราม 3 มา โดยจะเลี้ยวเข้าซอยสาธุประดิษฐ์ 20 ที่เชื่อมกับถนนจันทน์ได้ผ่านหลายๆซอย เราจะเห็นวัด โบสถ์ โรงเรียนผ่านเส้นทางนี้ได้เลยค่ะ ไปดูกัน

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บรรยากาศภายในซอยจันทน์ 43 หรือว่าซอยวัดไผ่เงินถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูง มีคนอยู่อาศัย เข้า-ออกภายในซอยตลอด สภาพอาคารส่วนใหญ่จึงเป็นอาคารพาณิชย์ที่เป็นที่อยู่อาศัยภายในตัวค่ะ

รอบๆที่ตั้งของธนา แอสทรา สาทร-จันทน์เรียกได้ว่าอยู่ติดถนนถึง 3 ด้านเลยค่ะ แม้จะไม่ใช่ถนนใหญ่แต่เรามองว่ามีประโยชน์อยู่เหมือนกันนะคะ ทำให้ตัวอาคารของเราไม่ได้อยู่ใกล้กับอาคารอื่นในระยะประชิดมาก พอมีระยะให้หายใจไม่ใช่เปิดหน้าต่างมาเอื้อมมือไปเชคแฮนด์เพื่อนบ้านได้

ตำแหน่งที่น่ากังวลคือห้องที่หันไปทางฝั่งหลังอาคาร ซึ่งเป็นอาคารสูง 5 ชั้น แปลว่าชั้นล่างๆของโครงการเราอาจจะไม่ได้วิวอะไรค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับของโครงการที่เป็น Low Rise นะโซนนี้จึงเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการวิว อยู่ในห้องก็ปิดม่านตลอดเวลา มุมนี้ก็ถือว่าเหมาะค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ตลาด/ศูนย์การค้า

• กรีนเพลส ~ 140 เมตร
• วนิลามูน ~ 1.3 กม.
• เซ็นทรัลพระราม 3 ~ 2.4 กม.
• โรบินสันบางรัก ~ 3 กม.
• เทสโก้ โลตัส พระราม 3 ~ 3.5 กม.
• เอเชียทีค ~ 3.6 กม.
• โฮมโปร พระราม 3 ~ 3.6 กม.

โรงพยาบาล

• รพ. เซนต์หลุยส์ ~ 2.6 กม.
• รพ. BNH ~ 4.2 กม.
• รพ. เลิดสิน ~ 4.4 กม.

โรงเรียน

• รร.เบญจวรรณศึกษา ~ 40 เมตร
• รร.พระแม่มารี ~ 600 เมตร
• รร.นานาชาติ  Shrewsbury ~ 2.7 กม.
• รร.กรุงเทพคริสเตียน ~ 3 กม.
• รร.อัสสัมชัญ ~ 4.1 กม.

อื่นๆ

• ทางด่วนเฉลิมมหานคร ~ 2.3 กม.
• ทางด่วนศรีรัช ~ 2.4 กม.
• BRT ถนนจันทน์ ~ 2.4 กม.
• BTS เซนต์หลุยส์ ~ 2.5 กม.
• BTS สุรศักดิ์ ~ 3 กม.
• BTS ช่องนนทรี ~ 3.6 กม.

ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์ เป็นคอนโด Low Rise 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1 ไร่นิดๆ รวม 154 ยูนิต  แนวความคิดในการออกแบบโครงการได้แรงบันดาลใจมาจากประกายดาวในยามค่ำคืน พ้องกับชื่อโครงการที่ว่า แอสทรา(Astra) ซึ่งเป็นภาษาละตินแปลว่าดวงดาวค่ะ ซึ่งดีไซน์ของอาคารทั้งภายในและภายนอกอาคารจึงนำเอา Prism มาใช้แทนประกายดาว และถูกออกแบบให้ดู luxury modern ขึ้นมา

ที่ดินของโครงการจะมีรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า ลึกเข้าไปจากถนนหลัก(ซอยจันทน์ 43 หรือซอยวัดไผ่เงิน) ที่ดินโครงการนี้จะมีถนนขนาบด้านข้างถึง 3 ฝั่ง แต่จะเปิดทางเข้า-ออกโครงการอยู่ฝั่งเดียวคือถนนจันทน์ 43 ซึ่งเป็นถนนหลักค่ะ

โดยตัวอาคารจะมีผังเป็นรูปตัว U ด้านแคบติดถนนใหญ่ และยาวลึกเข้าไป มี court หรือช่องว่างตรงกลางอาคาร

ที่ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางและที่จอดรถเป็นหลักค่ะ โดยที่จอดรถจะเป็นแบบ on ground หรือจอดในซองปกติ มีที่จอดรถทั้งหมด 2 ชั้น ชั้น1 และชั้นใต้ดิน รวมที่จอดรถทั้งหมดจะมี 68 คันหรือประมาณ 44% ไม่รวมจอดซ้อนคันค่ะ จุดที่น่าสนใจคือจะมี Car wash & Tire Inflation หรือจุดล้างรถและเติมลมยาง ซึ่งเราไม่ค่อยจะเจอฟังก์ชันแบบนี้ในโครงการคอนโดอื่นๆเลยนะคะ

นอกจากที่จอดรถและก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆอีก คือ Prism Foyer โถงต้อนรับสูงแบบ double volume และ garden trail เป็นสวนทางเดินออกกำลังกายเล็กๆข้างอาคารค่ะ

ผังชั้นใต้ดินจะเป็นที่จอดรถทั้งหมดค่ะ โดยลิฟต์โดยสารจะลงมาถึงชั้นใต้ดินเลย ทำให้คนที่จอดรถชั้นนี้สามารถใช้ขึ้นห้องพักอาศัยได้เลยนะ โดยตัวลิฟต์จะเป็นระบบลิฟต์ล็อคชั้น ต้องใช้ Keycard scan ในการขึ้นไปยังชั้นพักอาศัยค่ะ

ทางเข้าหลักของโครงการจะอยู่ติดกับซอยจันทน์ 43 มีป้ายชื่อโครงการบอกไว้ชัดเจนบริเวณรั้วค่ะ ทางเข้ารถกับทางเดินคนจะเข้าทางเดียวกัน

ภาพจำลองบรรยากาศทางเข้าโครงการค่ะ มีการออกแบบแสงที่ทำให้ป้ายชื่อโครงการดูโดดเด่นในเวลากลางคืนอยู่นะคะ และมีการเลือกใช้ต้นไม้ตกแต่งบริเวณทางเข้าให้ดูร่มรื่นน่าอยู่ด้วย

โซน Prism Foyer จะอยู่ทางด้านหน้าติดกับรั้วโครงการค่ะ มีความสูงเท่ากับตึก 2 ชั้น มีการออกแบบผนังให้เป็นเหลี่ยมมุมเข้ากับ concept prism หรือประกายดาว

จากรั้วโครงการจะมีทางเดินลัดเลาะรอบ Foyer มายังสวน Garden trail ที่อยู่ข้างอาคารได้ค่ะ ตรงนี้จะเห็นว่าทางโครงการพยายามออกแบบให้ทั้งตัวอาคารและ landscape มีเหลี่ยมมุมเยอะๆเหมือนกับรูปทรงของ Prism ด้วย

ภาพจำลองบรรยากาศของ Garden Trail ด้านข้าง ลูกบ้านสามารถมาเดินเล่นผ่อนคลายใกล้ชิดธรรมชาติที่บริเวณนี้ได้นะคะ

เข้ามาภายในอาคารจะเจอกับ Prism Foyer หรือโถงต้อนรับที่สูง 2 ชั้น (double volume) ซึ่งการเข้ามาภายในอาคารก็จะมีระบบประตูทางเข้าที่เปิด-ปิดอัตโนมัติเพื่อสร้างให้คอนโดนี้เป็น Touchless condo เข้า-ออกได้โดยไม่ต้องสัมผัสค่ะ เข้ากับสถานการณ์ที่มี Covid-19 ระบาดเลยนะ โทนการตกแต่งพื้นที่โซนนี้จะเลือกใช้โทนสี Rose gold และ Deep space blue ในการออกแบบ ให้เหมือนอยู่ในห้วงอวกาศ และเลือกใช้โคมระย้ารูปทรงเหมือน Aurora ในการตกแต่งด้วยค่ะ

ต่อเนื่องกับส่วนที่เป็น Foyer เราจะเจอกับ Lobby ค่ะ เป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อน ที่มีความสูงระดับปกติให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นชั้นของที่พักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการค่ะ พื้นที่ส่วนกลางจะประกอบไปด้วย Co-working space, Fitness, Living lounge สระว่ายน้ำที่มีทั้งสระปกติ สระเด็กและ jacuzzi โดยที่ชั้นนี้จะมีห้องน้ำห้องอาบน้ำและ sauna รองรับคนที่มาใช้งานส่วนกลางต่างๆด้วยค่ะ

สระว่ายน้ำจะอยู่กลางแจ้ง ตัวอาคารที่เป็นรูปตัว U จะโอบล้อมสระว่ายน้ำเอาไว้ ซึ่งตัวสระนี้ก็จะเป็นวิวหลักให้กับห้องพักอาศัยของโครงการนี้ด้วยค่ะ

สระว่ายน้ำที่นี่จะเป็นระบบเกลือ ขนาด 8×20 เมตร พร้อมสระเด็กและ jacuzzi ด้วยขนาดเราว่ายาวกว่า low rise 1 อาคารขนาดเล็กที่เคยเห็นนะคะ แต่ไม่แน่ใจว่าความยาวนี้จะรวมขนาดของสระเด็กหรือ jacuzzi ด้วยรึเปล่า? ถ้าไม่รวมก็เรียกได้ว่าใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้อยู่นะ ซึ่งตัวสระจากภาพจำลองบรรยากาศจะเห็นว่ามีแนวไม้พุ่มรอบๆตัวสระอยู่ ตรงนี้ก็จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่มาใช้สระว่ายน้ำด้วย ลดการเขินอายเวลามาใช้งานได้ค่ะ

Living Lounge จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนที่ชั้น 2 นี้ เรามองว่าจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าโซน lobby ชั้น 1 ที่มีคนเดินผ่านเข้า-ออกไปมานะคะ โดยพื้นที่ตรงนี้ก็ออกแบบมาดูสวยงาม ได้วิวสระว่ายน้ำด้วย มานั่งเล่นหรือเอางานมานั่งทำ เอาหนังสือมานั่งอ่าน หยิบมือถือมานั่งเล่นตรงนี้ได้ค่ะ

co-working & meeting space จะเป็นมุมทำงานที่เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น มานั่งทำงานที่ต้องการสมาธิได้ หรือว่าจะติดต่อทางนิติบุคคลของจองห้องเพื่อประชุมกลุ่มก็รองรับค่ะ

Ignite fitness ห้องออกกำลังกายที่ถือว่าเป็นฟังก์ชันมาตรฐานของทุกคอนโดมิเนียมไปแล้ว เท่าที่ดูจากภาพจำลองบรรยากาศ มีเครื่องเล่นให้เลือกใช้หลายประเภทอยู่นะคะ แต่จำนวนไม่ได้เยอะมาก เนื่องจากโครงการนี้มีอยู่ร้อยกว่ายูนิตเท่านั้น

ชั้น 3-7 จะเป็นห้องพักอาศัยเป็นหลักค่ะ โดยทุกชั้นพักอาศัยนั้นจะมี personal storage เป็นฟังก์ชันใหม่ที่เราไม่เคยเจอในโครงการไหนมาก่อนนะ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นเหมือนห้อง Locker ส่วนตัวที่เราจะมีกุญแจส่วนตัว ช่องเก็บของส่วนตัวของเราเท่านั้น เป็นพื้นที่เก็บของเพิ่มเติมนอกเหนือจากห้องพักอาศัยของเราค่ะ

ในส่วนของห้องพักอาศัย ตัวอาคารนั้นจะออกแบบให้มีผังเป็นรูปตัว U ซึ่งตัวห้องก็จะมีสองฝั่งขนาบทางเดินที่เป็นรูปตัว U เช่นกันค่ะ ห้องที่หันหน้าเข้ากลางโครงการก็จะได้วิวสระว่ายน้ำ ซึ่งก็มีแบบห้องทั้งที่เป็น Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedroom ให้เลือก เช่นเดียวกับห้องที่หันออกนอกโครงการ โดยผังห้องของโครงการนี้ถือว่ามีแบบให้เลือกหลากหลายมากตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของแต่ละคนได้นะ เช่น ห้องที่ได้ครัวปิด หรือ ห้องที่ได้ครัวเปิด ห้องหน้ากว้าง อยู่คนเดียวก็ได้ หรืออยู่เป็นครอบครัวก็ดีค่ะ จุดที่เราว่าน่าสนใจคือโดยทั่วไปตำแหน่งห้องที่วิวดีมักจะเป็นห้องขนาดใหญ่ของโครงการ แต่ที่ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์จะมีห้อง studio ที่ได้วิวสระว่ายน้ำด้วย เรียกว่างบไม่มากอยากได้วิวก็มีให้เลือกค่ะ

Personal Storage เป็นพื้นที่เก็บของที่เราสามารถเอาข้าวของชิ้นใหญ่อย่างเช่นกระเป๋าเดินทางมาเก็บไว้ตรงนี้ได้เลยค่ะ

ในส่วนของชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของโครงการ นอกจากห้องพักอาศัยแล้วยังมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานเช่นกัน โดยมีอยู่ 2 ฟังก์ชันคือ Lunar garden และ Sky bar

Lunar garden หรือว่าสวนชมจันทร์ เป็นพื้นที่นั่งเล่นดาดฟ้าที่สามารถมานั่งชมจันทร์ในยามค่ำคืนได้

ส่วน Sky bar นั้นก็จะอยู่ข้างๆกับ Lunar garden ค่ะ แต่จะมีหลังคาปกคลุมและมีเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นเคาน์เตอร์ยาวเหมือนอยู่ roof top bar หยิบเครื่องดื่มจากห้องมานั่งชิลล์กับเพื่อนตรงนี้ได้เลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 1

• Lobby : Prism Foyer โถงสูง 2 ชั้น สไตล์ Luxury Modern
• Garden + Garden trail (ทางเดินออกกำลังกายในสวน)
• Car wash & Tire Inflation (จุดล้างรถและเติมลมยาง)

ชั้น 2

• Co-working & Meeting Space (พื้นที่ทำงานพร้อม WIFI)
• Starlight Pool (สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 8×20 เมตร พร้อมสระเด็กและ Jacuzzi)
• Ignite Fitness
• Living Lounge
• Shower room & Sauna (ห้องอาบน้ำและห้องซาวน่า ชาย-หญิง)

ชั้น 8

• Sky bar
• Lunar garden (สวนชมจันทร์)

อื่นๆ

• Personal Storage
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 77 : 1
• ที่จอดรถประมาณ 68 คัน (44%) ไม่รวมซ้อนคัน

ระบบรักษาความปลอดภัย

• Keycard access ควบคุมการเข้า-ออกอาคารและลิฟต์
• พนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงและ CCTV
• Smoke detector และ Heat detector
• Fire alarm system สัญญาณเตือนอัคคีภัย
• ตู้ดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง

โครงการ ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์จะมีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 154 ยูนิตซึ่งถือว่าไม่เยอะมากค่ะ แต่ว่ามีแบบห้องให้เลือกเยอะมากเลย ตั้งแต่ Studio ขนาด 24-25 ตร.ม., 1 Bedroom ขนาด 29-38 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด 45-60 ตร.ม. โดยห้องตัวอย่างที่จัดไว้จะมีอยู่แบบเดียวค่ะ เป็น 1 Bedroom type 1C ห้องขนาดกลางๆที่ได้วิวสระว่ายน้ำของโครงการ ห้องนี้ขายอยู่ที่ราคาประมาณ 3.2x ล้านบาท รูปแบบการขายจะเป็น Fully Fitted ที่มี Built-in ชั้นวางรองเท้า ตู้เสื้อผ้า ครัวมาให้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอื่นๆอย่างเช่นเตียง โต๊ะกินข้าว โซฟาตอนนี้จะแถมให้เป็นโปรโมชันค่ะ (รายละเอียดเรื่องของแถมอาจจะเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลานะคะ ถ้าสนใจแนะนำให้ไปถามตรงกับที่สำนักงานขายอีกครั้งดีกว่าค่ะ)

รายการวัสดุที่ให้ภายในห้อง

• พื้น SPC (Stone Plastic Composite) เป็นพื้นไม้สำเร็จรูป มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทานกว่าพื้นลามิเนตทั่วไป
• ผนังฉาบเรียบทาสี
• ไฟ LED Downlight
• Top เคาน์เตอร์ครัวกรุหินแกรนิต
• เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานของ Franke (เครื่องดูดควันใช้ระบบกรองกลิ่น)
• ห้องน้ำกรุพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค
• สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Cotto
• ปลั๊กไฟ และ สวิตช์ ของ Schneider
• Built-in ตู้รองเท้าและตู้เสื้อผ้า (ขึ้นอยู่กับรูปแบบห้อง)
• เครื่องปรับอากาศของ PANASONIC NANOE-G ระบบ Inverter (ขนาด BTU ขึ้นอยู่กับรูปแบบห้อง)

โปรโมชันช่วง Pre-sale แถมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวภายในห้อง

1. เตียง (ไม่รวมฟูก) x 1
2. โต๊ะกินข้าว x 1
3. เก้าอี้ x 2-4 ตัว(ขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
4. โซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง(ขึ้นอยู่กับแบบห้อง) x 1
5. ชั้นวางทีวี x 1

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ห้องตัวอย่างที่มีให้ดูจะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. เป็นห้อง 1 Bedroom หน้ากว้างที่เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คนค่ะ ภายในห้องสามารถแบ่งได้ 2 ฝั่ง ฝั่ง Living area ที่รวมครัว พื้นที่กินข้าว ห้องนั่งเล่นและระเบียงเอาไว้ด้วยกัน และอีกฝั่งคือห้องนอนและห้องน้ำค่ะ ห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิด ที่สามารถหาฉากกั้นประตูกระจกมาติดเพิ่มทีหลังได้ เผื่อใครที่ชอบทำครัวและอยากได้ห้องที่แบ่งเป็นสัดส่วน ภายในห้องนอนเรามองว่ามีขนาดใหญ่อยู่สบายค่ะ แถมได้พื้นที่ Walk-in closet หน้าห้องน้ำเข้ามุมเป็นตัว L ขนาดใหญ่เก็บข้าวของเสื้อผ้าได้จุใจ เราลองไปดูบรรยากาศภายในห้องตัวอย่างกันนะคะ

เมื่อเข้าห้องมาจะเป็นพื้นที่ครัวค่ะ พื้นที่ส่วนนี้มีหน้ากว้าง 2 เมตร สูง 2.45 เมตร ฝั่งหนึ่งเป็นเคาน์เตอร์ครัว ส่วนอีกฝั่งเป็นผนังค่ะ

ห้องตัวอย่างไม่ได้ติดประตูให้ดูนะคะ แต่เราจะเห็นได้ว่าโซนนี้ทางเดินถือว่าค่อนข้างกว้างเลย ผนังทางซ้ายมือจะมีซ่อน Built-in ชั้นวางรองเท้าเอาไว้ แต่เรามองว่าสามารถจัดพวกชั้นวางของต่างๆหรือม้านั่งใส่รองเท้าเลยๆข้างผนังตรงนี้ได้เพิ่มอีก แบบที่ไม่เกะกะทางเดินเข้า-ออกด้วยค่ะ

ชั้นวางที่ Built-in มาให้มีขนาด 40×40 ซม.​แต่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานดูเรียบร้อยดีค่ะ เก็บรองเท้าได้ประมาณ 10 คู่นะคะ ส่วนช่องตรงกลางก็เก็บกุญแจ จดหมาย bill ต่างๆไว้ตรงนี้ได้ ก่อนออกจากบ้านก็จะเห็นพอดีไม่ลืมค่ะ ส่วนด้านบนก็เก็บของเพิ่มเติมได้อีก

ส่วนครัวจะได้เคาน์เตอร์ครัวกว้างประมาณ 1.50 เมตรค่ะ มีเตาไฟฟ้า อ่างล้างจานให้มาครบ

ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่กินข้าว นั่งเล่น ต่อเนื่องไปยังระเบียงด้านใน ส่วนทางขวามือจะเป็นประตูทางเข้าไปยังฝั่งห้องนอนค่ะ พอเข้ามาแล้วตรงนี้จะมีพื้นที่กว้างขึ้นจาก 2 เมตร เป็น 2.4 เมตรนะ

พื้นที่กินข้าวเรามองว่ากว้างพอสมควรค่ะ สามารถจัดที่นั่งกินข้าวได้ 2-4 ที่นั่งเลย

ในโปรโมชันเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่แถมในช่วงนี้(ที่เข้าไปถ่ายรีวิว)จะได้ชุดโต๊ะเก้าอี้กินข้าวสำหรับ 2 ที่นั่ง ขาโต๊ะดีไซน์เก๋แบบนี้เลยค่ะ

เข้าไปด้านในสุดจะเป็นพื้นที่รับแขกค่ะ ตรงนี้จะสามารถเชื่อมต่อกับระเบียงได้ด้วย โดยมีผนังทึบเล็กบังตำแหน่งที่วางแอร์และเครื่องซักผ้า ทำให้เวลาเรานั่งเล่นพักผ่อนตรงนี้จะได้บรรยากาศชิลล์ๆ มองออกไปไม่มีอะไรมารกสายตา

โซฟาที่ได้ในช่วงโปรโมชันจะเป็นแบบนี้ค่ะ ขนาด 2-3 ที่นั่งขึ้นอยู่กับแบบห้องนะ

ตรงนี้จะไม่ได้โต๊ะกลางหน้าโซฟาค่ะ แต่ในห้องตัวอย่างที่ลองจัดวางมาให้ดูก็ถือว่าขนาดกว้างเดินไปมาได้สบาย

ฝั่งตรงข้ามจะได้ชั้นวางทีวี 1 ชิ้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่แถมมาในช่วงโปรโมชัน แต่ถ้าดูจากขนาดผนังแล้วเราสามารถทำ Built-in เพิ่มเต็มผนังได้เลยค่ะ จะได้พื้นที่เก็บของเยอะขึ้นด้วยนะ

ชั้นวางทีวีที่ได้จากช่วงโปรโมชันจะมีลิ้นชักและช่องเก็บของตามที่เห็นค่ะ สีขาวเบสิก ดูสะอาดตา

ประตูทางออกไปยังระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกระจก เปิดได้สองฝั่งค่ะ

ระเบียงจะเป็นแบบเข้ามุมที่ได้วิวเปิดโล่งมากขึ้นนะ โดยขนาดระเบียงอยู่ที่ 2.55×1 เมตร ใหญ่ใช้งานได้สะดวกค่ะ

พื้นเป็นกระเบื้องง่ายต่อการทำความสะอาดนะ เราสามารถหาไม้กระถางมาวางปลูกหรือประดับตรงนี้เพิ่มความร่มรื่นให้กับห้องได้

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นตำแหน่งวาง condensing unit แอร์และเครื่องซักผ้า เราอาจจะหากริลติดเบี่ยงพัดลมแอร์ให้ลมร้อนออกไปนอกอาคารได้นะคะ เวลาใช้งานระเบียงจะได้ไม่โดนลมร้อนตรงๆ

หมดโซนแรกแล้วค่ะ เดี๋ยวเราจะไปดูฝั่งที่เป็นห้องนอนกันต่อนะ

ห้องนอนในแบบ 1C นี้จะแยกออกไปเป็นสัดส่วน มีประตูบานทึบกั้นแยก ทำให้ฟังก์ชันนอนพักผ่อนแยกจากห้องนั่งเล่นชัดเจน ในกรณีที่อยู่กัน 2 คน แต่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวเพื่อทำงานหรือคุยงานก็แยกห้องกันได้ เสียงไม่รบกวนกันค่ะ

เข้ามาภายในห้องจะแบ่งเป็นสองฝั่งค่ะ ทางซ้ายเป็นพื้นที่พักผ่อน ทางขวาเป็นห้องน้ำ

ขนาดตรงนี้ประมาณ 2.5×3.75 เมตร ถือว่ากว้างสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้นะคะ

ในช่วงโปรโมชันจะแถมฐานเตียงมาให้ ซึ่งมีฟังก์ชันเก็บของเล็กๆใต้เตียงด้วย

ด้วยหน้ากว้างของห้องอยู่ที่ 2.5 เมตร ทำให้ปลายเตียงเหลือทางเดินประมาณ 40-50 ซม.เท่านั้น จึงไม่เหมาะสำหรับวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆเพิ่มค่ะ

แต่ว่าตัวห้องมีขนาดค่อนข้างลึก จึงมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือทั้งสองฝั่ง หาโต๊ะหัวเตียงมาวางได้ เผื่อเอาไว้วางครีมทามือ ลิปมันหรือว่าของตกแต่งสร้างบรรยากาศให้นอนหลับได้สบายขึ้นนะ

หน้าต่างที่นี่เป็นบานกระทุ้งค่ะ จะดีตรงที่ช่วยลดฝนสาดในช่วงฝนตกได้ดีเลย ดีไซน์หน้าต่างก็ถือว่ากว้างนะ ช่วยให้แสงเข้ามาในห้องได้เต็มที่ค่ะ

ฝั่งด้านในเป็นห้องน้ำค่ะ โดยมีพื้นที่ walk-in closet อยู่หน้าห้องน้ำด้วย ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของห้องเช่นกันนะ ไปดูกันค่ะ

พื้นที่หน้าห้องน้ำตรงนี้ถือว่าเป็นพื้นที่เหลือก็ว่าได้ค่ะ ห้องตัวอย่างจัดให้ดูเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง แต่เราจะทำเป็นมุมทำงานหรือชั้นวางของตู้เสื้อผ้าเพิ่มอีกก็ได้นะ

พื้นที่ walk-in closet หน้าห้องน้ำค่ะ

ตรงนี้จะได้ตู้เสื้อผ้าเข้ามุมเป็นรูปตัว L นะคะ ขนาด 0.90+1.70 เมตรเลย มีพื้นที่ยืนด้านหน้าแต่งตัวใช้งานสบาย เก็บเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ต่างๆได้จุใจ

ลองเปิดตู้มาดูพื้นที่เก็บของด้านในดูค่ะ มีราวแขวนผ้าจัดมาเยอะอยู่นะ รวมไปถึงลิ้นชัก ชั้นวางของต่างๆด้วยถ้าอยู่กันสองคนก็ไม่ต้องแย่งพื้นที่เก็บของกันเลยค่ะ

ส่วนข้างในห้องน้ำก็จะแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก(อาบน้ำ) และส่วนแห้งเอาไว้ แต่จะไม่ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ค่ะ อาจจะหาม่านอาบน้ำแบบในห้องตัวอย่างมาใช้ได้ หรือจะติดเป็นฉากกั้นกระจกก็ได้นะคะ สำหรับใครที่มีงบประมาณ

จุดแรกเมื่อเข้ามาในห้องน้ำจะเจอกับอ่างล้างหน้าและราวแขวนผ้าเช็ดตัวค่ะ

ตัวอ่างล้างหน้าจะมีพื้นที่วางของบริเวณขอบอ่างเล็กน้อย แต่จะได้ชั้นวางของใต้อ่างมาด้วย ดูเรียบร้อยสวยงามเป็นของ Cotto

โถสุขภัณฑ์เป็นของ Cotto เช่นกัน มีสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระมาให้พร้อม

พื้นที่อาบน้ำที่อยู่ด้านในมีขนาด 90×85 ซม.ถือว่าใช้งานหมุนตัวได้สะดวกนะคะ มีพื้นที่ผนังที่สามารถติดชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำได้

พื้นที่อาบน้ำจะมีธรณีประตูยกสูงขึ้นมา แยกโซนไม่ให้น้ำที่อยู่ในโซนอาบน้ำไหลไปทั่วห้องค่ะ

นอกจากห้องตัวอย่างที่พาไปดูแล้วโครงการ ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์ ก็ยังมีผังห้องให้เลือกเยอะมากเลยค่ะ ทั้ง Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom แต่ละแบบก็มี Layout ที่หลากหลายและมีตำแหน่งที่มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปค่ะ

Studio Type

ห้องขนาดเริ่มต้นของที่นี่จะเป็น Studio ขนาด 24-25 ตร.ม. ตำแหน่งที่น่าสนใจคือห้องที่อยู่ใกล้โถงลิฟต์ค่ะ เป็นห้องขนาดเริ่มต้นที่ได้วิวสระว่ายน้ำของโครงการ ซึ่งในโครงการทั่วไปที่เคยเห็นมักจะเอาวิวที่ดีที่สุดไปให้ห้องขนาดใหญ่ จุดนี้เราเลยมองว่าเป็นข้อดีของโครงการเลย

ฟังก์ชันภายในห้องจะเป็นห้อง Studio แนวยาว ทุกฟังก์ชันเชื่อมต่อกันหมด(ยกเว้นระเบียงและห้องน้ำ) เหมาะกับการอยู่คนเดียวเป็นหลักค่ะ เราแนะนำว่าถ้าใครชอบทำอาหารกินเองบ่อยๆให้ลองหาประตูบานเลื่อนกระจกกั้นแยกโซนครัวออกจากห้องนอนและห้องนั่งเล่นนะคะ เพื่อที่เวลาทำอาหารกลิ่นควันจะได้ไม่ลอยไหลไปทั่วห้องค่ะ

1 Bedroom Type

สำหรับห้อง 1 Bedroom จะมีให้เลือกเยอะมาก มีถึง 6 แบบ ซึ่งที่เราพาไปดูห้องตัวอย่างจะเป็นแบบ 1C ส่วนห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดจะเป็นแบบ 1B ส่วนห้องที่เราชอบที่สุดจะเป็นแบบ 1G ค่ะ ห้องแบบนี้เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คนนะคะ สามารถคลิกเลื่อนดูแปลนแต่ละแบบพร้อมคำอธิบายทางด้านล่างได้นะคะ

2 Bedroom Type

ในโครงการ Low Rise หลายๆที่มักจะเน้นขายห้องขนาดเล็กเป็นหลักนะ แต่โครงการ ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์จะมีห้องขนาดใหญ่ 2 ห้องนอนอยู่ด้วย มีให้เลือกถึง 6 แบบค่ะ แบบ SP, SK จะมีอย่างละยูนิตเป็นยูนิตพิเศษใกล้สระว่ายน้ำและยูนิตที่ติดกับ Rooftop ชมจันทร์ เหมาะกับครอบครัวเริ่มต้น อยู่กัน 2-4 คนค่ะ (3 คนกำลังดี) แต่ละแบบจะมีผังและจุดเด่นอะไรบ้าง เลื่อน gallery ทางด้านล่างดูได้เลยค่ะ

ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์ ราคา ณ วันที่ 20 August 2021

• Studio Type 1A ขนาด 24-25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท หรือประมาณ 91,xxx บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom Type 1B ขนาด 29-30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.6x ล้านบาท หรือประมาณ 89,xxx บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom Type 1C (แบบเดียวกับห้องตัวอย่าง) ขนาด 34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.2x ล้านบาท หรือประมาณ​ 94,xxx บาท/ตร.ม.
• 2 Bedroom Type 2A (ห้อง 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้น) ขนาด 45 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.2x ล้านบาท หรือประมาณ 93,xxx บาท/ตร.ม.
• 2 Bedroom Type 2D ขนาด 56 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.2x ล้านบาท หรือประมาณ 92,xxx บาท/ตร.ม.

• รูปแบบการขาย Fully Fitted พร้อม Furniture Built-in บางชิ้นเช่นตู้เสื้อผ้า
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปหินแกรนิต
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ Franke
• จอง 20,000 บาท
• ทำสัญญา 30,000 บาท
• ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 18 งวด
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 58 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :
ที่ตั้งโครงการอยู่ที่ซอยจันทน์ 43 หรือว่าซอยวัดไผ่เงิน ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก มีร้านอาหาร community mall ในระยะเดินถึง มีโรงเรียน วัด บริษัทแทรกตัวอยู่ตลอดทั้งซอย ซึ่งพื้นที่ถนนจันทน์และสาธุประดิษฐ์นี้ถือว่าเป็นโซนชุมชนดั้งเดิมที่เรียกได้ว่าอยู่ใกล้กับสาทรมาก และพอมีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่อยู่เรื่อยๆค่ะ ในแง่ทำเลอาจจะไม่ใช่ทำเลรถไฟฟ้าจึงทำให้คอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นโซนนี้จะมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำลงมาอยู่ไม่ถึง 3 ล้าน (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์ เริ่มต้น 2.2 ล้าน) แต่ด้วยระยะที่ไม่ไกล และมีรถสาธารณะไปยังโซนธุรกิจอย่างสาทร สีลมได้ ทำให้ในแง่การเดินทางก็จัดว่าสะดวกค่ะ ด้วยความที่ทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้โซนสาทรซึ่งเป็น CBD หนึ่งของกรุงเทพฯ และบนถนนสาทรเองก็จะมีโรงเรียน โรงพยาบาล และสำนักงานชั้นนำมากมายค่ะ จากโครงการสามารถเข้าถึงและอิงการใช้งานของสาทรได้เลย

การเดินทางโดยใช้รถ :
จุดที่โครงการตั้งอยู่เป็นถนนจันทน์ซอยที่เชื่อมกับสาธุประดิษฐ์ได้ ทำให้เรามีตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลาย เชื่อมต่อไปยังถนนสำคัญได้หลายเส้น เช่น ถนนสาทร ถนนเจริญกรุง ถนนพระราม 3 ถนนเจริญราษฎร์ ถนนนราธิวาสฯ เป็นต้น และยังอยู่ระหว่างทางด่วน 2 เส้น คือทางด่วนศรีรัช และทางด่วนเฉลิมมหานคร สามารถเลือกใช้งานตามจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้ค่ะ ในส่วนของปริมาณที่จอดรถที่ให้มาอยู่ที่ 44% ถ้าเทียบกับโครงการอื่นที่อยู่ใกล้ๆก็นับว่าเปอร์เซ็นต์ที่จอดรถให้มาใกล้เคียงกันค่ะ ไม่น้อยเกินไปสำหรับคอนโดระดับนี้ แต่ก็ไม่ได้มากเช่นกัน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์เป็นคอนโดที่อยู่ในซอยก็จริง แต่ก็เป็นซอยที่มีรถสาธารณะ(รถแดง)ผ่านหน้าโครงการค่ะ ใช้เดินทางไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าได้ ราคา 8 บาทเท่านั้น นอกจากนี้เราก็แอบเห็นว่าซอยข้างโครงการที่เป็นโรงเรียนก็จะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์จอดรออยู่เลย ใครที่ทำงานโซนสาทร สีลมเรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปทำงานก็เร็วดีนะคะ ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดได้ด้วย หรือจะเรียกไปยังรถไฟฟ้าก็ถือว่าไม่ไกลค่ะ รถไฟฟ้าที่ใกล้ๆก็จะเป็นสถานีเซนต์หลุยส์และสถานีสุรศักดิ์ ระยะห่างประมาณ 2.4 – 2.5 กม. เท่านั้นค่ะ

วัสดุ :
ที่นี่จะมีรูปแบบการขายเป็น Fully Fitted + built-in ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางรองเท้า(ขึ้นอยู่กับแบบห้อง)ให้มา ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์อื่นๆจะแถมมาเฉพาะช่วงโปรโมชันค่ะ ในขณะที่โครงการรอบๆที่ขายอยู่จะขายแบบ Fully Furnished (แต่ราคาโครงการอื่นก็จะเริ่มต้นสูงกว่าเช่นกัน)

ในส่วนวัสดุที่ให้มาภายในตัวห้องอื่นๆก็ถือว่ามาตรฐานนะคะ พื้น SPC อันนี้ถือว่าดี ผนังฉาบเรียบทาสี ติดไฟดาวน์ไลท์ ชุดครัวของ Franke ถือว่าดีค่ะ ส่วนห้องน้ำจะเลือกใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto พื้นผนังกรุกระเบื้องเซรามิก และไม่ได้ให้ฉากกั้นกระจกมา (ส่วนห้องน้ำอาจจะไม่ได้หรูหราเท่าไหร่ ถือว่าเหมาะสมกับช่วงราคาของคอนโดนะ)

การออกแบบ :
แนวความคิดในการออกแบบโครงการนี้มาจากชื่อโครงการที่ว่า Astra ที่เป็นภาษาละติน แปลว่าดวงดาว ดังนั้นทั้งตัวสถาปัตยกรรมภายนอก การออกแบบภายในหรือการเลือกวัสดุที่ใช้ในห้องบางอย่างก็จะอิงกับแนวความคิดนี้ค่ะ ให้มีประกายเหมือนกับดวงดาว

ในส่วนของฟังก์ชันห้องเรามองว่าออกแบบมาหลากหลายมาก มีตัวเลือกให้เลือกตั้งแต่ห้องแบบ Studio type ไปจนถึงห้องแบบ 2 Bedroom มีทั้งครัวเปิด ครัวปิด ครัวใกล้ระเบียง ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของคนซื้อค่ะ และสามารถอยู่ได้ทั้งแบบคนเดียว อยู่กันเป็นคู่ หรืออยู่เป็นครอบครัวก็ได้นะ

สาธารณูปโภค :
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางถือว่าให้มาหลายฟังก์ชันอยู่นะคะ ทั้ง Lobby ที่สูงแบบ Double volume มีสวนเล็กๆ มีห้องนั่งเล่นพักผ่อน ห้องประชุม ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ และมีพื้นที่ดาดฟ้าที่จัดไว้เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนด้วย นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันพิเศษที่เราไม่ค่อยเจอในคอนโดอื่นๆเช่น จุดล้างรถ+เติมลมยาง หรือว่า storage พื้นที่เก็บของที่ให้มาทุกยูนิต อยู่ใกล้กับโถงลิฟต์ แต่เมื่อมาดูค่าส่วนกลางที่ 58 บาทต่อตร.ม.ก็ถือว่าสูงไม่น้อยเช่นกันค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG  86,000 – 93,000 บาท/ตร.ม., 20 August 2021

• ทำเล 7.5/10 – อยู่ในซอยที่ความอุดมสมบูรณ์สูง
• เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เชื่อมต่อถ.จันทน์,ถ.สาธุประดิษฐ์ได้ อยู่ระหว่างทางด่วน 2 สาย
• ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีรถสาธารณะผ่านหน้าโครงการ ไปใช้งานรถไฟฟ้าได้ง่าย
• วัสดุ 7.25/10 – ถือว่ามาตรฐาน บางอย่างได้ค่อนข้างดี
• แบบ 7.5/10 – มีตัวเลือกห้องหลากหลาย
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้มาหลายฟังก์ชัน

• MAIN CLASS
• 7.46 / 10.00

ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์ เหมาะกับใคร?

สำหรับกลุ่มคนที่เหมาะกับโครงการนี้เราขอมองแยกออกเป็น 2 กลุ่มนะคะ
1) กลุ่มคนที่ทำงานในย่านสาทร มองหาคอนโดสำหรับอยู่ ราคาไม่แรงมากต่ำกว่า 3 ล้านบาท เดินทางไปทำงานได้ง่าย อยู่ในย่านที่หาของกินสะดวก คนกลุ่มนี้ก็จะได้คอนโดใกล้ที่ทำงาน ประหยัดเวลาเดินทางไปได้หลายชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว
2) กลุ่มคนที่เดิมอยู่ย่านนี้ เนื่องจากทำเลนี้เป็นชุมชนดั้งเดิม มีคนอยู่อาศัยเยอะ ซึ่งรูปแบบที่อยู่อาศัยมักจะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ที่มีอายุค่อนข้างเก่า คนกลุ่มนี้ก็อาจจะชินถิ่นค่ะ ชอบบรรยากาศของทำเลนี้ ถ้าต้องไปซื้อบ้านใหม่ไกลๆ ขอเลือกเป็นคอนโดบนทำเลเดิมดีกว่า เมื่ออายุมากขึ้นการอยู่คอนโดก็จะมีพื้นที่ส่วนกลาง มีลิฟต์ให้ใช้ ไม่ต้องเดินขึ้นลง คอนโดนี้ก็ตอบโจทย์เช่นกัน แถมมีตัวเลือกที่เป็นห้อง 2 Bedroom ให้เลือกด้วย อยู่กันเป็นครอบครัวได้ ในราคาที่ยังไม่ถึง 6 ล้านบาทค่ะ

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc